จอห์น เป็นไอคอนแห่งยุคสมัยจริงๆ เป็นมากกว่านักร้องนักดนตรี แต่ยังเป็นนักปรัชญา และนักเคลื่นไหว ทำสิ่งที่เรียกว่า social movement (ที่น้องมารีญาถูกถามบนเวทีนั่นแหละ) เรื่องต่อต้านสงคราม สันติภาพ สันติสุข ซึ่งเป็นกระแสหลักในขณะนั้น สิ่งนี้สะท้อนชัดเจนผ่านเพลงของเขา ตั้งแต่ all you need is love, revolution มาจนถึง imagine, give peace a chance, i don't want to be a soldier
(พอลเองก็มีเพลงอย่าง ebony and ivory นะ)

ในภาคดนตรี/เพลง ผมว่าเพลงของจอห์นมันลึกและมีอะไรให้น่าค้นหามากกว่า ขณะที่เพลงของพอลจะฟังง่ายกว่า
เพราะกว่า (ผมชอบทั้งคู่) แต่อีกคนที่ทำให้เพลงของบีทเทิลส์ยิ่งใหญ่และสมบูรณ์ คือ จอร์จ มาร์ติน โปรดิวเซอร์คนสำคัญของพวกเขา

สำหรับเรื่องตายก่อนเลยดังกว่านั้น ผมว่าจริง แต่ที่จริงก็เพราะว่า ถ้าเราเชื่อเรื่องทุกอย่างมีขึ้นมีลงแล้ว เรื่องนี้ก็เป็นกฎธรรมชาติ จอห์นจากไป ณ จุดพีค (ผมว่าความจริงก็เลยพีคมาหน่อยแล้ว) คนก็จดจำเขาที่จุดนั้น แต่พอลอยู่สร้างงานมาถึงวันนี้ ซึ่งเลยจุดพีคมานานเลย วันนี้จึงดูว่าพอลดรอปลงเยอะ (ในด้านความนิยมนะ)

สุดท้าย เรื่องที่ว่าจอห์นไปพูดหมิ่นพระเยซูจนวงต้องเลิกเล่นสดนั้น ผมว่าข้มูลนี้ต้องตรวจสอบนะ เท่าที่จำได้ จอห์นไปพูดทำนองว่า บีทเทิลส์ดังกว่าพระเยซู แต่เป็นในความหมายว่า เขาห่วงว่าศาสนากำลังเสื่อม คนสนใจศาสนาน้อยลง จนบีทเทิ้ลส์ยังได้เป็นที่นิยมมากกว่า ไม่ใช่ในความหมายว่าพวกเขาดีกว่า หรือยิ่งใหญ่กว่าพระเจ้า เรื่องนี้ถูกต่อต้าน(โดยความเข้าใจผิด)จริง แต่ไม่ได้ทำให้วงเลิกเล่นสด

ที่เลิกเพราะเพลงในยุคกลางของวง ตั้งแต่ sgt.pepper มันมีภาคดนตรีที่ซับซ้อน บางเพลงมีออร์เคสตร้า back up บางเพลงใช้เทคนิคการบันทึกเสียง ทำให้ไม่สามารุหรือไม่สะดวกในการเล่นสด รวมทั้งมีคนวิเคราะห์กันว่าสมาชิกในวงเบื่อกับการถูกรุมทึ้ง และเบื่อที่แฟนๆ ที่มาดูคอนเสิร์ตก็มาดู มากรี๊ดพวกเขา มากกว่ามาฟังเพลงของพวกเขาด้วย

ส่วนตัวผมชอบทั้งคู่พอกัน