ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 Sep 2013
ตอบ: 10053
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Nov 17, 2015 07:40
บทความ(แปล) :"รูปแบบการเล่นของLVG ที่อาจซ้้ำรอยประวัติศาสตร์United"
เอาหละ ผมขอเริ่มต้นบทความด้วยประโยคนี้

"แมนยูชุดปัจจุบัน คือ สิ่งที่เซอร์เคยคาดหวัง และแฟนๆเคยต่อต้าน"

ฟังแล้วดูน่าแปลกใจใช่มั้ยครับ?

เพราะเวลาเราพูดถึงการทำทีมของท่านเซอร์ เราจะนึกถึงเกมรุกที่จัดจ้าน ระบบปีกสอข้างที่พร้อมจะฉีกกองหลังคู่แข่งออกเป็นชิ้นๆ และคู่หูกองหน้าจอมถล่มประตู ซึ่งแตกต่างจากทีมแมนยูในยุคหลุยส์ ฟานฮาล อย่างสิ้นเชิง




จุดเริ่มต้น

ย้อนกลับไปปี 2000 หนึ่งปีถัดจากยุคทองของยูไนเต็ด ที่สามารถคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ได้ในฤดูกาล1998-99
แมนเชสเตอร์ยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง ด้วยการเดินหน้าคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในปีนั้น ด้วยคะแนนนำห่างทีมอันดับสองอย่างอาร์เซน่อลถึง 18คะแนน พร้อมกะหน่ำประตูไปได้มากถึง97ลูกใน38เกม
แต่ถึงกระนั้นแมนยูก็ไม่สามารถเข้าไปป้องกันแชมป์ในเวทีUCLได้สำเร็จ หลังจากแพ้ให้กับเรอัล มาดริดในรอบ8ทีมสุดท้าย



ในเลกแรก ทั้งสองทีมเสมอกันไป 0-0และเป็นมาดริดที่ครองเกมบุกได้เป็นส่วนใหญ่ จากนั้นเลกที่สอง เรอัลมาดริดของเดล บอสเก้ ที่ไปเยือนโอล์ดทราฟฟอร์ดด้วยระบบ 3-3-2-2 ส่วนแมนยูใช้ระบบ4-4-2เหมือนกับเลกแรก โดยเกมนี้แมนยูมีโอกาสยิงไปทั้งหมด15ครั้ง ส่วนมาดริดมีโอกาสยิงเพียง5ครั้งเท่านั้น แต่สุดท้ายกลายเป็นฝ่ายทีมเยือนที่สามารถเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 3-2 โดยลูกแรกมาจากการสกัดเข้าประตูตัวเองของรอย คีน และอีกสองประตูของมาดริด มาจากการเล่นเกมสวนกลับและการจบสกอร์ที่ยอดเยี่ยมของราอูล
จบเกมนัดนั้น เซอร์ได้ให้สัมภาษณ์ว่า


"One of the forceful reminders delivered by that defeat was that consistent success in Europe would be more readily achieved if we improved our capacity to defend against the counterattack"

“สิ่งที่ได้จากความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ บอกให้เรารู้ว่า หากเราต้องการจะประสบความสำเร็จในเวทียุโรป เราจะต้องแก้ไขการป้องกันลูกสวนกลับให้ดีกว่านี้” –เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน


เซอร์อเล็ก เฟอร์กูสันได้ยอมรับและกล่าวโทษตัวเอง ที่ไม่คิดว่ามาดริดจะใช้แผน3-3-2-2 โดยมี “เรดอนโด้” เล่นเป็นมิดฟิล์ดตัวกลางเพียงคนเดียว


"If I had altered the team early to a 4-3-3 … I am sure we could have won handily, I know that, and could kick myself for delaying the change."

