ขอบคุณที่แปลมาให้สมาชิก SS ได้อ่านกันครับ

ขอบคุณที่แปลมาให้อ่านครับ

อ่านแล้วผมเข้าใจว่าสิ่งที่คีนแสดงออกในสนามมันเป็นคาแร็กเตอร์ของตัวเขาเองเลย ไม่ใช่เพราะรักสโมสร คีนมีความรับผิดชอบและมุ่นมั่นกับงานที่ทำเกินร้อยจนเป็นที่ชื่นชอบของแฟนบอลเสมอยามลงสนาม

แต่เมื่อต้องจากกันคีนกลับแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้รักสโมสร คิดถึงแต่เรื่องส่วนตัว บางครั้งการกล้าวิจารณ์อาจจะเป็นเรื่องดี แต่คงไม่ใช่สำหรับคนที่พยายามรักษาสปิริตของทีมไว้อย่างเซอร์อเล็กซ์

ผมไม่ใช่แฟนยูไนเต็ดแต่ก็ชอบรอยคีนยามเป็นนักเตะของยูไนเต็ด และเชื่อว่าคีนยังเป็นฮีโร่ของแฟนๆแมนยูอยู่เสมอ

แมนยูขาด hardman ไปนานเลย หลังหมดยุคคันโตน่ากับรอยคีน

การจากไปของรอย นักเตะอย่างจอห์น โอเชียและดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ได้รับประโยชน์จากสิ่งนี้ไปเต็มๆ

ผมว่าช่วงนั้นแย่เลยนะครับ เฟล็ทเชอร์ตอนแรกๆโคตรบ่อน้ำมันเลย

http://www.footballinter.com/viewNews.php?id=6717

รอย คีนอีโก้สูงเกินไป ไม่ยอมรับว่าตัวเองทำผิด.. แต่ก็เป็นกัปตันในดวงใจเสมอฮ๊าฟ

ผมก็คิดงั้น รูนมันเก่ง และก็ทุ่มเท วิ่งสู้ฟัดตลอด ก็เลยไม่ค่อยมีปัญหากะรอย

คีนนี่ออกแนวผู้ใหญ่รังแกเด็กยังไงไม่รู้ แต่ฟอร์มในสนามก็สุดยอดจิง

รูนกับคีนออกแนวต่างคนต่างไม่กล้ายุ่งกัน รูนก็กัวคีน แต่คีนก็ไม่อยากยุ่งเพราะรูนเป็นดาวรุ่งดาวเด่นคนปกป้องเยอะ
ก็เลยไปเล่นพวกไม่ค่อยมีทางสู้เท่าไหร่ อะไรของเฮียแกเนี่ย

อะไรจะหัวแข็งขนาดนั้นน

สรุปสิ่งที่ป๋าต้องการจะสื่อพอเข้าใจได้นะครับว่า

เหตุที่ต้องทนใช้ดาวรุ่งที่ฝีเท้าอาจยังไม่ถึงขั้นนั้นเพราะทีมไม่ต้องการใช้เงินมากและต้องการให้ดาวรุ่งเหล่านั้นได้พัฒนา ซึ่งเมื่อรอยคีนเป็นผู้จัดการเอง เค้าไม่เข้าใจในสิ่งนี้ ทำให้เค้าต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อซื้อนักเตะที่เค้าต้องการ ที่คิดว่าดีเข้าสู่ทีม สุดท้ายความคิดของรอยคีนเองนั้นผิด เพราะใช่ว่าการซื้อนักเตะเข้ามาสู่ทีมนั้นจะเป็นคำตอบที่ถูกต้องเสมอในขณะที่ระบบที่ป๋าสร้างขึ้นมาเพื่อดาวรุ่งนั้นทำให้สโมสรสามารถประสบความสำเร็จในระยะยาวได้ อาจไม่ได้ใช้เวลามากนักแต่ก็ประคองทีมให้อยู่ระดับทอปได้ตลอดถึงแม้นักเตะที่มีนั้นจะไม่ใช่พวกเกรดA

รอย ยังคงอยู่ในใจ