"เงิน การตลาด ฟุตบอลอังกฤษ"

ไม่ต้องสงสัยว่าสิ่งที่ทำให้ลีกอังกฤษขับเคลื่อนได้ทุกวันนี้คือ "เงิน" ที่หมุนเวียนอยู่ในลีกมหาศาล

หากลองศึกษาโมเดลทางการเงินที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลแล้วนั้น ส่วนหนึ่งมาจากกลุ่มทุนที่เข้าไปลงทุน ซึ่งมีหลายทีมที่เจ้าของทีมไม่ใช่คนที่มีสัญชาติอังกฤษ และธุรกิจของนักลงทุนยุคบุกเบิกเหล่านี้ กลายเป็นโมเดลที่อังกฤษนำมาใช้เป็นส่วนสำคัญสำหรับการขับเคลื่อนลีกไปข้างหน้า มองเป็นเรื่องดีมันก็ดี เพราะมันเป็นเงินลงทุนฟรีที่เกิดจากต่างชาติทำให้มูลค่าทางการตลาดของพรีเมียร์ลีกสูงขึ้นไปด้วย

แล้วมันดีจริงหรือ???

อย่าลืมว่าทรัพย์สินมันก็กลายเป็นของนักธุรกิจต่างชาติ นักธุรกิจจะเข้ามารุกคืบกลืนกินเกมส์กีฬา นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาถือหุ้นใหญ่ในสโมสร ถืออำนาจที่มีอยู่มากมาย เขาเหล่านั้นสามารถที่จะใช้เงินฟาดหรือใช้นิ้วชี้สั่งการ สนองความต้องการในระยะสั้นไปจนถึงยาว และเมื่อเป็นเช่นนี้ สปอนเซอร์หลายราย ก็รุกคืบเข้าหาทีมใหญ่ ทำให้มีรายได้อีกมหาศาล ทำให้เกิดการเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดด

แล้วมันพัฒนาจริงรึเปล่า???

ตอบแบบไม่ต้องสงสัยว่ามีส่วนจริง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะตอนนี้อังกฤษกำลังล้มเหลวกับระบบเยาวชนของตนเอง หากมองย้อนกลับไป จะเห็นว่า เดิมทีพื้นฐานที่นำมาใช้พัฒนาลีก ถูกสร้างจากระบบเยาวชน การพัฒนาเยาวชนถือเป็นเรื่องสำคัญที่หลายสโมสรให้ความสำคัญมากๆ รายได้ที่ได้จากการซื้อขายนักเตะหมุนเวียนอยู่ภายใน และเยาวชนก็มีโอกาสได้พิสูจน์ฝีเท้า แต่ปัจจุบัน เยาวชนอังกฤษไม่มีโอกาสได้เกิดมากนัก และนี่คือเหตุผลว่าทำไมเยาวชนอังกฤษถึงมีราคาแพง เกิดมาซักคนนี้เหมือนพระเจ้าประทานพรแก่ชาวเมืองยังไงยังงั้น ความต้องการความสำเร็จแบบเร่งด่วน คือตัวแปรสำคัญที่ทำให้เงินถูกทุ่มใช้ไปอย่างหนักกับนักเตะต่างชาติที่ให้ผลสำเร็จตามต้องการมากกว่า นี่คือผลพลอยได้ที่เกิดขึ้นจากนักธุรกิจที่เข้ามาลงทุน ทำให้พรีเมียร์ลีก ไม่เหลือที่ไว้ให้เยาวชนอังกฤษของตัวเอง

นักเตะอังกฤษกำลังถดถอยแทนที่จะเพิ่มมากขึ้น???