“ถ้าหากเราเปลี่ยนไปเล่น 4-3-3 ผมมั่นใจว่าชัยชนะจะเป็นของเรา ,แต่มันก็สายไปแล้ว ผมหละอยากเตะตัวเองสักครั้งจริงๆ”



จากบทสัมภาษณ์นี้ มันค่อนข้างชัดเจน ท่านเซอร์ได้ตระหนักแล้วว่า ลำพังแผน4-4-2ไม่สามารถเอาชนะรูปแบบการเล่นที่หลากหลาย และแทคติกที่ซับซ้อนของทีมในยุโรปได้ และนี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงทีมครั้งใหญ่



Spoil


ในฤดูกาล2001-2002 เป็นปีของการลองผิดลองถูก โดยเซอร์อเล็ก เฟอร์กูสันได้นำเข้านักเตะอย่าง Juan Sebastian Veron และ Ruud Van Nistelrooy เพื่อปรับจากเกมที่เน้นใช้พละกำลัง มาเป็นเกมที่มีรูปแบบการเข้าทำที่ลงลึกในรายละเอียดมากกว่าเดิม
อีกทั้งยังเปลี่ยนจากระบบ 4-4-2 มาเป็น 4-5-1 โดยใช้คู่กลางเป็น รอย คีน และ เวรอน และให้พอล สโคล ยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวรุก คอยซัพพอร์ทหน้าเป้าอย่าง รุด ฟาน นิสเตลรอย

แต่ดูเหมือนว่าการปรับระบบครั้งนี้ มันอาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อย
ในฤดูกาลนั้นแมนยูภายใต้ระบบใหม่ของท่านเซอร์ ทำผลงานกันได้อย่างย่ำแย่
โดยช่วงก่อนคริสมาสต์ พวกเขาแพ้ไปแล้วถึง10เกมในพรีเมียร์ลีก
และจบฤดูกาลด้วยอันดับสามเท่านั้น แถมโดนบาร์เยิร์น มิวนิค เขี่ยตกรอบ8ทีมสุดท้ายในถ้วยUCLอีก

คาร์ลอส กีย์รอซ ฟันเฟืองชิ้นสำคัญ

ในปี2002 กระบวนการปรับโฉมทีมยังคงดำเนินต่อไป ถึงแม้จะมีกระแสต่อต้านจากแฟนบอลก็ตาม แต่ท่านเซอร์ก็ยังไม่ลดละความพยายามที่จะปรับสไตล์การเล่นให้พอฟัดกับทีมในยุโรปได้
โดยคราวนี้ อาศัยตัวช่วย ด้วยการนำโค้ช ผู้ได้ชื่อว่าเป็น "โค้ชแห่งฟุตบอลสมัยใหม่" เข้ามาเป็นมือขวา

คาร์ลอส กีย์รอซ เข้ามารับตำแหน่งมือขวาในฤดูกาล2002-2003 และสามารถพาทีมคว้าแชมป์ได้สำเร็จ
(และฤดูกาลนี้เป็นฤดูการสุดท้าย ของ เดวิด เบ็คแฮม )

ปี2003-2004 กีย์รอซย้ายไปคุมทีมมาดริดได้เพียงฤดูกาลเดียว ก็ถูกปลด เพราะจบฤดูกาลด้วยอันดับ4เท่านั้น

ปี2004-2005 แมนยูพลาดแชมป์ให้กับเชลซี โดยมีคะแนนตามหลังแค่3คะแนน



จุดสิ้นสุดยุคเดิม และเริ่มต้นเข้าสู่ยุคใหม่

กีย์รอซ มีบทบาทสำคัญในช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงครั้งนั้นอย่างมาก เขาพยายามปรับรูปแบบการซ้อม ให้เน้นซ้อมเล่นบอลกับพื้นมากขึ้น ฝึกการเข้าทำ
แต่ดูเหมือนผู้เล่นจะไม่ค่อยแฮปปี้กับรูปแบบการซ้อมที่ดูน่าเบื่อสักเท่าไหร่ และแน่นอนตัวก่อหวอดก็ไม่ใช่ใครที่ไหน "รอย คีน" คู่กรณีของ คาร์ลอส กีย์รอซ นั่นเอง

