ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 14 Oct 2009
ตอบ: 1258
ที่อยู่: ทุ่งหญ้าสเต็บ ปลายฝนต้นหนาว เข้าสู่ฤดูเหงา~
โพสเมื่อ: Sun Nov 09, 2014 1:07 am
จอมคนจิ๋นซีฮ่องเต้


ปลายรัชสมัยจ้านกว๋อ หรือยุคสงคราม ประวัติศาสตร์เมื่อจีนในยุคนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวของการทำสงครามช่วงชิงความเป็นใหญ่ระหว่างผู้ปกครองรัฐทั้งหลาย ซึ่งยืดเยื้อกินเวลาถึง 500 กว่าปี สร้างความทุกข์ยากลำเค็ญแก่ประชาชนอย่างใหญ่หลวง

จีนในยุคนั้นแบ่งออกเป็น 7 รัฐใหญ่ๆ คือ หาน จ้าว เว้ย ฉู่ เยียน ฉี และฉิน โดยรัฐฉินที่อยู่ฝั่งตะวันตกนับเป็นรัฐที่ทุรกันดาร และล้าหลังที่สุด แต่ว่าเมื่อ“อิ๋งเจิ้ง”ได้ขึ้นครองบัลลังก์(246 ปี ก่อน ค.ศ.)เมื่ออายุ 14 ปี จากนั้นไม่นานอิ๋งเจิ้งได้ ปลดผู้สำเร็จราชการ (หลี่ปู้เหว่ย) ออกจากตำแหน่ง แล้วคุมอำนาจการปกครองทั้งหมด พร้อมกันนี้ยังได้พัฒนารัฐฉินที่เคยล้าหลังให้เป็นรัฐที่เจริญและเรืองอำนาจ

นอกจากนี้ยังได้เปิดรับคนดีมีความสามารถไม่จำกัดถิ่นกำเนิด ซึ่งได้แก่ ซางเอียง แห่งแคว้นเว่ยมาช่วยปฏิรูปกฎหมาย การปกครอง และเศรษฐกิจจนแคว้นฉินรุ่งเรืองและมีอิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆ
จากนั้นอิ๋งเจิ๋งได้ใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ ทำลายความสามัคคีของรัฐที่ทรงอำนาจที่สุด 6 รัฐในสมัยนั้นลง แล้วผนวกรัฐต่าง ๆ ทีละรัฐเข้ากับรัฐฉิน

ภายในชั่วเวลาสิบปี คือตั้งแต่ปีที่ 231-221ปีก่อนคริสตศักราช อิ๋งเจิ๋งสามารถรวมจีนให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ พร้อมๆกับสถาปนารัฐฉิน (ปีที่ 221 ถึงปีที่ 206 ก่อนคริสตศักราช ) ขึ้นโดย อิ๋งเจิ้ง ผู้เป็นกษัตริย์รัฐฉิน ได้เปลี่ยนพระนามพระองค์ว่า“ฉินสื่อหวงตี้”(จิ๋นซีฮ่องเต้) ที่นำคำว่า“หวง”ที่แปลว่า กษัตริย์ รวมเข้ากับคำว่า“ตี้”ที่แปลว่า จักรพรรดิ

เมื่อรวม 2 คำแล้ว แปลว่า“องค์ปฐมจักรพรรดิกษัตริย์แห่งราชวงศ์ฉิน” ทั้งนี้เพื่อจะให้สืบต่อราชบัลลังก์อยู่ในราชวงศ์ฉินติดต่อกันไปตลอด ไปถึงองค์ที่หมื่น ๆ แต่ว่าจริงๆ ราชวงศ์ฉินอยู่ได้เพียง 15 ปี แต่อย่างไรก็ดี คำว่า“หวงตี้” (ฮ่องเต้) ก็ได้เป็นคำที่กษัตริย์จีนใช้เรียกตัวเองตลอดมา 2,000 กว่าปี



ในช่วงที่จิ๋นซีฮ่องเต้ปกครองแผ่นดินจีน ด้านหนึ่งพระองค์คือมหาราชที่ได้สร้างความเจริญให้กับแผ่นดินจีนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวขึ้นในประเทศ ด้วยการรวมศูนย์อำนาจการปกครองไว้กับพระองค์ แล้วแบ่งเขตการปกครองในประเทศออกเป็น 36 มณฑล

