BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ตำรวจบอร์ด
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 Jul 2009
ตอบ: 23
ที่อยู่: Be as you were when we met
โพสเมื่อ: Thu Oct 10, 2013 11:40
(เรื่องเก่า เล่าใหม่) ## ความทรงจำที่ตึกวิทย์ ##
## ความทรงจำที่ตึกวิทย์ ##



ย้อนกลับไปเมื่อซัก 25 ปีที่แล้ว

แม่ผมเป็นครูสอนชีวะ ในขณะที่ต้องรับหน้าที่เป็นรักษาการ หัวหน้าฝ่ายทะเบียนวัดผลด้วย แม่ผมจึงมีโต๊ะประจำ 3 ที่

โต๊ะแรก ที่ห้องทะเบียนฯ เป็นที่ๆ ผมคุ้นเคย และชอบไปมากที่สุด เมื่อ 25 ปีก่อน ไม่มีโทรศัพท์มือถือ ไม่มีอีเมล์ ผมชอบไปค้นว่า บ้านสาวคนนี้อยู่ที่ไหน เบอร์โทรอะไร เรียนจบจากที่ไหนมา

โต๊ะที่สอง ห้องครูวิทยาศาสตร์ เป็นที่ๆ ผมไม่ค่อยได้ไปเพราะแม่สอน สอน และสอน สอนเสร็จก็มาจัดการงานเกี่ยวกับทะเบียนเด็กนักเรียน

โต๊ะที่สาม ห้องชีวะ ห้องนี้อยู่ที่ตึกวิทย์ ซึ่งเป็นอาคาร 4 ชั้น ห้องปฎิบัติการ เคมี ฟิสิกส์ ชีวะ จะอยู่ริมสุดเรียงกันขึ้นไป ชั้นที่ 1 เป็นห้องเคมี ชั้นที่ 2 เป็นห้อง ฟิสิกส์ ชั้นที่ 3 เป็นห้องชีวะ และชั้นที่ 4 ห้องเก็บของๆ หมวดวิทย์


ห้องเคมี ... จะมีตู้ขนาดใหญ่ ที่เต็มไปด้วยขวดสีชาสารพัด หลอดแก้ว บิกเกอร์ ตะเกียงแอลกอฮอร์ และอุปกรณ์ทดลองต่างๆ

ห้องเคมี จึงเป็นห้องที่มีกลิ่นเหม็นแปลกๆ มากที่สุด

ห้องฟิสิกส์ .. มันก็จะมีไอ้วงกลมๆ เหมือนวงโคจรดาวเคราะห์แต่ถ้าจำกันได้จริงๆ แล้วมันเป็นโครงสร้างอะตอม

ห้องฟิสิกส์ จึงเป็นห้องที่ให้ความรู้สึกปลอดโปร่งที่สุด

ห้องชีวะ ... สิ่งที่คาดหวังได้ คือ โครงกระดูกมนุษย์ขนาดเท่าตัวจริง ซึ่งผมคิดว่า มันเป็นเรซิ่น แต่ถึงงั้น มันก็ไม่เป็นมงคลต่อลูกกะตาซักเท่าไหร่ มีกล้องจุลทรรศ์ มีโครงกระดูกสัตว์ เช่น นก ไก่ ปลา หัวกระโหลกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมต่างๆ เช่น กวาง สุนัข แมว ขวดโหลรักษาสภาพซาก สัตว์เลื้อยคลาน และสัตวน้ำต่างๆ งู ปลาไหล พยาธิ ปลา ที่เลวร้ายที่สุดคือ ขวดโหลดองซากทารกที่เสียชีวิตในครรภ์ หรือเสียชีวิตขณะคลอด

ห้องชีวะ จึงเป็นห้องที่ใกล้ชิด ชีวิต และความตายมากที่สุด


ที่ห้องชีวะ มีตู้ปลาขนาดใหญ่ (ไม่รู้จะเลี้ยงทำไม) ซึ่งวางกั้นกลางระหว่าง โต๊ะปฏิบัติการของนักเรียน กับโต๊ะของแม่ผม ซึ่งเป็นครูชีวะที่อาวุโสที่สุด ผมในตอนนั้น อายุเพียง 9 - 10 ขวบ ยังเป็นเด็กประถมที่วิ่งเล่นในโรงเรียนมัธยมประจำจังหวัด เพราะบ้านอยู่ในบ้านพักครู

ไม่ค่อยมีใครรู้หรอกว่า โรงเรียน ที่ครึกครื้น เฮฮา เต็มไปด้วยชีวิตในวัน และเวลาราชการนั้น แปรเปลี่ยนเป็น วังเวง สงัด และหลอนถึงเพียงไหน ยามไร้ผู้คน ยิ่งโรงเรียนยิ่งกว้าง ยิ่งทำให้รู้สึกขนลุก เมื่อยามมันปลอดผู้คน ทุกๆ ที่ มันดูแปลกไปจากที่เราเคยรู้สึก

เคยไหมครับเวลาเดินผ่านไปตามโถงทางเดินหน้าห้องเรียน ในวันที่ไม่มีการเรียน การสอน ห้องแล้ว ห้องเล่า มีโต๊ะเก้าอี้เรียงราย เวลาเราเดินผ่านประตูแต่ละบาน แต่ละบาน ไปตามโถงอันเงียบสงัด จ้องมองเข้าไปภายในห้องอันมืดสลัว มีแสงเพียงน้อยนิดลอดผ่านมาทางช่องแสงเหนือหน้าต่างที่ปิดสนิท กลัว .. ที่จะเห็นบางอย่าง

ท่านเคยรู้สึกเสียวสันหลังเหมือนผมไหม ?

