ตอนนี้ก็ไมไ่ด้บังคับครับ แค่เป็นบางวิชาที่อาจารย์บางท่านอาจจะอยากให้ใส่มามากกว่า
รวมถึงการสอบด้วย

ปล.น้องเพื่อนผมแม่งใส่ชุดไปรเวทไปเรียนตลอด ยกเว้นบางวิชา หรือวันสอบ

รู้สึกว่ายังคงเหมือนเดิมครับ มีเพียงบางวิชาที่อาจารย์ผู้สอนให้แต่งมาเรียน
อาจารย์ท่านคงกลัวว่าเด็กจะไม่รู้จักชุดสุภาพอ่ะครับ เลยให้แต่งชุด นศ.

ผมจบนีตีศาสตร รหัส 38 ครับ แก่มั้ย

สมัยผม ผมก็ลากแตะนะ ไม่ค่อยมีคนขึ้นเรียนอีกต่างหาก บางทีมีคนขึ้นเรียน 2 คน 3 คน อ.ก็สอนไป

บอกกูรับเงีนเดีอนมาแล้ว

มันเป็นศิลปะ

เอ ผมว่าไอ้เรื่องทรงผม นี่มันสรุปว่า กฎกระทรวงไม่มีการบังคับทรงผมนี่ครับ

กับเรื่องการแต่งชุด นักศึกษาที่มธ. นี่ข้อสรุป คือ ชุดจะแต่งกรณีมีงาน สอบ หรือถ้ามีการบังคับของคณะในวิชาเรียนนั้น ๆ ถึงแต่งไม่ใช่เหรอครับ

ถ้ามองจากมุมของผม ผมคิดว่าผู้ใหญ่เองต่างหากที่ไม่แม่นกฎ พอออกมาพูดแล้วหน้าแหกเลยต้องรักษาหน้าตัวเองไว้

ขำ ๆ นะครับ

" ใช่ ธรรมศาสตร์ใช่ มีสิทธิและเสรีภาพทุกตารางนิ้ว แต่คุณคิดบ้างไหม ว่าเขาให้สิทธิเสรีภาพคุณ ในการคิดเพื่อคนอื่น! เพื่อสังคม เพื่อส่วนรวม ไม่ใช่สิทธิเสรีภาพเพื่อตนเอง แบบนั้นเขาเรียกว่า คนเห็นแก่ตัวเอง เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตน

สิทธิ เสรีภาพ ที่มีคุณค่าอย่างแท้จริง คือสิทธิเสรีภาพที่คุณคิดถึงคนอื่นมากกว่าตัวคุณเอง! "
ธาม เชื้อสถาปนศิริ

ผมเองเกิดในช่วงรอยต่อระหว่าง gen x gen y ประมาณ 2530 ต้นๆ ช่วง ม ปลายผมยังรู้สึกว่าในหลายๆเรื่อง พ่อแม่ ผมยังมีความเห็นไม่ตรงกับผมเลย แต่เด็กสมัยนี้ดิยิ่งกว่ารุ่นผมอีกมาก น้องผม ม.1 นี่อย่างดื้อไม่ค่อยเชื่อฟังพ่อแม่เท่าไหร่

เหมือนกับว่าสมัยนี้ระบบค่านิยม ทุนนิยม เทคโนโลยีที่มันเติบอย่างรวดเร็วเกินเหตุ สมัยก่อยเด็กเรียนรู้จากพ่อแม่ ครู อาจารย์ แต่เดี๋ยวนี้เรียนรู้จากเพื่อน อินเตอร์เน็ต สื่อ จึงคิดว่ากูเนี่ยแหละแน่ไม่ต้องมาสอนกู
ผมกลัวจะมีสงครามโลกครั้งที่ 3 ขึ้นจริง(คิดไปไกล) เพราะเทคโนโลยี แบบกดปุ่มเดียว ไม่ทันชั่งใจคิดอะไรก่อน ตู้ม

เห็นด้วยครับ

คนที่ยกตัวอย่างมาผู้วิิิิพากย์ทั้งสองคนเป็นสาย Conservative ทั้งนั้น

กรณี ม.ธ. ผู้วิพากย์ทั้งสองก็พูดโดยไม่แม่นระเบียบมหาลัยอีกเช่นกัน

กรณี ม.ธ. เขาไม่ได้เรียกร้องสิธิใดๆเพิ่มเลย แต่เขาเรียกร้องสิทธิที่โดนละเมิดด้วยซ้ำ ยังไงเขาก็มีสิทธิแต่งชุดไปรเวทสุภาพ อาจารย์ไม่มีสิทธิห้ามอยู่แล้ว เว้นแต่สอบกลางภาค ปลายภาค งานพิธี

