..........ในช่วง สองสามสัปดาห์ที่ผ่านมาการปิดดีลของสโมสรยักษ์ใหญ่คู่อริร่วมชาติอย่างยูไนเต็ด และลิเวอร์พูลนั้น เรียกได้ว่าไม่มีใครยอมใครกันเลย ถ้าลองดูนักเตะที่ทั้งคู่เซ็นสัญญาร่วมทีมด้วยกันทั้งสองทีมนั้นจะพบว่า มีความคล้ายคลึงกันพอสมควรไม่ยอมน้อยหน้ากันเลย
1. ตัวฟูลแบ็กระดับชาติ
ฝั่งลิเวอร์
..........ที่ปิดดีลสร้างรอยยิ้มให้กับเดอะคอปก่อนใครเพื่อนกับการได้รายเซ็นนาธาเนียล ไคลน์ ฟูลแบ็คมีชื่อจากค่ายนักบุญ มาเป็นกำลังสำคัญให้กับทีม ที่มาพร้อมคำพูดการันตีจากเพื่อนร่วมทีมเก่าและทีมใหม่อย่างลอฟเลนว่า "เขาเปรียบดั่งรถสปอรต์ที่มีความเร็ว แข็งแกร่ง และฉลาดในการเล่นฟุตบอล"
ด้านยูไนเต็ด
..........ก็ไม่น้อยหน้าจัดการคว้าตัวมัตเตโอ ดาเมี่ยน ฟูลแบ็คดีกรีทีมชาติอิตาลี่จากโตริโน่ มาร่วมทัพ อุดรอยรั่วหลังบ้านของทีม ที่มาพร้อมคำพูดการันตีจากกองหลังจอมโหดแดนมักกกะโรนีอย่าง มาโก มาเตรัซซี่ว่า "ดาร์เมียนคือวิงแบ็กดีที่สุดของอิตาลี"
2. ตัวรุกสุดจี๊ดสร้างสีสัน
ฝั่งยูไนเต็ด
..........เรียกได้ว่าผีเเดงปิดดีลตั้งแต่ยังไม่จบฤดูกาลที่เเล้วสำหรับแนวรุกตัวจี๊ดจากค่ายพีเอสวี อย่าง เมมฟิส เดปาย เรียกเสียงฮือฮาตั้งแต่ปลายฤดูกาลที่เเล้ว ที่หลังจากมีข่าวการย้ายทีมเจ้าตัวก็สร้างผลงานเรียกเสียงฮือฮา ด้วยฟอร์มอันร้อนแรงที่เล่นทิ้งทวนให้กับต้นสังกัดเก่าดั่งนักเตะที่กำลังพิสูจน์ตัวเองกับสโมสรมากกว่าการโบกมือลาจากไปลงหลุมผี
ด้านหงส์แดง
..........ไม่น้อยหน้าเช่นกันสำหรับการปิดดีลตัวรุก ด้วยการปาดหน้ายูไนเต็ดและสโมสรยักษ์ใหญ่อื่นๆ เพื่อเซ็นสัญญาคว้าตัวโรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ แนวรุกทีมชาติบราซิล มาร่วมทีมได้อย่างรวดเร็ว ทั้งที่มีข่าวว่ากำลังจะย้ายไปลงหลุมผีมาเป็นระยะ ในช่วงที่เจ้าตัวสวมบทพระรองเคียงข้างเนย์มาร์พาบราซิลชุดเหมือนบราซิลปลอมเข้ารอบลึกได้อย่างทุรักทุเร กับลีลาในสนามที่เรียกได้ว่า ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมกระทู้เฟอร์เมียโน่ vs เดปายนั้นตั้งเยอะจนชินตาสาวกทั้งสองทีมนี้ไปเเล้ว
3. มิดฟิลด์ตัวเก๋า
ฝั่งลิเวอร์
..........หงส์แดงสามารถเซอร์ไพรส์เหล่าเดอะคอปให้ได้บลัฟเด็กผีตั้งแต่เริ่มเปิดตลาดนักเตะด้วยการคว้ามิดฟิลด์ตัวเก๋าอย่าง เจมส์ มิลเนอร์ อัญมณีส่วนเกินที่เรือใบมองข้ามเพราะวัยที่โรยรา แต่สภาพยังคงร้อนแรง ที่มาเติมเเต่งในหงส์แดงดูน่าเกรงขามขึ้นมาในพริบตา จากความเเข็งแกร่งบวกขยัน ที่ทำให้สาวกเดอะคอบพูดเป็นทำนองกันว่า น่าจะมาแอนฟิลด์ ตั้งแต่ 3-4 ปีที่แล้วมากกว่า
ด้านยูไนเต็ด
..........ผีเเดงก็ไม่น้อยหน้าอีกเช่นกัน เมื่อจัดการเช็คบิลมิดฟิลด์ตัวเก๋าดีกรีแชมป์โลกอย่างบาสเตียน ชไวสไตร์เกอร์ กองกลางคู่บุญของเสือใต้ มาใส่ยูนิฟอร์มแดงได้อย่างเนียนตา กับความสามารถที่ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณมากนัก เพราะบอสจอมปรัญญาอย่าง LVG น่าจะรู้ดีกับการมีคู่มือการใช้ จากการที่เจ้าตัวนั้นเคยเป็นหัวเรือใหญ่ของเสือใต้มาก่อน อีกทั้งยังเป็นผู้ปลุกปั้นชไวนี่ ให้เปลี่ยนบทบาทจากริมเส้นมาเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางที่ทำผลงานได้ดีคนหนึ่งในวงการลูกหนังโลกก็ว่า ซึ่งแฟนผีก็คงพูดถึงนักเตะใหม่รายนี้เช่นกันว่า ชไวนี่น่าจะมาโรงละครแห่งความฝันตั้งแต่ 3-4 ปีที่เเล้วเช่นกัน
..........นอกจากการเซ็นสัญญาที่เเดงเดือดเเล้ว การขายนักเตะของสองทีมนี้เริ่มเเดงเดือดด้วยเช่นกัน เหมือนทั้งสองทีมเริ่มมีกลิ่นที่จะต้องเสียสตาร์ปีที่เเล้วของทีมไป อย่างฝั่งหงส์เเดงนั้นต้องเสีย ราฮีม สเตอร์ริ่ง ไปด้วยความดีใจของแฟนหงส์ กับการทำตัวไม่เป็นมืออาชีพในถิ่นแอนฟิลด์ ในราคาที่ต่างพูดกันว่ามันคือการย้อมรถอีโก้คาร์ ให้กลายเป็นรถสปอรต์ แล้วขายออกไปอย่างสุดคุ้ม ทางด้านยูไนเต็ดก็ไม่น้อยหน้า เพราะข่าวการย้ายทีมของปีกอาเจนไตน์หน้าเหมือนตัวละครแฮรรี่อย่าง ด๊อบบี้ ดิมาเรีย นั้นก็เริ่มคึกโครมทวีขึ้นทุกวัน จึงเป็นที่น่าติดตามกันว่า ตลาดแดงเดือดของทั้งสองทีมนี้จะลงเอยกันอย่างไร?
12 กันยายนนี้ใน
ศึกเเดงเดือด น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดว่า ดีลของใครเจ๋งกว่ากัน?