ก่อนอื่นกล่าวสวัสดีปีใหม่
เพื่อนๆชาว SS ทุกท่านนะครับ
ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง
คิดสิ่งใดขอให้สมความมุ่งมั่นปรารถนา
ร่ำรวยเงินทองน้ำใจ การงานการเรียน
ขอให้สำเร็จลุล่วงราบรื่นไปได้ด้วยดีครับ


กระทู้นี้ เป็นกระทู้แรกของผมในรอบปีก็ว่าได้
ที่ผ่านมา ติดภาระเรื่องเรียน เรื่องที่อยู่อาศัยครับ
ไม่มีเน็ตให้เล่นมาก แถมเล่นในมือถือ ก็เลยไม่ค่อยได้เข้ามาโพสต์

ส่วนเนื้อหาในกระทู้นี้
ขอพูดถึง นักเตะตามชื่อไอดีผมหน่อย
ขอตั้งชื่อเรื่องว่า "ลูกเจี๊ยบที่ถูกลืม" ก็แล้วกันครับ
หากผิดพลาดประการใดขออภัยล่วงหน้าครับ

_______________________________

"ไมเคิ่ล คาร์ริค" ลูกเจี๊ยบที่ถูกลืม







จากวันเป็นเดือนจากเดือนเป็นปี
เเละจากปีเป็น 6 ปีที่เค้าได้เข้ามาอยู่กับเรา
วันที่ 31 เดือนสิงหาคมปี 2006 คือวันเเรกที่เค้าได้ก้าวเข้ามาอยู่กับเรา
ได้ก้าวเข้ามาอยู่กับหนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด"

"ไมเคิ่ล คาร์ริค" นั้นคือชื่อของเค้า
หนึ่งในมิดฟิลด์ที่มาเเรงที่สุดคนหนึ่งในตอนนั้น
ผมคือหนึ่งคนที่อยากได้เค้ามาร่วมทีม
แมนยูเราได้ซื้อตัวเค้ามาจากสโมสร ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ด้วยราคา 16 ล้านปอนด์
ซึ่งดูจากฝีเท้าเเล้ว ถือว่าคุ้มมากที่เราได้ตัวเค้ามาร่วมทีม
ทุกๆอย่างเริ่มต้นได้ดีมาก ไม่ต้องมีการปรับจากเค้าเลย เมื่อได้มาเล่นกับทีมเรา
การผ่านบอลที่เฉียบคม การเปิดบอลจากกลางไปหน้าที่เเม่นยำ
เเละการเล่นที่เรียบง่าย ทำให้เค้าได้ใจใครหลายๆคนไป ซึ่งหนึ่งในนั้นคือผมด้วย
รูปเเบบการเล่นของเค้านั้นไม่มีอะไรมากครับ เรียบง่ายมาก
เเต่จะหาคนที่ทำได้เเบบนี้น้อยมาก ฮาาา (ผมไม่ได้อวยนะเเต่มันคือเรื่องจริง)
การเล่นฟุตบอลง่ายเเต่การทำให้ง่ายนั้นเเหละครับ คือความยาก
ซึ่ง ป๋า เป็นคนที่ชอบคนเล่นสไตล์นี้อยู่เเล้ว
เพราะควบคุมง่าย ทำตามแผนที่สั่งได้ดี ไม่มีความโฉ่งฉ่างในการเล่น
ในอังกฤษหาคนที่เล่นสไตล์นี้ได้ดีเท่า ไมเคิ่ล คาร์ริค นั้น หายากนะ
เพราะเท่าที่เห็น มีเเต่สไตล์ดุดันทั้งนั้น



ทุกอย่างได้ดำเนินไปอย่างสวยงาม มีเเต่คนยกย่องว่าสุดยอด
ความสำเร็จต่างๆ ได้เข้ามาที่ตัวเค้าเเละสโมสร
ทุกเเชมป์ที่ได้มานั้น ตัวเค้าคือส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมได้ก้าวมาถึงทุกวันนี้
ในระยะเวลา 6 ปีที่เค้าได้ก้าวเข้ามาอยู่กับ ยูไนเต็ด นั้น
เค้าได้ทำให้เราเห็นเเล้ว ว่าเค้านั้นสำคัญกับทีมเเค่ไหน



เเต่พอเวลาผ่านไปทุกอย่างเริ่มเปลี่ยน
อายุที่มากขึ้นสังขารที่เริ่มเเย่ลง มันได้ทำให้เค้านั้นช้าลง
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยได้รับคำชม กลับกลายเป็นเสียงก่นด่า
จากทั้งเเฟนบอลชาวไทยเเละเทศ เช่น
"คาร์ริค เเมร่งเล่นช้าเอามันลงมาทำไมว่ะ"
"เเมร่งส่งก็พลาด" ถ้าเป็นในเว็บเราคำด่าก็จะเป็นอีกเเบบ
"ปลัด ส่งบอลให้ดีๆหน่อยสิ" ปลัด เเมร่งส่งช้าว่ะ"
นั้นไง ปลัด เเมร่งช้าจนถูกตัดบอลไปเเล้ว"
สองปีที่ผ่านมานั้นคือเสียงที่ผมได้ยินเป็นประจำ

เค้า (ไมเคิ่ล คาร์ริค) จะเป็นผู้รับเสียงด่าเหล่านี้ไปแต่เพียงคนเดียว
ทำไมล่ะ ? ทำไมเราถึงไม่เห็น สโคลซี่ กิ๊กซี่ โดนบ้าง เพราะอะไร ?
เพราะคำว่า "บารมี" ครับ คำนี้คำเดียวที่ทำให้น้าๆทั้งสองคน
ไม่ค่อยหรือไม่เคยที่จะถูกเเฟนบอลด่าเลย ทั้งๆที่หลายนัด
ผมก็เห็นเค้าก็พลาดไม่ได้เเต่ต่างจาก คาร์ริค เลยสักนิด
ทำไม่ไม่เห็นมีคนมาด่า เพราะน้าทั้งสองคือคนที่เราเคารพรักใช่ไหม ?
เพราะน้าทั้งสองคือคนที่ทำให้เรามีความสุขใช่ไหม ?
เเล้วต่างจากสิ่งที่ คาร์ริค ทำให้เราตรงไหน ?
คาร์ริค รักในสโมสรที่เรารัก คาร์ริคทำเพื่อสโมสรที่เรารัก
ตั้งเเต่เค้าย้ายมาอยู่กับเราเป็นเวลา 6 ปี
ทีเค้าทำให้เรามีความสุข เหมือนๆกับน้าๆทั้งสอง

คาร์ริค ทำเพื่อทีมมากกว่านักเตะที่ชื่ออะไรนะ
เบอร์บาตอฟ หรอ จำไม่ค่อยได้ อิอิ
คาร์ริค ทำในสิ่งที่น่ายกย่องเหมือนๆกับที่ สโคลซี่ กิ๊กซี่ ได้ทำไว้
เเต่หลายคนก็ยังมาบอกว่ามันไม่เหมือนกัน
คาร์ริค เล่นห่วยมากอะ จะไปเหมือนได้ไง
ผมมีอะไรบางอย่างอยากให้ดูว่า ที่หลายๆคนว่าห่วยนั้น มันเป็นไง
นี่คือสิ่งเปรียบเทียบที่คนที่ด่า คาร์ริค ควรดูเอาไว้
มันคือ สถิติของ คาร์ริค ฤดูกาลที่เเล้ว
เเละ เปรียบเทียบ ระหว่าง ไมเคิ่ล คาร์ริค กับ พอล สโคลส์





เเละนี่อีกหนึ่งเปรียบเทียบระหว่าง คาร์ริค กับ เเกเร็ต เเบร์รี่
มิดฟิลด์ทีมเเชมป์ ให้มันรู้กันไปเล่นว่า มันห่วยมากไหม ไอ้ปลัด ที่ทุกคนด่าอะ



ส่วนตัวเลขด้านล่างนี้ คือ
สถิติการผ่านบอลเฉพาะในพรีเมียร์ลีกถดูกาลก่อนครับ
Carrick = 78.5 / 90%
Barry = 71.9 / 86%
Gerrard = 66.5 / 83%
Lampard = 61.5 / 87%
Parker = 62.6 / 90%
Milner = 56.1 / 84%


ส่วนตารางนี่คือ สถิติการผ่านบอลในถดูกาลนี้ (อัพเดทเดือนธันวาคม)


ได้โปรดดูเเล้วทำความเข้าใจ ในสิ่งที่เค้าได้ทำ
การพัฒนาขึ้นในหลายๆด้าน คาร์ริคยังรักษาระดับ
การพัฒนาจุดแข็งของตัวเองได้อยู่ระดับที่ดีขึ้น
แม้ว่าจุดอ่อนของการทำเกมส์รุกที่คาร์ริคยังช้า
และไม่สามารถพาบอลไปได้เร็วนั้น
เเต่เค้าเล่นตำเเหน่งอะไร เค้าไม่ใช่ตัวรุกเเละเค้าก็ไม่ใช่ตัวตัดบอลด้วย
เค้าเป็นตัวควบคุมจังหวะของเกมส์ครับ
จังหวะของเกมส์ควรเป็นเเบบไหน เค้าคือคนที่ควรคุม

หลายๆคนส่งเสียงมาว่า ต้องการ ทอม ต้องการ เเอน
เเล้วใครจะควรคุมจังหวะของเกมส์เราล่ะครับ
ใครจะเป็นคนที่ค่อยดึงเกมส์ให้ช้า
เมื่อทีมตรงข้ามพยายามเล่นเร็วเข้าใส่เราหละ ทอม หรอ ?
ทอม ณ ตอนนี้ยังไม่สามารถทำได้ดีเท่าคาร์ริคเเน่นอนครับ


ทำไมคาร์ริคถึงสำคัญต่อการเล่นของแมนยู ?

ตำแหน่งของไมเคิล คาร์ริค คือ มิลฟิลด์ตัวประกอบ
เฮ้ยยย!! ตัว Hold บอล ครับ ไม่ได้มีหน้าที่เป็นตัวรับ
แต่มีหน้าที่ เชื่อมเกมส์ คอยคุมจังหวะ
คอยถ่ายบอลจากแดนหลังไปยังแดนหน้า
ถ้าถ่ายบอลไปหน้าไม่ได้ เขาก็จะถ่ายบอลกลับไปยังแดนหลัง เพื่อเริ่มใหม่

หลายๆคนอาจไม่เข้าใจว่าทำไมเขาชอบส่งคืนหลัง
เหตุผลเพราะว่าเกมส์บุกเราตันครับ
การส่งบอลคืนหลังและเริ่มใหม่ เป็นการป้องกันการเสียบอล
ความสำคัญของตำแหน่งนี้คือ ต้องจ่ายบอลให้ง่ายและแม่น
เน้นความชัวร์เป็นหลัก จ่ายบอลไปแล้ว เพื่อนเดินเกมส์ต่อได้ทันที
หน้าที่คือ รับบอลแล้ว ส่งต่อให้แนวรุก คิดหาช่องเข้าทำ



รูปแบบการเล่นของแมนยู จะเน้นเกมส์รุกจากริมเส้นทั้งสองฝั่ง
เมื่อผู้เล่นริมเส้น โดนคู่แข่งเข้าบอลแบบ 2-1 เรามักจะไม่ฝืนเล่นยาก
ถ้าริมเส้นไม่สามารถผ่านไปได้ บอลก็จะถูกส่งมาที่มิลฟิลด์ตัวกลาง ซึ่งก็คือ คาร์ริค
และคาร์ริคมีหน้าที่ Hold บอล หมุนหาจังหวะ ส่งต่อให้ตัวรุกทำเกมส์
ประโยชน์ของการ Hold บอล คือ ทำให้กลางรุกอย่างสโคลส์เล่นง่าย
เมื่อสโคลส์ถูกประกบตัว คาร์ริคจะเป็นคนรับบอล แล้วหมุนหาจังหวะส่งให้
เพื่อให้สโคลส์หลุดจากการถูกประกบตัว และสโคลส์ไม่ต้องหมุนหาจังหวะเอง
ทำให้สโคลส์ทำงานง่าย มีเวลาคิดสร้างสรรค์เกมส์รุกครับ

การมีมิลฟิลด์ตัว Hold บอลที่แม่นยำ อย่างคาร์ริค
(สถิติการจ่ายบอลของคาร์ริคในแต่ล่ะเกมส์ แม่นยำมากกว่า 90%)
ทำให้ผู้เล่นริมเส้น เล่นง่าย ไม่ต้องหุบเข้ากลางเพื่อเชื่อมบอล
ยืนรอตรงริมเส้นเลยดีกว่า รอกระชาก 1-1 กับแบ็คคู่แข่ง มีประโยชน์กว่า
กลางเราจะเน้นถ่ายบอลไป-มา เพื่อดึงผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามเข้ามาหาเรา
ทำให้มันเกิดพื้นที่ว่างในแดนคู่แข่ง แล้วให้ผู้เล่นแนวรุกเรา
โดยเฉพาะริมเส้น สามารถ 1-1 ได้

ถ้าริมเส้น 1-1 ได้มากเท่าไหร่
บอลก็มีโอกาสไปถึงกองหน้าเพื่อจบสกอร์ได้มาก
หลายครั้งที่เราเห็นรูนี่ย์ลงต่ำมาทำเกมส์
ก็เพื่อหาช่องว่างเข้าทำในลักษณะนี้แหละ
แต่ท้ายที่สุด บอลก็จะถูกส่งไปที่ผู้เล่นริมเส้น เพื่อส่งให้กองหน้าครับ

ถดูกาลที่แล้ว ช่วงต้นถดูกาล ที่คาร์ริคฟอร์มไม่ดี
ส่วนนึงเพราะเขาแบกรับหน้าที่มากเกินไป
ทำหน้าที่ทั้งถ่ายบอล ตัดบอล สร้างสรร์เกมส์ คือทำทุกอย่าง ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องถนัด





ทำไมป๋าถึงเลือก ไมเคิ่ล คาร์ริค?

นั้นสิ ทำไมป๋าถึงไม่เลือก ทอม - แอน
อย่างที่หลายคนต้องการ ทำไมถึงยังใช้คาร์ริค

สำหรับผมเพราะ ทอม - เเอน ไม่สามารถ ดึงเกมส์
หรือควบคุมเกมส์ให้ช้าลงมาได้ เมื่อทีมฝังตรงข้ามเล่นเร็วเข้าใส่เรา
เพราะโดยธรรมชาติของทั้งสองคน เน้นเกมส์รุก
ป๋า จึงต้องการใช้ คาร์ริค ควบคุมตรงส่วนนี้
เเละ เราก็เห็นเเล้วว่า ป๋า เชื่อใจ คาร์ริค ขนาดไหน
ป๋าเห็นในสิ่งที่เราไม่เห็นงั้นหรอ หรื่อเราเก่งกว่า ป๋า เพราะอะไรทำไม
ป๋า จึงใช้ คาร์ริค ผมก็ไม่อาจจะทราบได้
เเต่ที่รู้เค้าต้องมีดีพอให้ ป๋า เลือกใช้เเน่นอน
ไม่ว่าจะเจอใคร คาร์ริค จะเป็นตัวสำคัญที่ ป๋า เลือกใช้เสมอมา
เเต่ทำไมหลายคนถึงเเทบ ไม่มองเห็นส่วนดีของเค้า(คาร์ริค)เลย
ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบ ทอม-เเอน นะ เเค่ส่วนตัว
คิดว่าอาจจะยังไม่ถึงเวลาที่ ป๋า ต้องการก็ได้
สำหรับผม ทอม คือความหวังสูงสุด ในทีมชุดนี้เลยก็ว่าได้
รอครับ รออีกนิด เราจะได้เห็นความสุดยอดของ ทอม มากกว่านี้เเน่นอน



สุดท้ายนี้ที่ผมอยากจะบอก "สนับสนุน" เค้าเถอะครับ
ในสิ่งต่างๆที่เค้านั้นได้ทำให้เรามา
เค้าคือสุดยอดนักเตะคนหนึ่ง เเม้จะไม่ค่อยมีใครมองเห็นเค้าก็ตาม


"ไมเคิ่ล คาร์ริค" ลูกเจี้ยบที่ถูกลืมตัวนี้
เป็นลูกเจี้ยบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับผมเสมอ



ปล. ขอบคุณท่านหนึ่ง (7neung7) แห่งแฟนแมนยูครับ
http://www.facebook.com/fanmanutdTH

หัวใจหลักของแมนยู ชัด ๆ ผู้ปิดทองหลังพระ ไม่ค่อยมีคนเห็นความดีของแก

ปลัดมาเอง

... หวัดดีปีใหม่ท่านปลัด !!!

