เห็นด้วยมั้ยครับ อันนี้ไปฟังคนเก่งเค้าพูด ผมว่าก็น่าจะจริงนะ

ทั้งสินค้าจีนบุกตัดราคา ทั้งภัยธรรมชาติซ่อมบ้านรถกัน ทั้งหนี้สิน

เลี้ยงลูกบลาๆ ไม่มีทางไหนไม่ปวดร้าวยังไงก็เจ็บช้ำ

"มั่วเอาเองส่วนตัวล้วนๆนะ"
- สถานการณ์ข้างบ้าน มองได้ว่าระเบิดรอบ 3 เร็วๆนี้(ผมมั่ว)
- ซาอุฯเพิ่มประกาศฯเตือนเด็ดขาด/บอมบ์ท่าเรือเยเมนเมื่อไม่กี่วันก่อน ตะวันออกกลางจะชิหายกันอีกพักใหญ่ ส่งผลโดยตรงต่อการค้าทางเรือของเราต่อยุโรป/อเมริกาที่จะชิหายตามอย่างต่อเนื่องเหมือนปีนี้
- ทรัมป์ยังไม่เลิกบ้า สถานการณ์ส่งออกตลาดใหญ่ยังเดาทิศทางไม่ได้
- ยุโรปเองก็มีฝรั่งเศสเป็นระเบิดลูกเบ้อเริ่มที่กำหนดทิศทางไม่ได้ ซึ่งCDG(Roissy-Charles de Gaulle)เองก็เป็นจุดซื้อขายใหญ่สำหรับเรา ไม่ต่างจากFRA หรือสนามบินอื่น และตลาดฝรั่งเศสที่ลงเพื่อขยายต่อเข้ายุโรปก็ไม่ได้แคบ แต่...
.
.
.
ผมไม่กล้าพูดว่าทิศทางดีครับ



Edit : ลืมยุโรปครับ ฮาาาาาา

มีโอกาสจะเป็นแบบนั้น ฉะนั้นใช้ชีวิตไม่ประมาทดีสุด อันไหนไม่จำเป็นตัดได้ตัด

เศรษฐกิจปี 2569 เผชิญภาวะเครื่องยนต์ขับเคลื่อนหลักหลายตัวดับลง ทั้งการส่งออกที่ชลอตัว การบริโภคภายในประเทศที่ซบเซาจากหนี้ครัวเรือนสูง และการลงทุนที่ชะลอตัวจากความไม่แน่นอนทางการเมือง

มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐถึงทางตัน เนื่องจากข้อจำกัดด้านงบประมาณ ทำให้ไม่สามารถอัดฉีดเงินเพื่อพยุงเศรษฐกิจฐานรากได้เหมือนในอดีต

การเติบโตกระจุกตัว เฉพาะในภาคการท่องเที่ยวและโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นเท่านั้น ขณะที่ภาคเศรษฐกิจจริงกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย ที่มาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นมาตรการทางภาษีกับสหรัฐอเมริกา ที่ภาคการส่งออกไทย ต้องเผชิญกับมรสุม

สัดส่วนหนี้ครัวเรือนยังคงอยู่ในระดับสูงระดับ 90.7% ของ GDP ส่งผลต่อสินเชื่อรายย่อย เช่น ที่อยู่อาศัย และรถยนต์ ในระบบธนาคารเริ่มหดตัวลง (ติดลบ 1-2%) สถาบันการเงินเข้มงวดการปล่อยกู้ถึงขีดสุด ทำให้กำลังซื้อภายในประเทศอยู่ในภาวะถูกแช่แข็ง

นโยบายที่ไม่ต่อเนื่อง นักลงทุนต่างชาติจะเข้าสู่ภาวะรอการตัดสินใจ เพื่อรอดูโฉมหน้าคณะรัฐมนตรี และนโยบายใหม่ ทำให้การลงทุนภาคเอกชน ที่ควรจะเป็นเครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนต้องหยุดชะงัก

2569เป็นปีที่ยากลำบากอีกปีครับ

ไม่รู้ แต่ปีนี้สำหรับผมหนักจริง