ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ควรพยายามครับ เหมือนบอกว่ามะเร็งรักษาไม่ได้อยู่แล้วจะวิจัยไปทำไม พยายามรักษาไปทำไม สัจธรรมของโลก

ถ้ามนุษย์คิดแบบคุณตั้งแต่อดีตเราคงไม่เห็นอะไรในโลกนี้พัฒนามาจนถึงทุกวันนี้เลยเพราะ mindset ที่ว่า ปลาใหญ่กินปลาเล็ก

แล้วก็ "เข้มแข็งรอดอ่อนแอตาย ปลาใหญ่กินปลาเล็ก" คือวลีและอุดมการณ์ที่มนุษย์กลุ่มกนึ่งสร้างขึ้นมาเองนะครับ ไม่เกี่ยวอะไรกับธรรมชาติหรือสัจธรรม แปลว่าท่านก็ยังยึดติดอุดมการณ์นั่้นแหละ แค่เปลี่ยนอุดมการณ์ไป

ถ้าเอาธรรมชาติจริงคือ natural selection ครับไม่เกี่ยวกับอ่อนแอแข็งแรง แต่เกี่ยวกับ evolution การวิวัฒนาการ สิ่งมีชีวิตจะอยู่รอดได้ต้องปรับตัว เช่นเดียวกับที่สังคมต้องปรับตัวตลอดเวลาครับ

บางทีบางอย่างเราต้องมั่นคง ยกตัวอย่างความดีก็ได้ สมมติ คุณเกิดไม่อยากทำความดีเพราะ ก็ไม่เห็นใครทำกันเลย
ผมคิดว่า ถ้าไม่เริ่มจากเรา มันก็จะไม่มีวันเป็นจริง บางอย่างเราจำเป็นต้องเสียสละ แต่แบบนี้ไม่มีใครผิดใครถูกนะ

ผมไม่ได้หมายความว่าไม่ให้พัฒนา หรือใช้ชีวิตป่าเถื่อนแบบยุคหินครับ
ผมหมายถึงสัจธรรมนี้ ไม่ว่าโลกจะพัฒนาไปแค่ไหน มันก็หนีไม่พ้นอยู่ดี ปลาใหญ่ก็จะกินปลาเล็กเสมอตามกฏเกณท์ของยุคสมัยนั้น ๆ และคนก็ยังคงเห็นแก่ตัว มีรัก โลภ โกรธ หลง เสมอในทุกยุคและทุกชนชั้น
ยุคปัจจุบัน ความแข็งแกร่งอาจจะไม่ใช่พละกำลังแบบยุคหิน แต่มันก็ยังมีกฏเกณท์การแบ่ง power ของยุคนี้อยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอำนาจ เงินทอง คอนเนคชั่น หรือปัจจัยอื่น ๆ ซึ่งเราไม่มีทางจะทำให้มันเท่าเทียมกันได้แน่นอน
อย่างประเทศพัฒนาแล้วเช่นเกาหลี พวกลุกหลานแชโบลก็มักจะมี power ข่มเหงหรือเอาเปรียบใส่คนที่ฐานะทางสังคมด้อยกว่าตัวเองเสมอ
ซึ่งหากเรายอมรับสัจธรรมในข้อนี้ได้ พยายามสร้างตัวให้เป็นปลาใหญ่ในสังคมนั้น ๆ คุณก็จะสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ ไม่ว่าจะอยู่ประเทศไหน
มันเป็นกฏเกณท์ของธรรมชาติครับ ผู้แข็งแกร่งตามกฏของยุคสมัย จะได้ยืนอยู่บนยอดพีระมิด ลดหลั่นตามระดับลงไปเสมอ ไม่มีทางจะแก้มันได้ อย่างน้อยในช่วงอายุของพวกเราผมว่าไม่มีทาง