ปล.ผมศิษย์เก่า

อีกหน่อยก็ไม่ต้องเรียนล่ะแบบนี้ จ่ายค่าเทอมแล้วเอาหนังสือไปอ่านที่บ้าน แล้วมาสอบเอาเหอะ

ไม่ต้องเด็กสมัยนี้หรอก คนข้างกายผมก็เป็น ศูนย์กลางจักรวาลอยู่ที่ตัวเธอ


โลกต้องหมุนตามให้ทัน


icon2 icon2

แต่ผมคิดว่าเด็กสมัยนี้ได้รับการสั่งสอนที่ไม่ดีพอ เพราะความห่างเหินจากพ่อแม่ที่ต้องทำงานหาเงินจนมีเวลาให้ไม่เพียงพอนะ เด็กจึงเรียนรู้ด้วยตัวเองและตัดสินใจด้วยตัวเอง(กับประสบการ ณ์ที่มีน้อยของตัวเด็กเอง) พอสะสมมากๆเข้าจนบางครั้งทำให้เด็กมั่นใจว่าตนคิดถูกแล้วดีแล้วจนไม่อยากรับฟังมุมมองอื่นๆก็เป็นได้
ปล. ถ้าเราสอนลูกได้ดีแค่ไหน ก็เหมือนเราสอนลูกของลูกเราได้ดีแค่นั้น

เนติวิทย์ คือศาสดาของเด็กพวกนั้น

การไม่ใส่เครื่องแบบนักศึกษาเป็นการละเมิดสิทธิ์ใครตรงไหน ถ้าถามไปเรื่อยๆ คำตอบเดียวที่ผู้ใหญ่จะให้มาได้คำมันเป็นกฏ ระเบียบ ซึ่งผมคิดว่าผู้ใหญ่ก็แค่กลัวว่าเด็กจะไม่อยู่ในการควบคุม ต้องมาตีกรอบ ต้องถล่มเด็กที่มีความคิดแปลกแยก หาว่าเอาแต่ใจ เอาแต่ได้ เรื่องแค่นี้มันจะอะไรกัน อย่างมหาลัยนึงที่ญี่ปุ่น ไม่ต้องใส่เครื่องแบบ เพื่อให้เด็กร้จักแต่งตัวเอง รู้จักเลือกชุดให้เหมาะสมเอง

และทุกครั้งที่มีคนมาเรียกร้องสิทธิ์ จะมีอยู่คำนึงที่ออกมาเสมอคือ ไม่รู้จักหน้าที่ คือเขาทำอะไรไม่รู้ล่ะ จะต้องไม่รู้จักหน้าที่ไว้ก่อน สมมุติว่ามีเด็กที่ไม่ใส่เครื่องแบบ เข้ามา ตั้งใจเรียน ได้คะแนนดี กับเด็กที่เข้ามาเรียนแล้วคุย รบกวนเพื่อนร่วมก้อง แต่ใส่ชุดถูกระเบียบ แล้วมีหน้ามาบอกว่าตัวเองเคารพอาจารย์ ให้เกียร์ติสถานที่ ซึ่งก็มองกันแค่นั้น ถ้ามองกันแค่นี้ก็ไม่เป็นไร

บทความนี้เจ๋งนะ ผมแอบเห็นด้วยหลายส่วน

ผมเป็นคนนึงเลยที่โดนหาว่า "แต่งตัวไม่เรียบร้อย" ตลอดเวลา

บางครั้งก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า สายตา พวก 'Gen X' ใช้อะไรเปรียบเทียบ

ผมแต่งตัวเหมือนเพื่อนไปเรียน แต่โดนหาว่าแต่งตัวไม่เรียบร้อยซะงั้น
(เสื้อนักศึกษา กางเกงสำดำ รองเท้าผ้าใบ)


แต่สิ่งที่ผมสงสัยคือ เวลาธุรการมหาลัย เจ้าพนักงาน บางครั้งก็พวกอาจารย์ทั้งหลาย ฯลฯ ในมหาลัยก็ดี สถานที่ราชการก็ดี ใส่รองเท้าแตะเดินไปเดินมา คือ เรียบร้อย ถูกต้อง?

แล้วถ้าผมใส่แตะเดินไปมา ยกเว้นตอนเข้าพบอาจารย์ หรือสอบ หรือเรียน เปลี่ยนเป็น Sneaker ผมทำผิดหรือเปล่า?

งงดีเหมือนกัน ผมก็ทำตามที่เห็นจาก 'Gen X' นั่นแหละ