"พวกเราเบื่อรูปแบบการฝึกซ้อมของเขา"-Gary Nevile
คำพูดที่เนวิลล์บอกกับเซอร์หลังเหตการณ์ที่รอย คีน ทะเลาะกับกีย์รอซ เพราะไม่พอใจเรื่องบ้านพักที่กีย์รอซเป็นคนจัดเตรียมไว้ให้ช่วงปรีซีซั่น2005/2006 ซึ่งเนวิลล์เป็นตัวแทนในการประชุมทีมในวันนั้น ประโยคดังกล่าวเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่า พวกเขาไม่แฮปปี้กับแท็คติกและเซสชั่นการซ้อมของคาร์ลอส กีย์รอซ

"รอย คีน มีอิทธิพลอย่างมากในห้องแต่งตัวของเรา และผมเชื่อว่าเขาได้ใช้อิทธิพลนั้นพยายามเปลี่ยนแปลงสถานการณ์"
"พวกคุณฟังผมนะ กีย์รอซนั้นเป็นโค้ชและผู้ฝึกสอนที่ยอดเยี่ยม มันก็จริงที่เขาอาจจะจัดตารางการออกกำลังซ้ำๆซากๆ
แต่นั่นแหละที่ทำให้คุณเป็นนักฟุตบอลที่ดี มันคือพลังแห่งกิจวัตรที่เกิดจากการเฝ้าทำทุกๆวัน" - จากหนังสือ Alex Ferguson: My Autobiography



หลังเหตุการณ์ในตอนนั้น เซอร์ตัดสินใจขับไล่ รอย คีน ออกจากทีม นั่นเป็นสิ่งที่ช่วยยืนยันว่า ท่านเซอร์มีความเชื่อมั่นในตัวของคาร์ลอส กีย์รอซอย่างมาก
ถึงแม้แทคติกที่กีย์รอซนำมาติดตั้งให้ จะเป็นสิ่งที่ถูกต่อต้านจากนักเตะ และแฟนบอลก็ตาม แต่ท่านเซอร์ก็ยังคงเชื่อมั่นว่า รูปแบบการเล่นที่ทันสมัย จะนำมาซึ่ง ถ้วยรางวัลจากเวทีแชมป์เปี้ยนลีกมาได้อย่างแน่นอน

ในตอนนั้นแฟนบอลรู้สึกโกรธแค้นอย่างมาก โดยมุ่งเป้าโจมตีไปที่สไตล์การเล่นที่เอาแต่ครองบอล แฟนบอลในโอลด์ แทรฟฟอร์ดพร้อมใจกัน ตระโกนว่า
"Four Four Two","Four Four Two"
เพื่อแสดงออกถึงความต้องการที่จะให้เซอร์เฟอร์กี้ กลับมาใช้ระบบ4-4-2เหมือนเดิม

(อ่านถึงตรงนี้ ยิ่งไม่อยากจะเชื่อเลยเนอะ ว่ามั้ย? มันดูเหมือนเหตุการณ์ในตอนนี้มากๆ ที่แฟนๆตะโกน"Attack,Attack"ใส่ทีมของหลุยส์ ฟานฮาล


หลังจากรอย คีนโดนท่านเซอร์ถีบส่ง สื่อต่างๆเริ่มวิพากย์วิจารณ์ และโจมตีกีย์รอซว่าเป็นตัวการที่ทำให้ทีมต้องแตกเป็นเสี่ยงๆ

"กีย์รอซนำระบบ4-5-1มาติดตั้งให้กับยูไนเต็ด ทำให้พวกเขาต้องเจอกับความยากลำบากตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา
และจากสามเกมล่าสุด (เกมกับแมนซิตี้,บียาเรอัล และลิเวอร์พูล) พวกเขายิงตรงกรอบแค่ห้าครั้งเท่านั้น" - Dominic Fifield,The Guardain


"กีย์รอซ คือบุรุษผู้ที่แฟนบอลเย้ยหยัน ว่าเป็นชายผู้ที่เข้ามาพร้อมกับความล้มเหลว" -Johnny Flacks

"พอกันทีสำหรับระบบ4-3-2-1 มันคือการฉีกวัฒนธรรมเดิมๆของสโมสรที่มีมาตั้งแต่ยุค60" -Rob Symth, The Guardian.

ยุคสมัยใหม่ของUnited

การพลาดได้ตัว Robben และ Ronaldinho ทำให้ยูไนเต็ด ต้องหันไปนำเข้านักเตะหนุ่ม อย่าง Rooney และ Ronaldo
คาร์ลอส กีย์รอซพูดเอาไว้ว่า

"อนาคต มันน่าตื่นเต้นเสมอ และผมเชื่อว่า ถ้าหากพวกเราสามารถรักษานักเตะที่ดีที่สุดเอาไว้ได้ เราจะกลายเป็นทีมที่แข็งแกร่ง ไปตลอดอีก10ปี"

หลังจากนั้น กีย์รอซ ก็ยังคงมองหานักเตะใหม่ คนที่เหมาะสมกับระบบการเล่นของเขา เข้ามาสู่ทีมเรื่อยๆ



ต่อมาในฤดูกาล 2007-2008 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก ได้สำเร็จ โดยตลอดเส้นทางการคว้าแชมป์เปี้ยนลีกส์ พวกเขามักจะเลือกใช้ระบบ4-5-1หรือ4-4-1-1กับทีมยุโรป และใช้4-4-2เมื่อเจอทีมพรีเมียร์ลีก

(สังเกตุได้จากการที่พวกเขาใช้แผน4-5-1(4-2-3-1) ในการรับมือกับบาร์ซ่า ในรอบรอง และกลับมาใช้4-4-2ในรอบชิงกับเชลซี(ทีมจากอังกฤษ))



เราอาจพูดได้ว่า นี่คือ
"การตกผลึกทางแทคติก"ของท่านเซอร์

เพราะนับจากนั้น เรามักจะเห็นท่านเซอร์ใช้แผน4-4-1-1ในUCLมาตลอด


จบแล้วครับ

เหตุผลนึงที่ผมเลือกบทความนี้มาแปล จริงๆแล้ว ชื่อภาษาอังกฤษของบทความนี้คือ
"LEARNING FROM THE PAST: LOUIS VAN GAAL & CARLOS QUEIROZ"
บทเรียนจากอดีต : หลุยส์ฟานฮาล และ คาร์ลอส กีย์รอซ


ซึ่งผมก็ว่ามันเหมือนกันจริงๆ
โดยเฉพาะรูปแบบการเล่น การปล่อยนักเตะลูกหม้อออกจากทีม การผลัดใบด้วยนักเตะหน้าใหม่ และรวมไปถึงกระแสต่อต้านจากแฟนบอล และนักวิจารณ์

ต่างกันตรงที่ ตอนสุดท้าย ท่านเซอร์ค้นพบแนวทางที่ดีที่สุดสำหรับทีม
ส่วนตอนนี้ก็คงต้องมาลุ้นว่า หลุยส์ ฟานฮาล จะเขียนตอนจบของตัวเองยังไง

ที่มา แปลมาจาก http://livelifeunited.com/ target="_blank" href="http://upic.me/show/57230460" rel="nofollow" title="http://upic.me/show/57230460" target="_blank">

[url=
http://upic.me/show/57230213]





แก้ไขล่าสุดโดย Famelaini เมื่อ Tue Nov 17, 2015 22:15, ทั้งหมด 15 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออนไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 18315
ที่อยู่: ทางช้างเผือก
โพสเมื่อ: Tue Nov 17, 2015 10:29
Top Comment [RE: บทความ(แปล) :"รูปแบบการเล่นของLVG ที่อาจซ้้ำรอยประวัติศาสตร์United"]
sportmanu พิมพ์ว่า:
สิ่งที่หนึ่งที่ไม่เหมือนกัน คือ ป๋ากล้าที่จะเอารอย คีน ที่มีอิทธิพล ออก แต่ LVG ไม่มีความกล้าที่จะเอา เวย์ รูนีย์ ออก ครับ ถ้าจะเข้าสู่ยุคใหม่จำเป็นต้องมีความกล้าในการเปลี่ยนแปลงครับ  


มันคนละเรื่องกันเลยนะครับ คนนึงฟอร์มตก กับคคนนึงทำให้บรรยากาศในทีมเสีย




ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status: We are Manchester United
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 594
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Nov 17, 2015 08:37
Top Comment [RE: "รูปแบบการเล่นของLVG ที่อาจซ้้ำรอยประวัติศาสตร์United"]
สิ่งที่หนึ่งที่ไม่เหมือนกัน คือ ป๋ากล้าที่จะเอารอย คีน ที่มีอิทธิพล ออก แต่ LVG ไม่มีความกล้าที่จะเอา เวย์ รูนีย์ ออก ครับ ถ้าจะเข้าสู่ยุคใหม่จำเป็นต้องมีความกล้าในการเปลี่ยนแปลงครับ
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status: We are Manchester United
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 594
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Nov 17, 2015 08:37
[RE: "รูปแบบการเล่นของLVG ที่อาจซ้้ำรอยประวัติศาสตร์United"]
สิ่งที่หนึ่งที่ไม่เหมือนกัน คือ ป๋ากล้าที่จะเอารอย คีน ที่มีอิทธิพล ออก แต่ LVG ไม่มีความกล้าที่จะเอา เวย์ รูนีย์ ออก ครับ ถ้าจะเข้าสู่ยุคใหม่จำเป็นต้องมีความกล้าในการเปลี่ยนแปลงครับ
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 09 Sep 2013
ตอบ: 1320
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Nov 17, 2015 08:42
[RE: "รูปแบบการเล่นของLVG ที่อาจซ้้ำรอยประวัติศาสตร์United"]
ถ้ามกราได้ตัวรุก จี๊ดๆ กล้าลุยนี่ กล้าเลี้ยงนี่ เปลี่ยนโฉมทีมได้แน่นอน
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
45IDJZ.gif
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Apr 2010
ตอบ: 6945
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Nov 17, 2015 08:48
[RE: "รูปแบบการเล่นของLVG ที่อาจซ้้ำรอยประวัติศาสตร์United"]
กลับมาใช้ 3-5-2


1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

I'M BACK !!!

Programmer โนวิท

TRAT FCช้างขาวจ้าวเกาะ
ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 Sep 2013
ตอบ: 10053
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Nov 17, 2015 08:50
[RE: "รูปแบบการเล่นของLVG ที่อาจซ้้ำรอยประวัติศาสตร์United"]
ผมแปลเรื่องนี้แล้ว ทำให้ผมมองข้ามไปที่ยุคหลังฟานฮาลเลยครับ

มันน่าสนใจนะ เพราะหลังจากคว้าแชมป์ปี2008 กีย์รอซ ลาออก

แล้วเราก็เข้าชิงUCL 2 ปีติดเลย

หวังว่าคนที่สานต่อจะทำได้แบบนั้นบ้างนะ
6
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลลีกภูมิภาค
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 May 2008
ตอบ: 4442
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Nov 17, 2015 09:56
[RE: "รูปแบบการเล่นของLVG ที่อาจซ้้ำรอยประวัติศาสตร์United"]
เห็นด้วยว่ายุคต่อไปถ้าคนมาทำต่อเจ๋งจริง ไปไกลแน่