ก็ไม่แปลกที่เยาวชนชาวอังกฤษ จะหันหลังให้กับฟุตบอล แล้วเลือกที่จะไปทำอาชีพอื่นแทนการมาเล่นฟุตบอล เพราะมันเป็นเรื่องยากที่จะได้เล่นฟุตบอลในระดับสูงสุดหากขาดความมานะและพรสวรรค์ระดับสูง และยิ่งไม่ได้เริ่มเป็นเด็กฝึกหัดที่เล่นให้ทีมระดับบิ๊กหรือทีมในพรีเมียร์ลีก ก็คงได้เกิดยาก เพราะมีแต่จะต้องไปวนเปลี่ยนหมุนเวียนอยู่กับทีมระดับแชมป์เปี้ยนชิพ นี่คงจะทำให้เหลือก็เพียงทีมเล็กๆที่ยังคงเดินหน้าปั้นเยาวชนของตนเองเพียงอย่างเดียว เพราะทีมใหญ่ๆสามารถใช้อำนาจทางการเงินในการบริหารจัดการเรื่องนี้ให้ง่ายขึ้น ความจำเป็นที่ควรให้ความสำคัญกับนักเตะอังกฤษเองเมื่อเทียบกับนักเตะต่างชาติเก่งๆแล้ว มันไม่มีความจำเป็นต้องเหลียวแลคนอังกฤษเลย สู้ไปให้ความสำคัญกับสตาร์ราคาแพงที่ซื้อมาแล้วได้ค่าการตลาดซะยังจะดีกว่า นี่คือเหตุผลที่ทำให้อัตราส่วนของนักเตะอังกฤษลดน้อยถอยลงไป

หากเทียบกับกีฬาอื่นหรือลีกอื่นๆ???

เทียบกับ NBA หรือ NFL ที่มีมูลค่าทางการตลาดสูงเช่นเดียวกัน มีเรื่องของธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้องมากมาย ทีมใน NBA หรือ NFL ต่างก็โกยรายได้มหาศาลเช่นเดียวกัน แต่สิ่งที่แตกต่างคือ เงินทุนที่คอยขับเคลื่อนส่วนใหญ่ยังมาจากคนอเมริกันโดยคนอเมริกันเอง ซึ่งมันแตกต่างกับอังกฤษอย่างมาก เพราะโมเดลที่ใช้ขับเคลื่อนมีสถานะของตัวแปรพื้นฐานที่ต่างกัน หรือเทียบกับ ทีมฟุตบอลอย่างโวล์ฟบวร์กที่มีโลโก้ Volkswagen บนอกเสื้อ ซึ่งเป็นแบรนด์เยอรมันเอง เทียบกับอกเสื้อจากทีมพรีเมียร์ลีกแล้ว มันก็ไม่ต่างการสร้างมูลค่าการตลาดให้กับคนที่จ่ายเงินซื้อค่าสื่อโฆษณาบนอกเสื้อนั่นแหล่ะ แต่ตัวแทนที่เป็นคนขายแบรนด์ต่างๆนั้น กลับเป็นแบรนด์ต่างชาติที่รุกคืบเข้ามา ถ้ามองในมุมมองของนักลงทุนที่ซื้อแล้วมีความคุ้มค่ามหาศาล แต่หากมองในมุมมองของคนอังกฤษเองแล้ว ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินลงทุนกำลังทำให้พวกเขาขาดทุนจากทรัพยากรมูลค่ามหาศาลที่พวกเขามีอยู่

ทั้งหมดนี้ มันกำลังนำอังกฤษเข้าสู่ยุคมืดอยู่รึเปล่า???

ผมมองว่า สิ่งที่พรีเมียร์ลีกกำลังทำอยู่นี้ ไม่ต่างอะไรกับการซื้อเวลาเพื่อยื้อธุรกิจฟุตบอลไปสู่อนาคตเลย จริงอยู่ว่ามันได้ผล แต่ถ้ามองกันในระยะยาว มันเป็นผลลัพธ์ที่สามารถยอมรับได้ในระยะยาวจริงๆ หรือว่ามันเป็นผลลัพธ์ที่กำลังบ่อนทำลายฟุตบอลอังกฤษกันแน่ ธุรกิจย่อมอยู่ได้เมื่อมีคนติดตาม แต่คนอังกฤษกำลังจ่ายเงินบริโภคแบรนด์ต่างชาติที่ใช้ชื่ออังกฤษอยู่รึเปล่า นี่คงเป็นการสร้างประเด็นคำถามที่น่าสนใจพอสมควร และหากทุกคนมองมุ่งเน้นไปที่ผลประกอบการธุรกิจเพียงอย่างเดียวมันก็มีแต่กราฟที่พุ่งขึ้นแสดงให้เห็นถึงการพัฒนา แต่ทว่ากราฟพื้นฐานสำคัญที่ไม่ได้ถูกนำมาเปิดเผยมันกำลังถดถอย ฉะนั้นสิ่งที่สื่ออังกฤษกำลังนำเสนอให้เราเห็นอยู่ทุกวันนี้มันเป็นแค่เปลือกรึเปล่า?