ผมยืนอยู่ที่ทางเดินระหว่างตึกเรียนสองตึก ที่ตัดผ่านสวนวรรณคดี รอบตัวเป็นสวนหย่อม และสระน้ำ มีรูปปูนพลาสเตอร์ขนาดใหญ่ เป็นตัวละครในวรรณคดี พระอภัยมณี นางเงือก และผีเสื้อสมุทร ผมไม่กลัวพระอภัยมณี ไม่กลัวผีเสื้อสมุทร แต่กับนางเงือก ...

ผมรู้สึก ไม่สบายใจเวลามองรูปปั้นนางเงือก

ใบหน้านั้นมีเค้าสวยงาม ตามจินตนาการของผู้ปั้น ดวงตาของรูปหล่อ ปูนพลาสเตอร์ ดูไร้ชีวิต
แต่คล้ายกับจับจ้องมาที่เราไม่วางตา บนใบหน้าหยาบ แห้งผากของปูนพลาสเตอร์ รูปปากของเธอแย้มพราย เวลามองแล้วรู้สึกเหมือนเธอจ้องมองผม และยิ้มให้ผม


ผมพยายามตัดความรู้สึกไม่ดีทิ้งไป เหลียวหลังกลับ เป็นตึกหมวดวิชาภาษาไทย-นาฎศิลป์ อันเป็นตึกที่เก่าแก่ที่สุดของโรงเรียน

อาคาร 2 ชั้น ผนังเก่าซีด มีรอยร้าว และคราบตะไคร่น้ำแห้งกรัง หน้าต่างไม้เก่าซีด จนจำไม่ได้ว่า ทาสีอะไรไว้ บ้างปิดไว้ บ้างเปิดอ้า มองลอดไปเห็นภายในห้องเรียนอันมืด ทึบ

ที่ตึกหลังนี้ มีเรื่องเล่า เกี่ยวกับห้องนาฎศิลป์ บนชั้นสอง ที่วันดีคืนดี มีภารโรง หรือ ครูเวร ได้ยินเสียงดนตรีไทยดังออกมาจากห้อง

หันกลับมา เบื้องหน้าของผม คือตึกวิทย์ ซึ่งเป็นตึกที่ใหญ่ที่สุดในโรงเรียน

อาคารสูง 4 ชั้นตระหง่าน เบื้องหน้าเด็กฟันยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม เวิ้งว้าง ไร้ผู้คน เนื่องจากเป็นวันอาทิตย์ ภารโรง และครูเวร ประจำอยู่ตึกใหม่ ด้านหน้าโรงเรียน

ผมต้องมาปฎิบัติภารกิจบางอย่างตามคำสั่งของแม่ นั่นคือ การให้อาหารปลา ในห้องชีวะ

งานที่ผมไม่อยากทำมากทีสุด

ด้วยสเกลทางกายภาพที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ทำให้ ตึกวิทย์ ข่มเด็กตัวเล็กอย่างผมอย่างราบคาบ โดยเฉพาะในยามที่ร้างผู้คน ไม่มีแม้แต่หมาซักตัว ....


โถงทางเดินที่ไร้ผู้คนในแต่ละชั้น มันทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ เวลามองประตูซี่ลูกกรงเหล็ก ที่เปิดปิดในลักษณะดึงเข้าหาตัว แบบที่เห็นตาม ร้านค้าเก่าๆ สมัยนั้นประตูเหล็กแบบม้วน ยังไม่นิยม

ทุกอิริยาบถ ทุกการกระทำ มันสะท้อนก้องในระบบเอ็คโค่ ชัดเจน เสียงดันลูกกรงเหล็กที่ล้อเลื่อนคงขึ้นสนิมเขรอะ มันแหลมเสียดหัวใจ ก้องกังวาน ยาวนาน ในความเงียบสงัด ชนิดที่แม้แต่เสียงเข็มตกซักเล่ม ในบริเวณนั้น ผมคิดว่า ผมคงได้ยิน

แม้จะเป็นเวลาบ่ายแก่ๆ แต่ผมรู้สึกหนาวไปถึงขั้วหัวใจ ผมเดินก้าวเท้าขึ้นบันได ผ่านชานพักเท้า ที่มีกระจกบานใหญ่ ให้นักเรียนส่องดูความเรียบร้อยของการแต่งกาย กระจกบานที่ผมชอบส่อง เวลาวิ่งขึ้นมาหาแม่ในวันที่แม่มีสอน

แต่วันนี้ผมไม่อยากมองมันเลย มันสะท้อนภาพของทางเดินชั้นที่เรากำลังจะขึ้นไป และผมไม่อยากเห็นอะไร นอกจากความว่างเปล่า


ผ่านชั้น 2 ห้องฟิสิกส์ขึ้นไป จนผมมาหยุดที่ชั้น 3 หน้าห้องปฎิบัติการชีวะ

เสียง แกร็ก ... เมื่อผมไขกุญแจ และบิดลูกบิด และก้าวเท้าเข้าไปในห้อง หน้าต่างทุกบานปิดสนิท ป้องกันการลอบปีนเข้ามา เพราะกล้องจุลทรรศ์มีราคาสูง

ภายในนั้น จึงค่อนข้างมืด อับ ขวดโหลที่ใส่น้ำยาดองซาก ปิดสนิทพอที่จะไม่ส่งกลิ่นรบกวนใดๆ

แต่จิตใจของผมมันสร้างกลิ่นในมโนคติขึ้นแล้ว ไม่ว่าจะกลิ่นฟอร์มาลีน กลิ่นอับของซากกระดูกสัตว์ กลิ่นสาบสางจางๆ กลิ่นของความตาย ....

ผมต้องเดินเข้าไปในส่วนลึกที่สุดของห้อง เพื่อเปิดตู้หยิบอาหารปลา และให้อาหารพวกมัน

ซากของสิ่งที่เคยถูกเรียกว่า สิ่งมีชีวิตที่วางบนชั้นเหล็กทั้งหมดนั้น ราวกับนัดกันจ้องมองผม ซากงู ซากเด็กทารกในขวดโหล เหมือนจะขยับตัวได้

ช่วงเวลาเพียงไม่เกิน 1 นาที นับจาก ไขประตูห้อง จนเก็บอาหารปลากลับเข้าตู้ สำหรับผมมันยาวนานเหลือเกิน


ผมล็อคประตูห้องด้วยมือสั่นเท่า หายใจกระชั้นสั้น ถี่ นั่นทำให้อ็อคซิเจน ไปเลี้ยงสมองของผมน้อยลงและสร้างความเครียดขึ้นมากกว่าเดิม ในขณะที่ผมกำลังจะคลายความกังวล และเดินลงมาสิ้นสุดภารกิจน่าหวาดหวั่นนี้ โดยสวัสดิภาพ

เสียงๆ หนึ่งเหมือนของตกข้างบนห้องเก็บของซึ่งอยู่ชั้นถัดไปก็ดังขึ้น



ผมกลั้นหายใจ รู้สึกร้อนวาบที่ท้ายทอย จากนั้นก็เบลอ รู้สึกเหมือนถูกถีบ (แต่มันคงเป็นปฏิกริยาของความกลัวมากกว่าอย่างอื่น) มารู้สึกตัวอีกทียืนอยู่ที่ตีนบันได ชั้นล่าง ไม่รู้เผ่นลงบันไดมาทีละกี่ขั้น ผมรีบปิดประตูลูกกรงให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ กลัวว่า จะมีใคร หรืออะไร เดินลงบันไดมา เสร็จแล้วก็วิ่งหางจุกตูด กลับบ้าน

ผมไม่เคยมาทำหน้าที่ให้อาหารปลาอีกเลย
แม้จะโดนแม่ด่า ก็ตาม ......

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
แข้งบุนเดสลีกา
Status: กุอินดี้ เมิงงไม่เข้าใจกุหรอก..!!#/&/@
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Sep 2013
ตอบ: 5909
ที่อยู่: U Can Google Me Baby.
โพสเมื่อ: Thu Oct 10, 2013 11:42
[RE: (เรื่องเก่า เล่าใหม่) ## ความทรงจำที่ตึกวิทย์ ##]
25 ปีที่แล้วเชียว

อ่านจบแล้ว ใช้ๆๆ อารมณ์เหมือนสิ่งมีชีวิตในขวดโหล จะลืมตามาจ้องเรา หลอนนนนน
แก้ไขล่าสุดโดย fantaricezy เมื่อ Thu Oct 10, 2013 11:48, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
แฟนต้า - ประธานสมาคมกลุ่มแม่บ้านอเซนอล

..................... พวกคนใจร้ายย
ออฟไลน์
ซุปตาร์ฟุตบอลโลก
Status: sutatS
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 19 May 2011
ตอบ: 14299
ที่อยู่: บนโลกจ้า
โพสเมื่อ: Thu Oct 10, 2013 12:02
[RE: (เรื่องเก่า เล่าใหม่) ## ความทรงจำที่ตึกวิทย์ ##]
อ่านแล้วพอพอกับว่ายน้ำอยู่แล้วคิดว่าถ้าไม่ว่ายเร็วกว่านี้ไอหลามงับตูดแน่
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel