ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 05 May 2014
ตอบ: 1319
ที่อยู่: 2-1-1 Kita-ichijō-nishi, Chūō-ku, Sapporo-shi, Hokkaido
โพสเมื่อ: Wed Feb 24, 2016 11:59 am
10 สิ่งควรรู้เกี่ยวกับไวรัสซิกา


Zika Virus ถือเป็นวาระระดับโลกไปแล้ว เมื่อพบผู้ป่วยเยอะมากในสหรัฐอเมริกา และล่าสุดพบแล้วในไทย WHO หรือองค์การอนามัยโลกถึงกับประกาศแล้วว่า ใครก็แล้วแต่ที่พึ่งเดินทางไปแอฟริกา ละตินอเมริกา และอเมริกาเหนือ จำเป็นต้องได้รับการตรวจร่างกายเพราะอาจอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเป็นโรคนี้ได้



10 สิ่งควรรู้เกี่ยวกับไวรัสซิกา

1.สำหรับคนส่วนใหญ่อาการของโรคอาจมีเพียงแค่เป็นไข้เล็กน้อย แต่สำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์จะทำให้ลูกมีความเสี่ยงสูงต่อการมีศีรษะและหัวเล็ก หรือที่เรียกว่า Microcephaly ในอัตราสูงมาก และนี่คือ 10 สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับไวรัศซิกา



2.Zika Virus ไวรัสชนิดนี้มียุงลายเป็นพาหะ มักติดจากยุงลายสู่คน ไม่ค่อยติดจากคนสู่คน ส่วนการติดจากคนสู่คน พบครั้งแรกในรัฐเท็กซัสโดยการร่วมเพศ ซึ่งถุงยางอนามัยสามารถป้องกันคุณจะเชื้อนี้ได้



3.อาการของเชื้อ Zika Virus มักบางเบามาก บางคนไม่มีอาการเลย และส่วนใหญ่มีอาการเป็นไข้และผดผื่นเท่านั้น นอกจากนี้บางคนอาจมีอาการปวดข้อ ปวดหัว เจ็บเบ้าตา หรือคันดวงตา จนกระทั่งตาแดง แม้ไม่มียารักษา แต่ยาที่หาซื้อได้ง่ายก็สามารถลดอาการเจ็บป่วยได้แล้ว และอาการเหล่านี้จะหายไปภายใน 2-7 วันเท่านั้น



4.กลุ่มเด็กในครรภ์ เป็นกลุ่มที่กระทบมากที่สุดต่อไวรัสซิกา เพราะเมื่อหญิงตั้งครรภ์ติดไวรัสนี้ เด็กมีแนวโน้มที่สามารถเป็นโลกศีรษะและสมองเล็กได้ง่าย ในปี 2015 พบเด็กแรกเกิดเป็นโรคนี้สูงถึง 4,000 รายในบราซิล



5.ยังไม่มีวัคซีนอะไรรักษาโรคนี้ได้ เป็นไปได้ว่าในอนาคตควรมีวัคซีนเพื่อป้องกันโรคนี้และฉีดให้กับกลุ่มผู้หญิงที่กำลังจะตั้งครรภ์ เพื่อป้องกันการแท้ง หรือเด็กเกิดมาผิดปกติทางสมอง10 สิ่งควรรู้เกี่ยวกับไวรัสซิกา



6.ไวรัสซิกา มีจุดกำเนิดในแอฟริกา และแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วทั่วโลก ตอนพบครั้งแรกคือใน Zika forest หรือป่าซิกาในประเทศอูกันดา ช่วงปี 1947 จากการวิจัยค้นพบว่ามันมียุงลายเป็นพาหะ แต่ก็สามารถติด หนู ได้เช่นกัน เชื้อได้รับการพัฒนาไปเรื่อยๆจนมีการสำรวจพบว่าทำให้เด็กมีความพิการทางสมอง จึงควรเร่งหาวัคซีนโดยด่วน10 สิ่งควรรู้เกี่ยวกับไวรัสซิกา


7.กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวอเมริกา ในปัจจุบันมี 35 คน ที่ค้นพบแล้วว่าติดเชื้อ ไวรัสซิกา



8.ความน่ากังวลครั้งใหญ่สุด คือกลุ่มคนที่ติดเชื้อ ไวรัสซิกา ในท้องที่เสี่ยงเมื่อกลับบ้านแล้ว อาจโดนยุงลายกัด และทำให้ยุงเหล่านั้นติดเชื้อไวรัสซิกา จนกลายเป็นพาหะของโรคนี้ในท้องถิ่นใหม่ในที่สุด



9 วิธีเลี่ยง ไวรัสซิกา เมื่อไปอยู่ในที่สุ่มเสี่ยงได้โดยการทายากันยุง ที่มีส่วนผสมของ picaridin และ oil of lemon-eucalyptus อย่างน้อย 20% DEET หรือ IR3535 เมื่อต้องไปทำกิจกรรมข้างนอก หรือในเวลารุ่งสาง และย่ำค่ำ



10 ควบคุมไวรัสซิกา ได้โดยควบคุมแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย โดยการขจัดแหล่งน้ำขังในบ้าน และใช้ยาจุดไล่ยุงในจุดที่มียุงชุม
Did you know ! กรมควบคุมโรคติดต่อ พึ่งแจ้งว่า ไวรัสซิกา หากมีใครสงสัยว่าจะเป็นควรรีบตรวจเช็ค และเป็นโรคที่ต้องแจ้งความ



ที่มา Lisaguru
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 6815
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Feb 24, 2016 12:06 pm
[RE: 10 สิ่งควรรู้เกี่ยวกับไวรัสซิกา]

เดี๋ยวนี้โรคภัยใหม่ๆ เกิดขึ้นยอะจริงๆ
ขอบคุณสำหรับความรู้และสาระดีๆครับ...
0
0

เข้าร่วม: 03 Sep 2008
ตอบ: 4208
ที่อยู่: Stamford bridge London
โพสเมื่อ: Wed Feb 24, 2016 12:36 pm
[RE: 10 สิ่งควรรู้เกี่ยวกับไวรัสซิกา]
0
0

เข้าร่วม: 02 Nov 2008
ตอบ: 1787
ที่อยู่: โพรงข้างต้นสะแบง
โพสเมื่อ: Wed Feb 24, 2016 12:37 pm
[RE: 10 สิ่งควรรู้เกี่ยวกับไวรัสซิกา]
พอสรุปได้ใช่มั๊ย ไวรัสซิก้าไม่มีผลโดยตรงต่อผู้รับเชื้อ ถ้าไม่ตั้งครรภ์ ก็ไม่เสี่ยงอะไร

แต่ถ้าตั้งครรภ์ไวรัสจะมีผลต่อเด็กทำให้สมองฝ่อ

และผลโดยอ้อมก็คือ คนติดเชื้อ จะเป็นพาหะนำเชื้อซิก้าไปในที่ต่าง ๆ เมื่อถูกยุงกัด ยุงก็จะกระจายเชื้อไปอีกที ไปหาผู้หญิงโชคร้ายที่ตั้งครรภ์อยู่....



โดยคนกระจายเชื้อก็ไม่รู้ตัวว่าตนเองเป็นพาหะ
0
0
เข้าร่วม: 12 Aug 2014
ตอบ: 446
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Feb 24, 2016 2:44 pm
[RE: 10 สิ่งควรรู้เกี่ยวกับไวรัสซิกา]
สรุปง่ายๆนะ

อย่าโดนยุงกัด

จบ
0
0