บทความโดย: ผมเอง

แผล่บก่อนค่อยอ่าน

เม้นก่อนค่อยอ่าน

หลายๆอย่าง ผมเห็นด้วยนะ เรื่องระบบเยาวชนพวกนี้

แต่ผมไม่เห็นด้วยเรื่องยุคมืดของลีคอังกฤษนะ มันยากมากเลยที่จะเกิด เพราะกระแสเงินมันไหลเวียนเข้าไปอยู่ในระบบเยอะมาก โอกาสที่จะล้มก็คงเป็นเพราะการบริหารเงินจัดการทีมตัวเองมากกว่า ทุนนิยมมันค่อนข้างฝังตัวลึกลงไปแล้ว ยังไงก็เอาตัวรอดได้ ผมเชื่ออย่างนั้นนะ

และอีกอย่าง



ถ้าเทียบกับทั่วโลกแล้ว ผมว่าคนต่างชาติบริโภคแบรนด์อังกฤษ (ซึ่งในที่นี้ก็คือสโมสร) มากกว่าคนอังกฤษเองอีกนะ

มันอยู่ที่มุมมองมากว่า ถ้ามองว่าอังกฤษล้มเหลวในผลงานระดับชาติหรือไม่ ก็ต้องตอบว่าใช่ เพราะมันเป็นผลมาจากระบบเยาวชนที่ไม่แข็งแกร่งเท่าประเทศอื่นๆ

แต่ถ้ามองว่าการประสบความสำเร็จคือ การได้กำไร จากเงินทุนที่เข้ามา ยังไงอังกฤษก็ชนะขาด ซึ่งในแง่ของการลงทุนทุกอย่าง ทุกๆองค์กรก็ต้องการกำไรอยู่แล้ว ไม่มีที่ไหนหรอกครับ ที่ยอมขาดทุน หรือแทบไม่มีกำไร แต่ได้รางวัลมากมาย ไม่งั้นก็คงเป็นองค์กรช่วยเหลือสังคม ไม่หวังผลตอบแทนนะสิครับ

ปล. คหสต.

เห็นด้วยหลายๆเรื่อง แต่ขอค้านนิดนึงนะครับเรื่อง นักเตะอังกฤษ คือผมคิดว่าเยาวชนเค้าไม่ใช่ว่ายอมแพ้หรือว่าสนใจฟุตบอลน้อยลงนะ คือถ้ามาคิดว่าสู้ไปก็เท่านั้นทีมใหญ่ๆยังไงก็ไปสอยสตาร์ต่างชาติมาอยุ่ดี คิดอย่างนี้ก้เหมือนคนอังกฤาคิด ถามว่าเอาค่าเฉลี่ยมา compare กันเอามามาเทียบกันชุดต่อชุด 15 ปีมาเทียบกับ 15ปี 17 ,18,19,20 นักเตะอังกฤษก็สู้บราซิล สเปน หรือเยอรมันไม่ได้ หลายๆอย่างเลยพื้นฐาน เทคนิค ทักษะ ความเข้าใจเกมส์ ฟิตก็สู้พวกอเมริกาใต้ไม่ได้ มีอย่างเดียวที่เหนือกว่าคือสภาพร่างกายที่แข็งแกร่งกว่าซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่ส่วนที่สำคัญที่สุดในกีฬาฟุตบอล แถมเหลี่ยมบอลไม่มีอีกต่างหาก เล่นฟุตบอล ทักษะ เหลี่ยมบอล ทัศนวิศัยนี่เรื่องใหญ่ถ้าไม่มี ไม่พัฒนา ไปต่อระดับสูงแทบไม่ได้


