ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 180
ที่อยู่: ห้อง 309
โพสเมื่อ: Thu Oct 24, 2013 11:46
ถูกแบนแล้ว
รู้ไว้ไม่เสียหาย ตำนานของ "ประวัติศาสตร์รถแท็กซี่ประเทศไทย"


แท็กซี่
แท็กซี่ (Taxi) เป็นการโดยสารสาธารณะประเภทหนึ่งสำหรับผู้โดยสารคนเดียวหรือกลุ่มเล็กๆ รถแท็กซี่เป็นยานพาหนะไว้สำหรับว่าจ้างโดยผู้ขับจะส่งผู้โดยสารระหว่างที่หนึ่งไปยังที่หนึ่งตามที่ผู้โดยสารอยากจะไป
แท็กซี่ เป็นคำย่อมาจาก แท็กซี่แค็บ (Taxicab) คิดค้นโดย แฮร์รี่ เอ็น อัลเลน นักธุรกิจชาวนิวยอร์กที่นำเข้ารถแท็กซี่มาจากฝรั่งเศส โดยย่อมาจากคำว่า แท็กซี่มิเตอร์ แค็บ (Taximeter cab) อีกที
ส่วนคำว่า cab มาจากคำว่า cabriolet คือรถม้าลากจูง และคำว่า taxi เป็นรากศัพท์ภาษาละตินในยุคกลาง ซึ่งมาจากคำว่า taxa ที่หมายถึงภาษีหรือการคิดเงิน และคำว่า meter มาจากภาษากรีกคำว่า metron แปลว่า วัดระยะทาง

รถแท็กซี่คันแรกของเมืองไทย
รถแท็กซี่เมืองไทยมีวิวัฒนาการที่น่าสนใจไม่น้อย คุณเทพชู ทับทอง ได้เขียนเล่าไว้ว่า คำว่า แท็กซี่ เพิ่งจะมาได้ยินเมื่อ 20 30 ปีที่ผ่านมานี้เอง แต่ก่อนชาวพระนครเรียกรถแท็กซี่ว่า รถไมล์ เมื่อราว พ.ศ. 2467 - 2468 พระยาเทพหัสดิน ณ อยุธยา (ผาด) เป็นผู้เริ่มกำหนด แท็กซี่ ครั้งแรกในเมืองไทย โดยนำเอารถยี่ห้อออสตินขนาดเล็กออกวิ่งรับจ้าง โดยติดป้ายรับจ้างไว้ข้างหน้าข้างหลังของตัวรถ ซึ่งคนขับรถในสมัยนั้นส่วนใหญ่เป็นพวกทหารอาสา หลังสงครามโลกครั้งที่ 1

สำหรับค่าโดยสารคิดเป็นไมล์ โดยตกไมล์ละ 15 สตางค์ ซึ่งนับว่าแพงมากเมื่อเทียบราคากับค่าโดยสารในปัจจุบัน

รถแท็กซี่ในสมัยบุกเบิกใหม่ๆ นั้น มีอยู่เพียง 14 คัน ในปี 2469 แต่ถึงมีจำนวนน้อย ก็ประสบปัญหาการขาดทุน จนต้องเลิกกิจการ ซึ่งก็อาจเป็นไปได้ว่าค่าโดยสารแพง ผู้ใช้บริการยังไม่คุ้นเคยจึงไม่ยอมนั่ง ประกอบกับกรุงเทพฯ ยังมีขนาดเล็ก และมีรถรับจ้างอื่นๆ เช่นรถเจ็กอยู่มาก และราคาถูก

หลังจากเลิกกิจการไปแล้ว กรุงเทพฯ ก็ไม่มีรถแท็กซี่อีกเลย จนหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2490 มีผู้นำรถยนต์นั่งมาให้บริการในลักษณะรถแท็กซี่ ซึ่งได้รับความนิยมจนมีการจัดตั้งเป็นบริษัทเดินรถแท็กซี่ขึ้นมา ใน 3 4 ปีต่อมา โดยคิดค่าโดยสารกิโลเมตรละ 2 บาท รถที่นำมาบริการในช่วงนั้นเป็นรถยี่ห้อเรโนลต์ เครื่องท้ายคันเล็กๆ

คุณเทพชูฯ บอกว่า คนกรุงเทพฯ สมัยนั้นเรียกแท็กซี่ว่า เรโนลต์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มความสำเร็จของการเดินรถแท็กซี่ เพราะเป็นที่นิยมของคนทั่วไป เนื่องจากยังมีรถจำนวนน้อย คนนิยมนั่ง สะดวก รวดเร็วกว่ารถจักรยานสามล้อถีบ ซึ่งมีชุกชุมในยุคนั้น ด้วยเหตุนี้ทำให้อาชีพขับรถแท็กซี่เป็นที่ฮือฮา มีผู้นำรถเก๋งไปทำเป็นรถแท็กซี่กันมาก จนระบาดไปต่างจังหวัด จนต้องมีการควบคุมกำหนดจำนวนรถมาจนถึงปัจจุบัน

