อ็องโทนี่ มาร์กเซียล จัดว่าเป็นผู้เล่นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สร้างความฮือฮาได้มากที่สุดและอยู่ในทุกวงสนทนาของเด็กผีตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป

ตั้งแต่วินาทีแรกที่ชูยูนิฟอร์มสีแดง ณ แคร์ริงตัน ในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะมาจนถึงวันนี้ที่เขาลงสนามรับใช้ ปีศาจแดง ไปแล้วทั้งสิ้น 29 นัด และซัดไปทั้งหมด 9 ประตู ดูเหมือนทุกคนคงจะลืมไปแล้วว่าเจ้าหนูคนนี้มีค่าตัวมหาศาลถึง 58 ล้านปอนด์ (รวมออฟชั่น) เป็นรองแค่ อังเคล ดิ มาเรีย (59.7 ล้านปอนด์) ในซีซั่นก่อนเท่านั้น

ใช่ครับ ความเคลือบแคลงใจและข้อสงสัยในฝีเท้าของ AM9 ค่อยๆ มลายหายไปจนหมดสิ้นแล้ว เพราะตอนนี้ชายที่ได้รับการขนานนามจากสื่อว่าเป็น “นิว อองรี” ได้กลายเป็น “นิว ฮีโร่” ของมิตรรักแฟนผีทุกท่าน จากผลงานการทำประตูและสไตล์การเล่นที่พร้อมจะเอนเตอร์เทนแฟนผีได้ทุกครั้งที่สัมผัสบอล

วันนี้จึงเป็นโอกาสดีที่เราจะมาทำความรู้จักกับ ฆาตกรไร้เสียง ให้มากขึ้น จากบทสัมภาษณ์ที่ฝากไว้กับรายการ MUTV ซึ่งเขาได้พูดถึงเบื้องหลังความเป็นมาก่อนที่จะเซ็นสัญญากับ ปีศาจแดง ไอดอลในดวงใจทั้งสามคน ตลอดจนถึงไลฟ์สไตล์ส่วนตั๊วส่วนตัว เอาเป็นว่ามาเสพไปพร้อมกันเลยดีกว่า

เอฟร่าชี้ชวนให้สวมชุดผี

บ้านเกิดเมืองนอนของ มาร์กเซียล อยู่ที่ เลซูว์ลิส ชานเมืองกรุงปารีส ซึ่งเคยเป็นถิ่นฐานของ ปาทริซ เอฟร่า เช่นกัน แต่ที่น่ารู้กว่านั้นก็คือ แบ็คซ้ายอารมณ์ดี นี่แหละที่ชักจูงให้เด็กน้อยวัย 20 ปีคนนี้มาค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้งๆ ที่เขาไม่มีโอกาสได้ร่วมงานกันก็ตาม

มาร์กเซียล: ปาทริช เอฟร่า บอกผมว่าที่นี่คือ “สโมสรแห่งแชมป์เปี้ยน” ทุกคนที่นี่กระหายในชัยชนะและอยากคว้าแชมป์ตลอดเวลา ซึ่งพอผมมาถึงที่นี่ปั๊บผมก็สัมผัสได้ด้วยตัวเองเลยล่ะ

สามแข้งไอดอลในดวงใจ

สาเหตุที่ทำให้เขาถูกยกยอปอปั้นว่าเป็น “นิว อองรี” ก็คือ พื้นเพดั้งเดิมที่มาจาก เลซูว์ลิส เหมือนกัน แถมยังเคยเล่นให้กับ อาแอส โมนาโก เหมือนกันอีกต่างหาก ซึ่งเจ้าตัวก็พยายามแสดงการถ่อมตัวเองอยู่ทุกครั้งที่มีคนเอาไปเปรียบเทียบกับ เธียร์รี่ อองรี

อย่างไรก็ตาม แรงบันดาลใจในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพของเขากลับไม่ใช่ ตำนานดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของเดอะ กันเนอร์ส แต่เป็นพี่ชายของเขาที่เป็นนักฟุตบอลเหมือนกัน รวมถึง R9 และ เจ้าเหยินน้อย ด้วย

มาร์กเซียล: ผมได้รับการหนุนหลังจากครอบครัวของผมมาโดยตลอดเลย อย่างพี่ชายของผมเองก็เป็นนักฟุตบอลเหมือนกันนะ เขาคือคนที่ทำให้ผมอยากเป็นนักฟุตบอลเลยล่ะ

ล่ามส่วนตัวชื่อ มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน

แน่นอนว่า การย้ายมาเล่นในอังกฤษตั้งแต่อายุแค่ 19 ปี ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เหมือนเดินไปซื้อกับข้าวที่หน้าปากซอย อุปสรรคอย่างแรกของเขาก็คือ ภาษาอังกฤษ ที่เขาไม่คุ้นเคยมาก่อนเลย สิ่งที่ทำให้ชีวิตเขาง่ายขึ้นก็คือเพื่อนร่วมทีมที่มาจากประเทศเดียวกัน นั่นก็คือ มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน ที่คอยแปลหลักปรัชญาให้ แต่จะพึ่งเพื่อนไปตลอดก็คงไม่ไหว เจ้าตัวก็เลยไปลงเรียนคอร์สภาษาอิงลิชจนเริ่มพูดฟังอ่านเขียนได้แล้ว