กลับกันสมมุติให้เด็กอังกฤษพ่อแม่เป็นอังกฤษเลยนะไปอยู่ในศูนย์ฝึกเยาวชนที่ฮอลแลนด์ เยอรมัน ฝรั่งเศษ โอกาศเป็นนักเตะที่ดีมีมากกว่า หรือเต็มที่ให้ไปโตที่บราซิล กินอยู่อย่างนั้น เล่นบอลตามถนน ยังจะมีโอกาศมีฝีเท้าดีกว่าการที่ได้โตมา ฝึกมาในอังกฤษ... ผมกล้าบอกเลยรากฐานการพัมนาเยาวชนในอังกฤษมีปัญหา ปัญหามันอยู่ตรงนี้ที่เค้าเอาซูเปอร์สตาร์ข้างนอกมาเพราะคุณภาพนักเตะอังกฤษมันไม่ถึงเอง ไม่ใช่ว่าไม่อยากได้นะ ใครๆก็อยากได้นักเตะอังกฤษในทีมของอังกฤษ เพราะมันสร้างพาสชั่นกับแฟนบอลได้ มูลค่าสูง แต่มันหาไม่ได้ อังกฤษก็รู้นะแต่แก้ไม่ได้จะแก้ได้พวกเค้าต้องยอมรับว่าตัวเองห่วยก่อน คุณภาพทางเทคนิคกากกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งด้วยอีโก้เองแล้วพวกนี้จะไม่คอยยอมรับว่าเท่าไหร่ แค่นั้น..

ปล. หลังมาถ้าสังเกตุคุณภาพจะดีขึ้นมานิดนึงนะครับนักเตะอย่าง แฮรรี่ เคน,สเตอร์ลิ่ง,รอส บาร์คลี่ พวกนี้ถือว่าคุณภาพดีแต่ถ้าไปเทียบกับเยาวชนของสเปน เยอรมัน
ก็ยังถือว่าผลิตออกมาได้น้อยมากๆอยู่ดี

มันมีทั้งขั้วบวกและขั้วลบแบบที่ท่านว่าแหล่ะครับ แต่บทความที่ผมเขียนเป็นทัศนะที่มองเห็นผลที่จะเกิดในแง่ลบมากกว่า

หากมองในแง่กำไร มันมีมูลค่ามหาศาลครับ แต่ความหมายโดยนัยของผม อีกอย่างนึง มันก็คือ ทีมจากอังกฤษ หลายๆทีม ไม่ได้ถือหุ้นใหญ่โดยคนอังกฤษแล้วนี่สิครับ บิ๊กทีมเป็นของต่างชาติซะเกือบหมด แมนยู และลิเวอร์พูล ก็มีหัวเรือใหญ่เป็น อเมริกัน อาเซน่อลมีหุ้นใหญ่เป็นชาวรัสเซีย และเชลซี ก็เป็นของเสี่ยหมี แมนซิตี้ก็เป็นของกลุ่มทุนที่เราทราบกันดีว่ามีชีคจากตะวันออกกลางเป็นหัวเรือใหญ่ จริงอยู่ที่แบรนด์เป็นของอังกฤษ แต่แหล่งรายได้ทั้งหมด มันไม่ใช่ของเจ้าของชาวอังกฤษแล้ว ทุกวันนี้ Qatar และ Etihad airways กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง SAMSUNG เองก็เหมือนกัน อันนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นจากการตลาดธุรกิจที่ยอมโปรยเม็ดเงินมหาศาลเพื่อแลกกับความคุ้มค่า

ซึ่งบางคนอาจจะมองว่านักธุรกิจหลายคนเข้ามาซื้อเพื่อเป็นของเล่น แต่ถ้ามองเป็นแหล่งซักฟอกเงินหล่ะ มันก็จะวกกลับมาที่เรื่องผลประโยชน์ของธุรกิจอีกอยู่ดี ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นคนอังกฤษเอง ก็ไม่มีอำนาจที่จะนำไปต่อรองกลุ่มธุรกิจเหล่านี้ได้เลย หรือถ้า FA จะบีบออกไป FA ก็คงไม่กล้าเพราะจะสูญเสียรายได้มหาศาลไป มันก็คงเป็นเรื่องยากที่จะเกิดขึ้น แล้วอย่างนี้ ทีมฟุตบอลอังกฤษเป็นของคนอังกฤษอยู่จริงๆรึเปล่า

ประมาณนี้หล่ะครับที่ผมพอจะอธิบายได้ท่านได้ ไม่ใช่ว่าไม่เห็นด้วยกับท่านนะครับ มันมีรายละเอียดอีกเยอะครับ อันนี้ผมเขียนแบบพยายามรวบๆ ถ้าเจาะลึกแบบละเอียดคงจะยาวจนไม่มีคนอ่านครับผม

ปล. เดี๋ยวผมต้องออกไปธุระข้างนอก ถ้ายังไงจะพยายามกลับมาตอบทุกคำถามนะครับ

ถ้าอังกฤษไม่เริ่มปรับทิศทางพัฒนาไปในส่วนเยาวชน,วิธีการฝึกทักษะเยาวชน
ตลอดจนฟื้นฟูเอกลักษณ์ฟุตบอลตัวเองให้ดี มันอาจนำไปสู่ยุคมืดจริงๆ


แต่จะว่าไปตอนนี้โค้ชอังกฤษเริ่มได้โอกาสมาขึ้น เยาวชนก็เริ่มเพิ่มมากขึ้น
ศูนย์ฝึกซ้อม-วิจัยฟุตบอลแห่งชาติก็สร้างขึ้นแล้ว บางทีผมก็เลือกไม่มองโลกในแง่ร้ายเกินไป

โลกทุนนิยมมันก็เป็นแบบนี้ละครับ
แต่ในมุมมองแฟนบอล premier league ชอบมากครับที่ได้เห็นนักเตะต่างชาติฝีเท้าดีมาแข่งกันทุกๆ week
คุณภาพของนักเตะ ทำให้การแข่งขันมันเข้มข้นขึ้นอ่ะครับ

มองแบบคนอังกฤษมันคือหายนะ แต่คนอังกฤษเขาไม่แคร์แล้วมันก็เรื่องที่ยอมรับได้ทุกอย่างก็จบ

ทำไมผมกลับไม่ชอบโมเดลแบบอังกฤษเลย ชอบแบบเยอรมันมากกว่า พัฒนาทุกอย่าง ไม่ใช่แค่ว่าหาเงินเข้าลีก กลัวว่าสักวันเงินขาดมือมันจะเจ๊งอย่างกัลโช่ ทีนี้ล่ะหายนะมาเยือนเลย ทีมชาติยิ่งไม่ค่อยจะแกร่งอยู่แล้ว อย่างน้อยตอนกัลโช่บูมๆทีมชาติยังมีผลงานเรื่อยๆนะ

ดีสำหรับอังกฤษ

- เงินเข้าประเทศเยอะ

แย่สำหรับอังกฤษ

- ทีมชาติ

ดีสำหรับต่างชาติ

- ความเข้มข้นของการแข่งขัน แต่ละทีมมีเงิน support สูง ทั้งทีมใหญ่ทีมเล็ก
- ทีมชาติอื่นๆ เช่น นักเตะโซนอเมริกาใต้
- ความมันส์ของกองเชียร์ อันเนื่องมาจากข้อบนๆ
- นักลงทุนต่างชาติ เงิน+โฆษณา


สำหรับกองเชียร์ชาวไทยอย่างผมก็ต้องบอกว่าดี เพราะไม่ได้เชียร์ทีมชาติอังกฤษอยู่แล้ว

ข้องใจอย่างเดียว เรื่องเยาวชนมันเป็นปัญหามานานมากแล้วนะ ไม่ใช่แต่ปัจจุบัน ดีหน่อยคือยุคเซอร์คุมแมนยู อาเซนอลก็ปั้นแต่เด็กต่างชาติ นอกนั้นเรียกว่าเละตุ้มเป๊ะ คิดดูแล้วกันเชียร์เรอ แกสคอย ฮอดเดิล ลีนิเกอร์ พวกนี้เกิดจากทีมกลางๆ ทั้งนั้น มันเป็นมานานแล้ว ตั้งแต่ก่อน ไม่ใช่ตอนนี้

ขนาดว่ายุครุ่งเรืองดาวรุ่งสุดๆ ยังไม่ไปถึงดวงดาวเลย จะเอาอะไรกับตอนนี้ มันอยู่ที่จิตสำนึกเด็กอังกฤษมากกว่าที่มันห่วยเอง สู้ใครเขาไม่ได้ ดังหน่อยก็ปล่อยตัวแล้ว

แล้วดูลีกส์อื่นดิ มันสนุกไหมเห็นมันเก่งกันไม่เกิน สามทีม แล้วทีมเก่งมันก็ล้มไปเอง แต่อังกฤษทีมเขาอยู่ได้ ต่อให้ไม่ไปเล่นบอลยุโรป เขาก็ยังทำทีมได้แข็งแกร่งสู้กับทีมใหญ่ๆ ได้
ดูเอฟ ดูไก่ ใช้เงินไม่ใช่น้อยๆ ทีมอันดับห้าลงไปของลีกส์อื่นทำได้ไหม ผมบอกเลย ทำไม่ได้ ไม่มีปัญญาซื้อเพราะเงินไม่พอ แต่ทีมเหล่านี้ซื้อนักเตะได้

เรื่องล้มคงไม่ล้มเพราะเรื่องเงินไม่มีปัญหาสโมสรเปิดทางให้นะกลงทุนเข้ามาเทคโอเวอการตลาดก็ถือว่าดีมาก ส่วนไอยุคมืดจองนักฟุตบอลอังกฤษก็มีมานานแล้ว อังกฤษเป็นทีมใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในนานาชาติเพียงแค่ครั้งเดียวคือบอลโลก นับเฉพาะบอลโลกกับยูโร แชมป์โลกที่ได้ก็มีประตูปัญหา เทียบกับชาติใหญ่ๆชาติอื่รแล้วอังกฤษอยู่ในยุคมืดมานานแล้วถ้าพูดถึงเรื่องฟุตบอลไม่ใช่เรื่องจำนวนเงิน แล้วระบบฟุตบอลก็เอนเอียงไปทางธุรกิจมากกว่าที่จะไปเน้นพัฒนานักเตะชาติตัวเอง ในขณะที่ลีกอย่างสเปนหรือเยอรมันที่ครองความสำเร็จมาในช่วงหลังพวกเยาวชนสามารถพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาไม่หยุด เนื่องมาจากสามารถลงแข่งขันกับทีมชุดใหญ่ที่มีความกดดันมากกว่าเยาวชนเตะกันเองอยู่ตลอดถึงแม้ว่าจะอยู่ในลีกรอง ของอังกฤษอย่างมากก็จะได้แค่ปล่อยยืมตัวไปเล่นกับลีกรองแต่ก็บางครั้งก็แทบไม่ได้ลงสนาม นักเตะทีมชาติอังกฤษจึงมีน้อยมาที่จะทะลุขึ้นมาประสบความสำเร็จนอกจากเก่งมากจริงๆ

น่อลผมเปลี่ยนเจ้าของเป็นรัสเซียแล้วหลอ

ผมมองว่ายังไงก็ล้มแค่รอว่าล้มเมื่อไหร่เร็วหรือช้า และล้มยังไงล้มลงพื้นหรือล้มลงฟูก การที่แต่ละทีมมีรายรับมากขึ้นหมายถึงรายจ่ายที่มากชึ้นตาม ดูอย่างค่าเหนื่อยนักเตะเดี๋ยวนี้พวกก๊องๆแก๊งๆในพรีเมียร์ค่าเหนื่อยก็ราวๆ 50,000 - 70,000 เข้าไปแล้ว นี่ยังไม่รวมโค๊ช แมวมอง หมอ บัญชร ๆลๆ อีก แล้วเมื่อมันถึงจุดๆนึงที่รายได้ไม่สามารถครอบคลุมรายจ่าย เช่น sky ประมูลพรีเมียที่ 100 ล้าน แต่สามารถทำรายได้จากมันแค่ 70 ล้าน หมายถึงการประมูลครั้งต่อไปราคาจะไม่เกิน 70 ล้านแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้นเจ้าของทีมที่ทีมมีแต่หนี้ไม่มีกำไรก็ต้องขายทีมทิ้ง เพราะฉะนั้นผมว่าที่พรีเมียร์กอดอยู่นี่เป็นระเบิดเวลาชัดๆเลยครับ แล้วยิ่งประกอบกับวิสัยทัศอันแสนจะตำ่เตี้ยของ fa เข้าไปอีกยิ่งไม่ต้องสืบ

ป.ล. 1 เมื่อ 10 - 15 ปี ที่แล้วใครบอกซีรี่เอ จะเป็นแบบปัจจุบันคงหาว่าเพ้อเจ้อ
ป.ล. 2 มาร์เวลเคยล้มละลายเพราะการเข้ามาทุ่มตลาดของนักแสวงหากำไรมาแล้ว