การกำหนดให้ใช้ตัวอักษรภาษาจีน เป็นอย่างเดียวกันหมดทั่วประเทศ แม้ว่าภาษาพูดจะผิดเพี้ยนกันแต่ว่าภาษาเขียนนั้นใช้เหมือนกัน
การกำหนดใช้กฎหมายอย่างเป็นเอกภาพทั่วประเทศ
การกำหนดให้ใช้เงินตราอย่างเดียวกัน
การกำหนดให้ใช้มาตราชั่ง ตวง วัดอย่างเดียวกัน
และที่โดดเด่นที่สุดก็คือการเชื่อมกำแพงเมืองตามแค้วนต่างเพื่อป้องกันการรุกรานของเผ่าซงหนู จนกลายเป็น "กำแพงเมืองจีน" 1 ใน 7สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ซึ่งนอกจากจะเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองจีนแล้ว กำแพงเมืองจีนยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของแดนมังกรอีกด้วย



แต่ถึงแม้ว่าจิ๋นซีฮ่องเต้จะรวมจีนเข้าเป็นปึกแผ่น และสร้างความเจริญความยิ่งใหญ่อย่างต่อเนื่อง
แต่อีกด้านหนึ่งพระองค์คือทรราชที่หลายคนยากจะลืมเลือนเช่นกัน เพราะว่าพระองค์กลับสร้างความยิ่งใหญ่บนความลำบากของไพร่ฟ้าประชาราษฎร์ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บภาษีอย่างโหดหินถึง 2 ใน 3ของรายได้

นอกจากนี้ยังเกณฑ์ชาวบ้านไปเป็นทหารบ้าง เป็นกรรมกรบ้าง เพื่อสร้างวัง สร้างกำแพง สร้างสุสาน ทำให้ประชาชนต้องประสบกับความทุกข์ยากลำบาก กฎหมายในสมัยฉินยังได้กำหนดโทษไว้เฉียบขาดมากหากผู้ใดกระทำผิดจะต้องถูกลงโทษทั้งครอบครัว

ประชาชนในสมัยฉินจึงอยู่กันด้วยความหวาดระแวง และเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า ด้วยเหตุนี้ทำให้พวกนักศึกษาสำนักขงจื๊อพากันไม่พอใจ พวกเขาจึงเลือกต่อสู้กับระบบการปกครองของจิ๋นซีฯด้วยการพูด และเขียนบทความ บทกวีถากถางเยาะเย้ยตำหนิติเตียนการปกครองสมัยนั้น ซึ่งก็สร้างความขุ่นเคืองพระทัยต่อจิ๋นซีฯเป็นอย่างยิ่ง พระองค์จึงมีคำสั่งให้เผาหนังสือต่าง ๆ เช่น ประวัติศาสตร์ บทรวมกวีนิพนธ์ บทร้อยแก้ว โดยเฉพาะหนังสือของสำนักขงจื๊อเสียให้หมดสิ้น
คงเหลือไว้ก็พวก ตำราทางการแพทย์ เกษตรกรรมและตำราอื่น ๆ
จากนั้นไม่นานจิ๋นซีฯก็ได้จับนักศึกษาสำนักขงจื๊อฝังทั้งเป็นเสีย 400 กว่าคน อันเป็นอาชญากรรมที่ถูกบันทึกลงในประวัติศาสตร์มาจนถึงทุกวันนี้


การเสนอให้เผาตำราทั้งหมดที่มีในแผ่นดินก็ดี แม้อ้างว่าสิ่งเหล่านี้เป็นไปเพื่อประเทศชาติ แต่ก็มีข้อเสียตรงที่ หนังสือดีๆที่เขียนขึ้นในสมัยยุคชุนชิว หรือที่ปรัชญา 100สำนักเขียนเรียบเรียงร้อยเรียงมานั้นถูกเผาหมด แต่บางส่วนก็นำออกไปได้ เช่น ตำรายุคชุนชิวของขงจื้อ โดยมีลูกศิษย์สามารถขนหนีไปรัฐอื่น ทำให้พอจะมีหลงเหลืออยู่บ้าง แต่ตำราหลายเล่มก็หมดสิ้นไปเหลือแต่ตำราของสำนักซินจื่อหรือฝาเจี๋ย (法家) หรือนิติธรรมก็คือใช้หลักปกครอง หลักกฎหมายปกครองอย่างเข้มงวดทำให้รัฐฉินเติบโตและเข้มแข็งได้ในที่สุด

ครั้นเมื่อจิ๋นซีฮ่องเต้สิ้นพระชนม์ลงในปีที่ 208 ก่อนคริสต์ศักราชจึงทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างชนชั้นต่างๆรุนแรงขึ้นและก็รวดเร็วขึ้นด้วย โดยขบถชาวนาครั้งใหญ่ที่นำโดยเฉินเซิ่ง อู๋กว่างได้อุบัติขึ้นเป็นคณะแรกในประวัติศาสตร์จีนจากนั้นก็ลุกลามไปทั่วประเทศ ส่งผลให้ราชวงศ์ฉินถูกขบถชาวนาโค่นลงในปีที่ 208ก่อนคริสต์ศักราชรวมเวลาที่ปกครองประเทศได้เพียง 15ปีเท่านั้น



สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้เริ่มก่อสร้างในสมัยจิ๋นซีฮ่องเต้ ใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 38 ปี ตั้งแต่ปี 246 - 208 ก่อนคริสตกาล ซึ่งอาณาเขตพื้นที่ของสุสานรวมทั้งสิ้น 2,180 ตร.กม. แบ่งออกเป็นพระราชฐานชั้นในและพระราชฐานชั้นนอก ภายในสุสานใช้บรรจุพระบรมศพของจิ๋นซีฮ่องเต้ ทรัพย์สมบัติต่าง ๆ ตลอดจนกองกำลังทหาร นางสนมและนางกำนัล รถม้าและขุนพลทหาร ที่สร้างมาจากดินเผา จำนวนมาก เพื่อเป็นตัวแทนของข้าราชบริพารในการร่วมเดินทางไปยังปรโลกของจิ๋นซีฮ่องเต้

โครงสร้างและสถาปัตยกรรมโดยรวมของสุสาน มีพื้นที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความลึกเฉลี่ย 35 เมตร กว้าง 145 เมตร และ ยาว 170 เมตร สำหรับห้องบรรจุพระบรมศพอยู่จุดกึ่งกลางของสุสาน มีความสูง 15 เมตร มีขนาดพื้นที่และความใหญ่โตมโหฬาร สำหรับภายใน ในส่วนที่ก่อสร้างจากหินนั้นยังคงได้รับการปิดผนึกอย่างดีโดยคงสภาพเดิมเอาไว้ และไม่เคยผ่านการขุดและรื้อทำลายมาก่อน โดยโครงสร้างของสุสานดังกล่าว มีรูปแบบโครงสร้างและการจัดสร้างที่มีความสลับซับซ้อน ขนาดของสุสานมีขนาดมหึมา ยิ่งใหญ่สมพระเกียรติของจักรพรรดิจีนผู้รวบรวมประเทศจีนให้เป็นปึกแผ่น



สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ได้ค้นพบโดยบังเอิญเมื่อ 29 มีนาคม พ.ศ. 2517 โดยชาวนาในหมู่บ้านซีหยาง ในขณะที่ขุดดินเพื่อทำบ่อน้ำ บริเวณเชิงเขาหลีซาน ห่างจากตัวเมืองซีอาน ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 35 กม. โดยในระหว่างที่ขุดนั้น ก็บังเอิญพบกับซากของทหารดินเผา ที่ทราบภายหลังว่ามีอายุมากกว่า 2,000 ปี ปัจจุบันรัฐบาลจีนขุดค้นพบวัตถุโบราณที่เป็นกองทัพทหารดินเผา สรรพาวุธ รถม้าและม้าศึก จำนวนทั้งสิ้นกว่า 7,400 ชิ้น ภายในบริเวณพื้นที่หลุมสุสานกว่า 25,000 ตร.ม. มีการคาดคะเนว่าอาณาเขตของสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้จะมีพื้นที่มากกว่า 2,180 ตร.กม. สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ได้รับการคัดเลือกให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี พ.ศ. 2530



ณ วันนี้ จิ๋นซีฮ่องเต้อำลาจากโลกไปกว่า 2 พันปีแล้ว เรื่องราวทั้งด้านมืดและด้านสว่างของฮ่องเต้องค์นี้ได้ถูกนักประวัติศาสตร์จารึกไว้อย่างเที่ยงธรรม ว่า จิ๋นซีฮ่องเต้เป็นจักรพรรดิที่เป็นทั้งมหาราชและทรราชในตัวคนเดียวกัน แต่ว่าพระองค์ก็ถือเป็น 1 ใน 10 ฮ่องเต้ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเมืองจีนที่โลกไม่มีวันลืมตลอดกาล


ที่มา sana-anong.com * manager.co.th
เข้าร่วม: 12 Aug 2014
ตอบ: 5302
ที่อยู่: มลฑณซานตง
โพสเมื่อ: Sun Nov 09, 2014 2:03 am
[RE: จอมคนจิ๋นซีฮ่องเต้]
เริ่มต้นเหมือนดีนะ

หลังๆ มา เพี้ยนเริ่มติด ฟิ่น, เชื่อเรื่อง ยาอายุวัฒนะ กินแล้วเป็นอมตะ (บางที่ก็บอกว่าแกหาเจอด้วยนะ ยาอายุวัฒนะ)
1
0




เข้าร่วม: 24 Nov 2007
ตอบ: 203
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Nov 09, 2014 2:16 am
[RE: จอมคนจิ๋นซีฮ่องเต้]
ตัวสุสานจริงๆ ยังไม่เจอใช่มะครับ

เจอแต่กองทหาร
1
0
~You'll never walk alone~
เข้าร่วม: 27 Apr 2006
ตอบ: 701
ที่อยู่: ทะเลสีฟ้า
โพสเมื่อ: Sun Nov 09, 2014 2:39 am
[RE: จอมคนจิ๋นซีฮ่องเต้]
ผมนี่นึกถึงเจาะเวลาหาจิ๋นซีสมัยเด็กเลย
จอมยุทธเซี่ยง เซี่ยงเส้าหลง
1
0
คอนเวิสมือสอง>>>>>>>>>
https://www.facebook.com/sneakerandclothing
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 4811
ที่อยู่: BBS PLAYPARK
โพสเมื่อ: Sun Nov 09, 2014 7:53 am
[RE: จอมคนจิ๋นซีฮ่องเต้]
โหดสัสมากครับ อิ้งเจิ้ง
1
0
My battery stars
เข้าร่วม: 09 Dec 2007
ตอบ: 912
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Nov 09, 2014 9:10 am
[RE: จอมคนจิ๋นซีฮ่องเต้]
สุสานจิ่นซี เจอแล้วครับ คือเนินแรกที่เคยคาดกันไว้เลย แต่ไม่ยอมขุดเพราะเทคโนโลยีไม่ถึง (มีการแสกนพื้นที่แล้ว พบความเข้มข้นของปรอทสูงมาก + พื้นที่ภายในเป็นลักษณะ เป็นขั้นๆเหมือนเขาวงกรด) ตามตำนานบอกว่าพระศพ ตั้งไว้ตรงกลาง แล้วมีทะเลทำจากปรอทอยู่รอบๆ
ตามประวัติ จาก ไซฮั่น ไม่มีอะไรเลยนะ จิ่นซีอ่ะ เด่นๆ คือ ตั้ง หลีซือ เป็นที่ปรึกษา กับ มีแม่ทัพ เก่ง (จำชื่อไม่ได้ น่าจะเป็นเจียงหำ นี่ก็เก่งมาก ตีหมด 6 แคว้นเลย) โดนเพราะ ตัวเองกับลูกชายคนรอง ผลาญเงิน กับกฏหมายโหดมาก แล้ว หลาน ซาซี คนนี้เป็นคนดี กำลังจะฟื้นฟูชาติเลย มาโดน เล่าปั้ง กับ เซียงอี้ (คนนี้ลูกชายเซียงเส้าหลง.ตามในหนังนะ) กระหนาบตีก่อน แล้วเซียงอี้ สั่งฆ่า หมดตระกูลเลย
1
0
เข้าร่วม: 15 Oct 2013
ตอบ: 6668
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Nov 09, 2014 9:23 am
[RE: จอมคนจิ๋นซีฮ่องเต้]
รวมแผ่นดินเป็นปึกแผ่น ความดีที่สั่งสมมา ต้องถูกลบเพราะพระเจ้าเล่าปังเพียงคนเดียว
ผู้ชนะย่อมเป็นคนเขียนประวัติศาสตร์ ถ้าคนเก่าทำดีแล้ว แล้วคนใหม่จะมีเหตุผลสถาปนาตัวเองขึ้นมาได้ยังไง..

1
0
เข้าร่วม: 04 Sep 2009
ตอบ: 1548
ที่อยู่: Hiraizumi/Japan
โพสเมื่อ: Sun Nov 09, 2014 9:50 am
[RE: จอมคนจิ๋นซีฮ่องเต้]
แม้จะเป็นจักรพรรดิยิ่งใหญ่

แต่ก็ไม่ชอบเท่าไหร่เพราะทำลายตำราของขงจื่อนับร้อยนับพัน

ซึ่งเป็นตำราที่สอนคนด้านมารยาท
1
0


春菜はん
เข้าร่วม: 28 May 2010
ตอบ: 8442
ที่อยู่: โต๊ะบอล
โพสเมื่อ: Sun Nov 09, 2014 11:56 am
[RE: จอมคนจิ๋นซีฮ่องเต้]
1
0