คาร์ริค อายุ 31 แล้วหรอเนี้ยนึกว่ารุ่นๆ รูน

บาร์ซ่าจะเอานะ 4-3-3 เค้าบอกไว้

หน้าเด็กก่อนวัย

ตอน 20 เป็นไง ตอน 30 ก็เป็นงั้น

ไม่มี คาริค เมื่อวาน ลำบากเลย

สุดยอดครับ เงียบๆแต่มีคุณภาพครับคนนี้

ผมเหมือนท่านเป้ะ

มันติดภาพรอยคีนมาครับ คีนยังทำได้ทุกอย่างเลย
ผมว่าที่คาริคขาดตอนนี้คือความโหดครับ
จังหว่ะ 50-50 ดูแหย๋งๆไงไม่รู้ อยากให้มีลูกหนักบ้าง
น่าจะช่วยลดภาระกองหลังได้อีกเยอะ

ตอนนี้ ใน FIFA คนเริ่มเห็นแล้ว สเตตัส85

มันก็งี้แหละ บางคน เชียร์เวอร์ก็มี นักเตะบางคนทำดีแทบตายไม่มีใครเห็นค่า

แต่พอคนที่ตัวเองชอบ ทำได้ดีก็ชมเวอร์เกินจริง

เล่นง่ายๆ แต่ยากที่จะมีคนทำได้ นี่แหละMC Classicผม

ว้าวๆๆ ปลัดตั้งมู้ด้วย

ผู้ปิดทองหลังพระ

มุมมองที่ควรรู้จิงๆ

ใช้ชีวิตเรียบง่าย ไม่ต้องเป็นซูเปอร์สตาร์

คนนี้เล่นบอลเป็นทรงและแน่นอนที่สุดในบรรดาที่มีแล้ว
และก็เป็นคนยกระดับทีมหลังการเข้ามาของแกด้วย ก่อนหน้านั้นกลางธรรมชาติแทบไม่มีเลย

มาปีนี้ฟอร์มตอนนี้ดีมากซึ่งก็น่ายินดี ที่สุดแล้วด้วยแนวทางการเล่นแบบ MC holding ของทีมเราก็ต้องยอมรับว่าคนแหละสำคัญกับทีมตอนนี้แล้ว

ถ้ามีคนมีเล่นรับเต็มตัวแบ่งเบาภาระของแกก็คงจะดีนะ มีตัวรับล่าบอล, ตัวเชื่อมแบบคาร์ริค แล้วหน่วยรุกมีคากาวะสร้างสรรค์เต็มตัว ตามเชียร์ต่อละกันไหนๆป๋าก็เลือกแล้วก็หวังว่ามันจะออกมาดี

2ฤดูกาลไม่เคยจะชอบเลย แต่ตอนนี้บอกได้เคยว่าขาดคาร์ริคแล้วกลางแม่งโคตรโปกเลย

ผู้ปิดทองหลังพระ

ถ้าให้นึกถึงคนที่เล่นบอลแบบคาริค คนๆนั้นคือ "บุสเก็ต" ของบาซ่าคับ

เหมือนกันเป๊ะ

คิดถึงเลย เกมเมื่อคืน

ไม่เด่น ไม่ดัง แต่สำคัญต่อทีม

นานจะเห็นท่านปลัดที

นี่แหละ ผู้ปิดทองหลังพระแห่ง โอลแทรฟฟอร์ด

เป็นไอดอลของผมต่อจากเบคแฮม รอยคีน

สุดยอดครับ ยาวแค่ไหนผมก็อ่าน

คาริค
มิดฟิล คนสำคัญ

Carrick

ชอบตอนมาฤดูกาลแรกนะ ฟอร์มโดเด่นมาก

เขียนได้ดีมากครับ ไว้จะติดตามผลงานท่านเรื่อยๆนะครับ

แอบฮาตอนแกฟอร์มตก

จนได้ฉายา

Killer backpass

ปลัดกลับมาแว้ว



ปล.ช่วงนี้ลูกเจี๊ยบเล่นดีสุดๆด้วยน่ะ

เค้า่คือคนสำคัญ ของแมนยู

ขาดคารริกเหมือนขาดใจ

เอาจริงๆแกฟอร์มตกก็ต้องโดนว่าเป็นธรรมดา แต่พอฟอร์มดีคารริกได้รับการยกย่องชื่นชมน้อยกว่าที่ควรจริงๆ

จำได้ตอนอยู่สเปอร์สฤดูก่อนที่จะย้ายมาแมนยูฟอร์มสุดยอดมาก เล่นเป็นตัวคุมจังหวะกับเปิดบอล โดยมีเจ้าพิตบูล เอ็ดการ์ ดาวิดส์ ยืนเป็นตัวรับให้

ถ้าจำไม่ผิดสเปอร์สจบอันดับที่ 5 ของฤดูกาลนั้น จนได้ติด 23 คนลุยฟุตบอลโลก 2006 แถมเป็นตัวจริงด้วย

พอย้ายมาก็เล่นเข้าระบบอย่างรวดเร็ว แถมเข้าขากับสโคลส์สุดๆ

ปี 2008 นี่น่าจะเรียกว่าพีคสุดๆของแกแล้วแหละเนื่องด้วยตอนนั้นป๋าเซ็นฮากรีฟเข้ามาด้วยทำให้เล่นเหมือนตอนที่อยู่สเปอร์ส ไม่ต้องคอยตัดเกมส์มาก คุมจังหวะแล้วก็เปิดบอลเป็นหลัก

จากนั้นก็เริ่มทรงๆ จนมาทรุดหนักก็นัดชิงกับบาซ่าปี 2009 จากนั้นฟอร์มก็เป๋ยาวเลย

จนมากลางฤดูที่แล้วนี่แหละที่สโคลส์กลับมาอีกรอบก็เริ่มดีขึ้น

จนมาฤดูกาลนี้ฟอร์มดีมากมีจังหวะดึงหลอกม้วนไปม้วนมามีชั้นเชิงกล้าเล่นกล้าจ่ายมากขึ้น

น่าจะเพราะ ทอม กับ RVP ส่วนหนึ่งด้วยที่คอยวิ่งหาช่องว่างให้+ดึงตัวประกบ ทำให้ตอนนี้ขาดไม่ได้ซะแล้ว

ตอนแรกๆ ผมก็ไม่ค่อยชอบคาร์ริกนะ ตรงที่เป็นสไตล์ช้านะ...
แต่พอมองดูแผนของป๋าในระยะหลังๆ แล้วก็เข้าใจว่าคาร์ริกสไตล์ไหน

ผมชอบสิ่งหนึ่งที่คุณเขียน


นั้นแหละ คือสิ่งที่ผมบอกกับทุกคนอยู่เสมอ คุณก็คิดเหมือนผม
เขาไม่ใช่กลางรุกที่ดุดัน เขาไม่เน้นลากตะลุยไปแดนหน้า
เขาเป็นคนคอยคุมจังหวะเกมส์ ค่อยผ่อนเกมส์ เร่งเกมส์
และเชื่อมเกมส์ในแดนหลัง

ผมคิดว่าตอนต้นที่คาร์ริกฟอร์มตกนะ เกิดจากที่กองหลังพากันบาดเจ็บระนาว
ไม่มีตัวเลือกให้ลงเล่น คาร์ริกต้องทำหน้าที่ดังกล่าวแทน และบวกกับแผนใหม่ของป๋าทำให้คาร์ริกเล่นไม่ค่อยออก.....

คนที่ทำหน้าที่นี้ นอกจากคาร์ริกแล้ว ผมมองว่ามีเฟลชเชอร์ กับสโคลล์นั้นแหละ
แต่เพลชเชอร์ เป็นคนที่ส่งพลาดกว่าคาร์ริก
ส่วนสโคลล์ ป้าไม่ค่อยให้ลงเล่นมาก เพราะความเร็วที่ลดลง + การใช้แผนลูกโยนยาวนะ และจังหวะการตัดบอลที่แย่มาก

นาทีนี้ ผมเชื่อว่าคาร์ริกยังเป็นนักเตะที่ดีที่สมควรอยู่บนสนามต่อไป แต่เป็นนักเตะที่ไม่มีใครมองเห็นบ่อยหรอก เพราะกองเชียร์ส่วนใหญ่ชื่นชอบกองหน้าซะมากกว่า.....

ปัจจุบันนี่ ขาดนายเหมือนขาดใจ

คาริค

ยินดีต้อนรับสู่คลับพลังเงียบครับ

http://www.facebook.com/carrickThaiFans

เห็นด้วย บางทีก็เห็นใจแกนะ โดนด่าประจำ ทั้งที่สำคัญต่อทีมมาก ดูนัดเอฟเอคัพซิ เฮียไม่ได้ลง กลางเล่นกันยังไง

นี่แหละผู้ปิดทองหลังพระ..