[RE: SPOIL ตอบคำถามที่หลายๆคนบ่นและสงสัย ใน Batman v Superman]
loppy123 พิมพ์ว่า:
Pemberton พิมพ์ว่า:
ผมว่าเขารู้กันหมดแหละว่าเหตุผลคืออะไร แต่ที่บ่นๆคือมันทำให้คนดูคล้อยตามไม่ได้ เลยกลายเป็นฝืนๆ เหมือนเปิดประเด็นแล้วไม่สุดซักเรื่อง อย่าง lex นี่ดูแล้วไม่ได้รู้สึกเลยว่าเออ มันมีที่มานะ แต่รู้สึกว่าอะไรของมันเนี่ย หรืออย่างปมแบทแมนที่ต้องออกมาจัดการกับซุป เขาก็เข้าใจกันหมดแหละแต่มันรู้สึกว่า ''อะไรของมัน แค่เนี้ย'' มันครึ่งๆกลางๆทุกปมตั้งแต่ต้นจนจบ ถ้าดูแบบไม่คาดหวังก็ถือเป็นหนังที่ดีเรื่องนึง แต่นี่คนคาดหวังสูงด้วยไงโดยเฉพาะเรื่องบท พอมันได้แค่นี้เลยผิดหวังกัน
ผกก. ต้องการใส่สัญลักษณ์เข้าไปในหนังครับ คือจะไม่ใส่เข้าไปเเบบตรงๆโต้งๆ เเต่จะใส่เข้าไปทีละเล็กละน้อยให้คนดูได้คิดตาม ได้วิเคราะห์ซึ่งกว่าคนดูจะตามทันก็ต้องใช้เวลาไปในการดูหลายๆรอบ เหมือนพวก Watchmen Inception Memento น่ะเเหละ การสื่อสารต่อคนดูเเบบนี้ซึ่งมันก็เหมือนกับเสพงานศิลป์ชนิดหนึ่งน่ะเเหละ
จริงๆหนังเรื่องนี้บทดีมากนะ เเต่ปัญหามันอยู่ที่การเรียงร้อยเข้าด้วยกัน
ส่วนตัวจัดมา 2 รอบล่ะ รอบเเรกนี่เเทบกุมขมับเลย ด่าเเซ๊คเลย มีงทำห่าไรวะ เเต่พอดูอีกรอบเก็บรายละเอียด เออว่ะ บทเเม่งดีว่ะ ไดอะล๊อคเเม่งเจ๋งว่ะ เเต่ก็ยังงงบางซีนบางช็อตว่าใส่มาทำไม เเต่พอได้ลองอ่านที่คนอื่นๆตีความ ตอนนี้เริ่มเข้าใจล่ะ
ลองอ่านดูครับ ไปเจอมาในพันทิพ
http://pantip.com/topic/34962424
เข้าใจครับ แต่ไม่ใช่ประเด็นที่ผมต้องการสื่อ ที่ผมจะสื่อคือคนดูเข้าใจ แต่ไม่อิน การดำเนินเรื่องไม่สามารถทำให้ผมคล้อยตามเหตุผลของตัวละครได้ แต่เข้าใจมั้ย เข้าใจ
อย่าง inception เราไม่เข้าใจปมและเหตุการณ์หลายจุด ทำให้ต้องดูซ้ำ ถึงไม่เข้าใจบางจุดแต่มีอารมณ์ร่วมกับตัวละครหรือไม่ มี แต่ batman ผมดู 2 ครั้ง แต่ไม่ได้รู้สึกว่ามันซับซ้อนอะไรขนาดนั้น ทั้งแรงจูงใจของทุกฝ่ายทั้ง plot ที่หนังต้องการจะสื่อ plot มันดีและชัดเจนมากๆ การวางบทของตัวละครก็แน่นดี แต่การดำเนินเรื่องมันห่วย
เช่นหนังเปิดประเด็นยิบย่อยมาเต็มไปหมดแล้วก็ข้ามไปดื้อๆซะงั้น ไม่ว่าจะเรื่องซุปไปช่วยนางเอกแล้วโดนจัดฉาก นางเอกเหมือนจะพยายามบอกซุปแล้วก็เลิกดื้อๆ ซุปก็ไม่สนอะไรเลยเหมือนจะแคร์แต่ก็ไม่แคร์ หรือเรื่องที่ซุปสงสัยว่าตัวเองไม่เห็นระเบิดหรือไม่มอง เหมือนจะทบทวนตัวเองอยู่พักนึง อยู่ๆก็ตัดไปเล่าตัวละครอื่นแล้วก็เลิกเล่นประเด็นนี้ไปดื้อๆ รวบมาปิดปมทีเดียวเลยตอนเจอลูเธอร์
หรือแบทแมนที่วางให้ดูเป็นจอมวางแผนเหมือนในคอมมิก แต่ที่ได้คริปโตไนท์เพราะโชคดีที่ลูเธอร์ไปเจอเข้า โชคดีที่ซุปตามแสงไฟมาเพราะลูเธอร์จับมาธาไปวันนั้นพอดี แล้วก็ไม่มีการสืบประวัติ ทำความเข้าใจอะไรซุปทั้งนั้น อยู่ดีๆตัดสินใจเลยว่าถึงจะมีโอกาสแค่ 1%ก็ต้องฆ่าทิ้ง วางบทให้เหมือนจะฉลาดที่สุด แต่การกระทำไม่เห็นเข้าข่าย
หรือเล็กซ์ ลูเธอร์ที่เป็นเด็กมีปมเหมือนโลกิจากอีกค่าย แต่มาเวลเล่าปมโลกิด้วยการกระทำ ฉากที่โลกิจะตกโลกแล้วบอกโอดินว่าเขาทำเพื่อพ่อ แล้วโอดินปฏิเสธ โลกิเลยยอมตาย พอมาเทียบกับฉากที่ลูเธอร์บอกซุปว่าถ้าพระเจ้ามีจริงคงส่งใครมาช่วยเขาจากพ่อตั้งแต่เด็กแล้ว ผมรู้สึกว่าเป็นฉากเฉลยปมที่ไร้ชั้นเชิงมาก ตอนนั้นผมฟังแล้วได้แต่ขมวดคิ้วว่าอะไรของมัน
หรือ the dark knight ที่เหมือนจะไม่มีอะไรให้ถกเถียง แต่มันก็คุยกันได้ไม่สิ้นสุดเรื่องความดีความชั่วที่สื่อออกมาผ่านโจ๊กเกอร์กับฮาร์วี่ เดนท์ ผมดูเรื่องนั้นผมก็รู้สึกอินไปกับตัวละครทุกตัวนะ การที่หนังต้องการให้ผู้ชมได้ตีความเอง ไม่จำเป็นต้องทำให้ความสนุกลดลงแต่อย่างใด
เรื่องนี้ทุกอย่างมันดูรีบๆ เปิดปมนู่นนี่มาพร้อมๆกันแล้วตัดจบบ้างข้ามบ้าง ผมว่านั่นแหละปัญหา ไม่ใช่คนดูไม่เข้าใจอะไรหรอก อาจจะเพราะไม่มีภาคแยกของแต่ละตัวมาหรืออะไรก็แล้วแต่ มันเป็นทางเลือกของ dc เองที่จะจับมารวมกันก่อนทำภาคแยก