สำหรับรถที่นำมาเป็นรถแท็กซี่นั้น หลังจากเรโนลต์เริ่มเสื่อมสภาพไปตามอายุการใช้งานแล้ว ได้มีการนำรถออสตินแวนสองประตูสีเทามาใช้แทน ต่อมาเปลี่ยนมาเป็นรถดัทสันบลูเบิดหรือรถเก๋งฮีโน่ เครื่องท้ายตามกำลังทรัพย์ของแต่ละบริษัทจนกระทั่งเป็นรถโตโยต้า รถแลนเซอร์แชมป์ เนื่องจากรถแท็กซี่นั้นบุคคลธรรมดาอาจเป็นเจ้าของได้ บางครั้งจึงอาจพบเห็นรถแท็กซี่ที่ใช้รถฮอนด้าหรือรถเปอร์โยต์นำมาเป็นรถแท็กซี่ด้วย สำหรับรถแท็กซี่ในเมืองไทยในปัจจุบันเป็นรถปรับอากาศ ติดมิเตอร์ และมีวิทยุสื่อสาร





รู้ไว้ไม่เสียหาย ตำนานของ "ปาท่องโก๋" // http://www.soccersuck.com/boards/topic/925791
3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออนไลน์
คอมเมนเตเตอร์
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Mar 2008
ตอบ: 11545
ที่อยู่: บ้าน
โพสเมื่อ: Thu Oct 24, 2013 11:56
[RE: รู้ไว้ไม่เสียหาย ตำนานของ "ประวัติศาสตร์รถแท็กซี่ประเทศไทย"]
จนปัจจุบัน กลายเป้นาอาชีพ ส่งรถ โบกทีไรไม่เคยไป olo
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 06 Nov 2010
ตอบ: 12349
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 24, 2013 11:59
[RE: รู้ไว้ไม่เสียหาย ตำนานของ "ประวัติศาสตร์รถแท็กซี่ประเทศไทย"]
คันในรูปน่านั่งกว่าปัจจุบันอีก
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
อวาตาร์&ลายเซ็นต์ผิดกฏ
Status: ฉลามตกใจ!!
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Sep 2010
ตอบ: 1185
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 24, 2013 11:59
[RE: รู้ไว้ไม่เสียหาย ตำนานของ "ประวัติศาสตร์รถแท็กซี่ประเทศไทย"]
มายฮาร์ทโกชาลาลาลาลา พิมพ์ว่า:
จนปัจจุบัน กลายเป้นาอาชีพ ส่งรถ โบกทีไรไม่เคยไป olo  



โบกทีบอก แก๊สหมด

แล้วจะมาขึ้นว่า ว่าง หน้ากระจกรถเพื่ออออ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status: ความกล้าที่แท้ ไม่ใช่การรู้ว่า เมื่อไหร่ควรที่จะฆ่
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 1536
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 24, 2013 12:08
[RE: รู้ไว้ไม่เสียหาย ตำนานของ "ประวัติศาสตร์รถแท็กซี่ประเทศไทย"]
หลังๆ ผมใช้บ่อย พวกโบกไม่ค่อยไป

เปิดประตูหน้า
บอกว่าจะไป......
ถ้าคนขับบอกไม่ไปเพราะ.....
หันไปมองเบาะหลัง แล้วบอกขอโทษครับไม่ทันมองว่ามีคนนั่งอยู่
ปิดประตู
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักบอลลีกภูมิภาค
Status: Glory Glory Man Utd
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 May 2010
ตอบ: 33126
ที่อยู่: ...
โพสเมื่อ: Thu Oct 24, 2013 13:21
[RE: รู้ไว้ไม่เสียหาย ตำนานของ "ประวัติศาสตร์รถแท็กซี่ประเทศไทย"]
เจ๋งอ่ะ น่านั่งโคตร
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status: " ลิเวอร์พูลไม่ได้เป็นแค่สโมสรฟุตบอล ที่นี่..คือวิ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 May 2011
ตอบ: 1654
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 24, 2013 14:11
[RE: รู้ไว้ไม่เสียหาย ตำนานของ "ประวัติศาสตร์รถแท็กซี่ประเทศไทย"]
แถวบ้านครับ

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status: You'll never walk Alone !!!
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 1461
ที่อยู่: Merseyside L4 0TH
โพสเมื่อ: Thu Oct 24, 2013 15:31
[RE: รู้ไว้ไม่เสียหาย ตำนานของ "ประวัติศาสตร์รถแท็กซี่ประเทศไทย"]



สมัยนั้นโบกที

ขึ้นได้ทั้งหมู่บ้านเลยนะนั้น

โคดยาว



0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel