ตำรวจบอร์ด
Status:
: 0 ใบ
: 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 Jul 2009
ตอบ: 23
ที่อยู่: Be as you were when we met
โพสเมื่อ: Wed Oct 09, 2013 22:30
(เรื่องเก่า เล่าใหม่) ## เรื่องแปลกๆ ตอนบวช ##
## เรื่องแปลกๆ ตอนบวช ##
เรื่องนี้ เป็นเรื่องสั้นๆ ที่เซฟเก็บไว้ก่อนย้ายบอร์ด ระหว่างหาไฟล์ อาถรรพ์บ้านไร่ตอนต่อไป ขอนำมาเล่าสู่กันฟังคั่นเวลา ครับ
ปลายเดือนเมษายน ปี 2547 ผมได้มีโอกาสเข้าสู่ร่มกาสาวพัตร์ เป็นเวลาประมาณ 14 วัน โดยผมไปบวชที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดเลย
ในครั้งนั้นนอกจากผม ก็ยังมีลูกพี่ลูกน้อง (ผู้พี่) อีกสองคน ที่เข้าอุปสมบทพร้อมกัน หลังจากพิธีตามประเพณี และ พิธีทางศาสนา ผ่านพ้นไปผมก็ได้เป็นพระภิกษุเต็มตัว มีฉายาทางธรรมว่า
อคคยุตโต
แปลว่า ผู้มีพร้อมด้วยความดี (ไม่ค่อยจะตรงเท่าไหร่)
พระพี่เลี้ยงของผม เป็นพระหนุ่มใหญ่ (ตัวก็ใหญ่) ชื่อว่า หลวงพี่บีท่านบวชมาได้ราว 4-5 พรรษา แล้ว เดิมท่านก็เป็นนักเลงหัวไม้เกกมะเหรกเกเรมาก่อน จนหลวงพ่อเจ้าอาวาส ท่านขัดเกลานิสัยตอนบวชสามเณร จนสามเณรบี ในสมัยนั้น ศรัทธาในพระพุทธศาสนา (ปัจจุบันหลวงพี่บี ท่านได้มรณภาพไปแล้ว ด้วยโรคลำไส้)
จะเล่าให้ฟังก่อนว่า ที่นี่ นักเรียนอาชีวะที่ตีกัน เขาจับมาบวชเณรในช่วงปิดภาคฤดูร้อนนะครับ เพื่อให้วัดขัดเกลานิสัยตอนที่ผมบวชนั้น เณรจะเยอะเป็นพิเศษ เพราะเป็นช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อนพอดี
หลังจากญาติโยมพากันกลับ พวกเรา (ผม และพี่ชายสองคน) ก็พากันไปกราบหลวงพ่อที่กุฎิ ท่านก็มอบหมายให้หลวงพี่บีจัดการเรื่องต่างๆให้พวกเรา โดยกุฎิของเรานั้น อยู่ไม่ไกลจากกุฎิของหลวงพ่อเจ้าอาวาสโดยกุฎิหลวงพ่อ อยู่ด้านหน้าติดถนน ส่วน กุฎิของเราอยุ่แถวหลังติดแม่น้ำหมาน มีท่าน้ำยื่นออกจากกุฎิ ซึ่งเราสามารถไปซักล้างได้
กุฎิของผม เป็นเรือนไม้ แต่เดิมยกพื้นสูง เชิงบันไดมีแอ่งปูนสีเหลี่ยมสำหรับล้างเท้า ชั้นบนเป็นชานกว้างพอประมาณ มียกพื้นสำหรับพระและฆารวาสนั่งด้านล่าง ด้านหลังเป็นห้องติดกันสองห้อง
ส่วนห้องน้ำปลูกแยกต่างหากต้องลงมาเข้าด้านล่าง เดินไปทางท่าน้ำห่างจากกุฎิไปประมาณสิบก้าว ห้องน้ำมีไฟหลอดไส้ (กลมๆ เหลืองๆ)
ส่วนบนกุฎิ ... ไม่มีไฟฟ้าใช้ ......
พวกผมมองหน้ากัน ถามหลวงพี่บี
"ไม่มีไฟฟ้า แล้วกลางคืนทำไงล่ะหลวงพี่"
"จุดเทียนเอาน่ะท่าน" หลวงพี่บีหัวเราะ คงเข้าใจความกังวลของพวกผม
"ถ้านอนไม่ไหว ก็ไปนอนที่ศาลาหลวงปู่โน่น มีหลวงพี่ท่านนอนเฝ้าอยู่ ท่านสามคนก็ไปนอนกับท่านก่อน ทำใจได้เมื่อไหร่ก็มานอนที่นี่"
ซึ่งจริงๆ แล้ว เราก็อาบัติถ้าทำอย่างที่ว่า แต่ท่านก็คงเห็นใจพระใหม่ กุฎิไม้ เก่าก็เก่า แถมมืดอีก จะนอนกันอย่างไรไหว ...