เพราะ ลุงกัล แกวางระบบการจ่ายบอล การครองบอลอะไรให้นักเตะ

แบบแน่นๆแล้ว คนต่อไปถ้าเสริมเรื่องการเข้าทำที่วูบวาบหลากหลายขึ้นได้

นี่น่าสนุกแน่นอน
3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน



ออนไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 30619
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Nov 17, 2015 10:20
"รูปแบบการเล่นของLVG ที่อาจซ้้ำรอยประวัติศาสตร์United"
คาลอส กีย์รอส ผู้ให้กำเนิดเบเบ้ซิอุส
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status: เป็นแฟนแมนยู ไม่ดีเท่าได้ยูเป็นแฟน ^_^
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2008
ตอบ: 13448
ที่อยู่: มหานคร
โพสเมื่อ: Tue Nov 17, 2015 10:28
[RE: บทความ(แปล) :"รูปแบบการเล่นของLVG ที่อาจซ้้ำรอยประวัติศาสตร์United"]
ปัญหาคือคนที่คุมบังเหียนผีไม่ใช่ป๋านี่สิ อิทธิพลจะพาทีมกลับไปยิ่งใหญ่ได้มั้ย อันนี้น่าคิดมากๆ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 18315
ที่อยู่: ทางช้างเผือก
โพสเมื่อ: Tue Nov 17, 2015 10:29
[RE: บทความ(แปล) :"รูปแบบการเล่นของLVG ที่อาจซ้้ำรอยประวัติศาสตร์United"]
sportmanu พิมพ์ว่า:
สิ่งที่หนึ่งที่ไม่เหมือนกัน คือ ป๋ากล้าที่จะเอารอย คีน ที่มีอิทธิพล ออก แต่ LVG ไม่มีความกล้าที่จะเอา เวย์ รูนีย์ ออก ครับ ถ้าจะเข้าสู่ยุคใหม่จำเป็นต้องมีความกล้าในการเปลี่ยนแปลงครับ  


มันคนละเรื่องกันเลยนะครับ คนนึงฟอร์มตก กับคคนนึงทำให้บรรยากาศในทีมเสีย




ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 26 Oct 2010
ตอบ: 695
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Nov 17, 2015 11:14
[RE: บทความ(แปล) :"รูปแบบการเล่นของLVG ที่อาจซ้้ำรอยประวัติศาสตร์United"]
sportmanu พิมพ์ว่า:
สิ่งที่หนึ่งที่ไม่เหมือนกัน คือ ป๋ากล้าที่จะเอารอย คีน ที่มีอิทธิพล ออก แต่ LVG ไม่มีความกล้าที่จะเอา เวย์ รูนีย์ ออก ครับ ถ้าจะเข้าสู่ยุคใหม่จำเป็นต้องมีความกล้าในการเปลี่ยนแปลงครับ  


ต่างกันตรงที่คีนต่อต้านการเปลี่ยนแปลง แต่รูนี่ย์ยอมทำทุกอย่างตามผู้จัดการทีมบอก
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
แกรี่ เนวิลล์: ถึงเวลาแล้วสำหรับแฟนๆ ของ แมนฯ ยูไนเต็ด รวมถึงตัวผมเองด้วยที่จะต้องยอมรับว่ายุคสมัยอันยิ่งใหญ่ของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มันผ่านไปแล้ว ดังนั้นหยุดพิพากษาผลงานในปัจจุบันด้วยความสำเร็จเก่าๆ ได้แล้ว
ออนไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status: ทุกสิ่งล้วนเป็นเรื่องสมมติ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 17 Jan 2009
ตอบ: 19833
ที่อยู่: รูในแอปเปิ้ล
โพสเมื่อ: Tue Nov 17, 2015 11:19
[RE: บทความ(แปล) :"รูปแบบการเล่นของLVG ที่อาจซ้้ำรอยประวัติศาสตร์United"]
Lebron17 พิมพ์ว่า:
sportmanu พิมพ์ว่า:
สิ่งที่หนึ่งที่ไม่เหมือนกัน คือ ป๋ากล้าที่จะเอารอย คีน ที่มีอิทธิพล ออก แต่ LVG ไม่มีความกล้าที่จะเอา เวย์ รูนีย์ ออก ครับ ถ้าจะเข้าสู่ยุคใหม่จำเป็นต้องมีความกล้าในการเปลี่ยนแปลงครับ  


มันคนละเรื่องกันเลยนะครับ คนนึงฟอร์มตก กับคคนนึงทำให้บรรยากาศในทีมเสีย
 


....ผมว่าหลังๆแก ดันไมค์ สมอลลิ่ง ด้านความเป็นผู้นำขึ้นเรื่อยๆนะ ถ้าไมค์ดีพอเมื่อใด ผมว่ารูนี่ ได้นั่งบ้างแน่ๆถ้านั่งแล้วงอแง+ผลงานทีมดี ปลิวแน่่อน