มาร์กเซียล: ทุกวันนี้ผมพยายามพูดภาษาอังกฤษมากขึ้น ผมก็เลยเริ่มจะเข้าใจหลายสิ่งหลายอย่างได้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะเลย ผมว่าทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับตัวผมเองล้วนๆ เลยนะ ผมจะต้องหัดฝึกฝนการสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมเป็นภาษาอังกฤษบ้าง

เป็นคนเงียบๆ ไม่ชอบแสงสีเสียง

เจ้าหนูอ็องโต้ ได้รับการดูแลปกปักรักษาเป็นอย่างดี จะเห็นได้ว่าเขาไม่ค่อยให้สัมภาษณ์กับสื่อเจ้าอื่นๆ เท่าไหร่ นั่นก็เพราะเขายังพูดภาษาอังกฤษไม่คล่องนั่นแหละ ที่เห็นๆ นี่ล้วนมาจากสื่อของสโมสรทั้งนั้น

แต่สิ่งที่เราเคยเห็นเคสตัวอย่างของดาวรุ่งหลายๆ คนที่กลายเป็นดาวร่วงในชั่วข้ามคืนนั้นเป็นผลมาจากชีวิตนอกสนามที่เอาแต่หลงใหลในอบายมุขจนไม่รู้จักแยกแยะเวล่ำเวลา แต่เรื่องนี้เด็กผีไม่ต้องห่วงเลยครับ เหตุผลก็เพราะว่า เพชฌฆาตหน้านิ่ง เขามีลูกมีเมียแล้ว แถมงานอดิเรกของเขาก็มีเพียงแค่การไปดูหนัง ซึ่งเขายอมรับแบบตรงๆ ว่าอยากดูหนังดีมีคุณภาพจากบ้านเกิดบ้าง เพราะโรงหนังในแมนเชสเตอร์ไม่ยอมเอามาฉายเลย

มาร์กเซียล: ผมชอบไปเดินเล่น ไปหาร้านอาหารอร่อยๆ ผมไม่โปรดปรานอะไรเป็นพิเศษนะ ผมชอบชีวิตธรรมดาๆ นี่แหละ มารูยาน (เฟลไลนี่) เคยแนะนำร้านอาหารเด็ดๆ มาให้ผมเพียบเลย ซึ่งผมก็ไปลองเฉพาะร้านที่เป็นหนึ่งในยุทธจักรเท่านั้น

มองรูนี่ย์เป็นโมเดลแบบอย่าง

ทั้ง มาร์กเซียล และ รูนี่ย์ ต่างก็มีจุดเริ่มต้นใน “โรงละครแห่งความฝัน” ที่คล้ายกัน นั่นก็คือ การย้ายมาร่วมทีมในช่วงวัยที่เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงประจำวงการ แต่ต่างกันในช่วงเวลา ซึ่ง กองหน้าเบอร์ 9 คนปัจจุบัน ก็หวังจะเรียนรู้จาก กัปตันปีศาจแดง คนนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

มาร์กเซียล: การได้เล่นร่วมกับ รูนี่ย์ เป็นสิ่งที่ดีงามมากๆ มันทำให้ผมได้พัฒนาตัวเองเรื่อยๆ รวมถึงการควบคุมสมาธิตัวเองทุกครั้งที่ลงสนามร่วมกับเขา เพราะแค่มีนักเตะอย่าง รูนี่ย์ อยู่ในทีมเดียวกัน ความมั่นใจของผมก็เพิ่มขึ้นเยอะเลยล่ะ



Credit: manutd.com


แปลและเรียบเรียงโดย : http://www.devilmag.com/page/1556

ขี้ส้นเท้าพระองค์เนเกรโด้

เมื่อนัดที่เจอแมนยูผมอยากให้ฟานกัลอินดี้เปลี่ยนมากร์กซิยาลออกมาก

คือผมกังวลทั้งเกมอ่ะ ได้แต่วิงวอนว่าเมื่อไหร่เดปายจะลงมาช่วยเราซักที ขอร้องล่ะไม่ไหวแล้ว

ยิ่งมันทำหน้านิ่งๆด้วย เหมือนมันแผ่รังสีอำมหิตอยู่ตลอดเวลา

เครียดจริงๆเวลาเห็นมาร์กซิยาลเลี้ยงบอลเข้าเขตโทษ

ถะถะถะถะถรุยยยยยยยย

มาเยี่ยว ไม่ได้มาเล่นๆ

ปัญญาอ่อนบ่อย เลอะเทอะไปทั่ว

มาร่วมชมพระองค์เข้าซังครับ

พระองค์ทรงแย่งซีน

รำคารไอเนเกรโด้ว่ะ

ไม่กล้าโควทตอบมัน เดี๋ยวมันเรื้อนเอา

สวดยอด

ท่านซาตานโหดแท้ รู้ว่าเข้ามาดงตีนเค้า ก็ยังอุตส่าเม้นแรกอีกนะ

เค









เอ








เค

ไหงงั้น

มาเที่ยวมั่นใจ เพราะหมู แม่งทำแย่กว่าตลอด

๖ฮฯฯ๊็ฌฯฌฏณดโ็ฮญุ๋"ฆ