เอาวะ ... นอนดูซักคืน ไม่ไหวอย่างไรก็หอบของไปนอนเฝ้าศาลากัน
คืนนั้น นั่งสนทนากับหลวงพี่บีจนค่ำ หลวงพี่ขอตัวกลับกุฎิ ซึ่งท่าน นอนกุฎิหลวงพ่อ คอยรับใช้เนื่องจากหลวงพ่อเองก็อายุมากแล้ว
พอหลวงพี่ไป พวกผมเงียบ ได้แต่มองหน้ากัน
ในแสงเทียนเลือนสลัว เปลวเทียนเต้นระริก วับแวม
ส่องให้ใบหน้าแต่ละคนดูเลือนลาง แปลกไป ???
ไม่มีใครพูดอะไร ห้องสองห้อง เราลองเข้าไปสำรวจเมื่อตอนบ่าย ห้องหนึ่ง เป็นห้องว่าง ส่วนอีกห้อง มีเครื่องสังฆภัณฑ์เก่าๆ วางอยู่มุมห้องพวกเราสามรูป ตกลงนอนห้องแรก เพราะมันโล่งกว่า และใหญ่กว่า มีตาลปัตรเก่าๆ คร่ำคร่าวางพิงอยู่มุมห้อง
คืนนั้นเราจำวัดตั้งแต่ยังไม่ดึกมาก เพราะไม่รู้จะทำอะไร ไฟฟ้าก็ไม่มี เป่าเทียนแล้วนอน ไม่วายฉวยไฟฉายมาวางไว้ใกล้ๆ มือ
เงียบสงัด ได้ยินเสียงลมพัดยอดมะพร้าวดัง ซ่า ซ่า ด้านนอก
เสียงจิ้งหรีดร้อง เสียงนกกลางคืนบางชนิดร้องบนยอดไม้ ห่างไกลออกไป
เสียงเหมือนมีคนทุ่มบางอย่างใส่น้ำ ซึ่งผมเดาว่า เป็นสัตว์ประเภท ตะกวด
ท่ามกลางความมืด และความเงียบ จนได้ยินเสียงหัวใจเต้นตึกๆ นั้น สติของผมกำลังพร่าเลือน กึ่งหลับ กึ่งตื่น เหมือนอยู่ในภวังค์ คล้ายกับมีคนยืนอยู่ปลายเท้า หูผมแว่ว เหมือนมีเสียงถอนหายใจหนักๆ แสดงอาการว่า ไม่พอใจ
ยังไม่ทันที่ผมจะคิดอะไรได้ ก็ปรากฎเสียงดัง
แรงสะเทือนมาก จนพระใหม่สามรูป ลุกขึ้นนั่งพร้อมๆ กัน
ผมกดไฟฉายกราดไปทั่วห้อง
ไม่มีอะไร .... จนไปสะดุดกับภาพหนึ่ง
ตาลปัตรที่วางพิงฝาอยู่เมื่อหัวค่ำ ล้มอยู่ที่พื้น พระพี่ชายของผม ค่อยๆ ลุกไปหยิบขึ้นวางตั้งเหมือนเดิม
สิ่งที่เราไม่ทันสังเกตเมื่อแรกเข้ามาก็คือ กลางตาลปัตรเป็นรูป ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
และที่ผมเพิ่งรู้สึกตัวก็คือ ผมนอนหันปลายเท้าไปทางตาลปัตร
คืนนั้น เราตัดสินใจลงไปเคาะ เรียกหลวงพี่ที่นอนเฝ้าศาลาหลวงปู่ ขออาศัยนอนกับท่าน และไม่ได้กลับขึ้นไปนอนที่กุฎิอีกเลยจนกระทั่งสึก
เช้าวันต่อมา หลวงพี่บียิ้มร่ามาแต่ไกล ถามว่า เมื่อคืนมีอะไร ท่านได้ยินเสียงดัง นึกว่าเรือนถล่มซะแล้ว พอพวกผมเล่าให้ท่านฟัง ท่านก็ไม่ว่าอะไร เพียงแต่บอกว่า
"เขาไม่พอใจนะ ท่านนอนไม่ดูให้ดีเสียก่อน"
ผมได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ .... ไม่กล้าถามท่านว่า ใครไม่พอใจ .....
แก้ไขล่าสุดโดย Extream Aggressor เมื่อ Wed Oct 09, 2013 22:32, ทั้งหมด 1 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
My Locker