ปล.ถ้าต้องการคนจริง คนกล้า แนะนำโบอาสเลย กล้าจนตัวเองปลิว
แก้ไขล่าสุดโดย giggscii เมื่อ Tue Nov 17, 2015 11:20, ทั้งหมด 1 ครั้ง
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status: We are Manchester United
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 594
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Nov 17, 2015 11:21
[RE: บทความ(แปล) :"รูปแบบการเล่นของLVG ที่อาจซ้้ำรอยประวัติศาสตร์United"]
Lebron17 พิมพ์ว่า:
sportmanu พิมพ์ว่า:
สิ่งที่หนึ่งที่ไม่เหมือนกัน คือ ป๋ากล้าที่จะเอารอย คีน ที่มีอิทธิพล ออก แต่ LVG ไม่มีความกล้าที่จะเอา เวย์ รูนีย์ ออก ครับ ถ้าจะเข้าสู่ยุคใหม่จำเป็นต้องมีความกล้าในการเปลี่ยนแปลงครับ  


มันคนละเรื่องกันเลยนะครับ คนนึงฟอร์มตก กับคคนนึงทำให้บรรยากาศในทีมเสีย
 

แต่ผมกลับมองว่า ถ้าคนหนึ่งถูกโอ๋ มาก ๆ แม้จนกระทั่งไม่กล้าทำอะไร คนที่เหลือก็เสียกำลังใจ แม้จะทำดีเท่าไร ก็ยังต้องตกเป็นรอง
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 25 Aug 2007
ตอบ: 6674
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Nov 17, 2015 11:32
[RE: บทความ(แปล) :"รูปแบบการเล่นของLVG ที่อาจซ้้ำรอยประวัติศาสตร์United"]
นักเตะบางคนบอก LVG เป็นจุดเริ่มต้นความสำเร็จของบาซ่าและบาร์เยิร์นในยุคถัดมา ถึงแม้ผลงานของ LVG กับบาซ่าและบาร์เยิร์น ไม่ค่อยจะโดดเด่นซักเท่าไหร่ หวังว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนั้นกับแมนยูฯบ้าง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: "ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน"
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2014
ตอบ: 25972
ที่อยู่: รับบูชาพระเครื่อง วัตถุโบราณ ของแปลก PM
โพสเมื่อ: Tue Nov 17, 2015 11:44
[RE: บทความ(แปล) :"รูปแบบการเล่นของLVG ที่อาจซ้้ำรอยประวัติศาสตร์United"]
ในส่วนที่แตกต่างกัน คือทีมของ เฟอร์กี้ยุคใหม่ มีเกมโต้กลับเร็วที่อันตราย แต่พื้นฐานก็มาจากการตั้งรับที่เหนียวแน่นก่อน จะเห็นได้ว่า ช่วงนั้นเป็น เฟอร์ดินาน วิดิช ที่มีผลงานโดดเด่น เพราะทีมเน้นเกมรับเยอะมาก เรียกได้ว่าเป็นแชมป์เพราะเกมรับ หลายเกม นำลูกเดียวแล้วโดนท้ายเกม จบเสมอก็มึ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน






ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 16762
ที่อยู่: อยู่ตรงนั้นเธอคิดถึงฉันสักเท่าไหร่
โพสเมื่อ: Tue Nov 17, 2015 11:49
[RE: บทความ(แปล) :"รูปแบบการเล่นของLVG ที่อาจซ้้ำรอยประวัติศาสตร์United"]
รอดูในอนาคตต่อไป ยูไนเต็ดในยุคที่ผมโตมาได้ปิดฉากไปแล้ว ต่อไปคือยูไนเต็ดยุคใหม่ที่ผมจะตามเชียร์ต่อ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


It’s simple, our responsibilty isn’t to control people. Our #1 responsibility is to control ourselves.
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel