ถ้าเราพูดถึงเมือง ปารีส ภาพแรกที่แวบเข้ามาในหัว
ของพวกเราคงหนีไม่พ้น ความโรแมนติกและเมืองหลวงที่มั่งคั่งที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
.
แต่ถ้าในมุมของฟุตบอล ปารีส คือโรงงานผลิตนักเตะที่เก่งที่สุดในโลก เมืองนึงของโลก
.
เด็กจากย่านชานเมืองปารีสแจ้งเกิดในสโมสรใหญ่ทั่วยุโรปนับไม่ถ้วน
.
แต่ทำไมเมืองที่ดูพร้อมขนาดนี้ กลับยอมปล่อยให้ ความตื่นเต้น ของศึกสายเลือดของเมืองนี้หายไปนานขนาดนี้
.
ในขณะที่ลอนดอนมีทีมฟุตบอลเป็นสิบทีม
แย่งชิงความเป็นเจ้าเมืองกันอย่างดุเดือด
แต่ปารีสกลับเงียบสนิทมาตลอด
.
แต่แล้วในปี 2025 นี้เอง Paris FC สามารถเลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ลีกสูงสุดได้สำเร็จ
.
ปล้วผลการจับสลาก เฟรนช์คัพ ดันจับให้พวกเขาต้องมาเจอกับ
.
ยักษ์ใหญ่อย่าง PSG 2 นัดในเดือนหน้า ทั้งในลีกและบอลถ้วยในสนามที่ตั้งอยู่ คนละฝั่งถนน ห่างกันแค่ไม่กี่ก้าว
.
อะไรที่ทำให้เมืองที่ควรจะเดือดที่สุด กลับไร้คู่แข่งมานานขนาดนี้?
.
1. จุดเริ่มต้น
.
หลายคนอาจจะคิดว่าคนฝรั่งเศสไม่ชอบกีฬารึป่าว
แต่จริงๆ ไม่ใช่แบบนั้นครับ คือในยุคแรกเริ่ม
.
ฟุตบอลในฝรั่งเศสถูกมองว่าเป็น ของนอก
มันคือเกมของคนรวย ของพวกชนชั้นสูง
และคนอังกฤษที่เข้ามาทำงานในปารีส
.
ต่างจากในอังกฤษ ฟุตบอล เริ่มกลายเป็นจิตวิญญาณของชนชั้น แรงงาน ในเมืองอุตสาหกรรม
.
แล้วอีกอย่าฃคนฝรั่งเศสในยุคนั้นก็นิยม เทนนิส รักบี้
และการแข่งจักรยานโดยเฉพาะตูร์ เดอ ฟรองซ์ มากกว่า
.
ฟุตบอลในปารีสยุคแรกเลยไม่มีใครอยากลงเงินสร้าง ดาร์บี้แมตช์ขึ้นมา ให้มันยิ่งใหญ่เหมืือนเมืองอื่นๆ
.
2. รอยแผลจากสงคราม และคำสั่งจากนาซี
.
นี่คือช่วงเวลาที่ผมมองว่ามันคือประเด็นหลักที่สุดครับ
เพราะมันไม่ได้แค่ทำลายสโมสร แต่มันทำลาย
วัฒนธรรม ฟุตบอล ของทั้งเมือง
.
ย้อนกลับไปในปี 1940 เมื่อปารีสถูกยึดครองภายใต้รัฐบาลวิชี รัฐใช้อำนาจจัดการวงการกีฬาแบบเบ็ดเสร็จ
.
สโมสรอาชีพถูกสั่งยุบ และอริร่วมเมืองถูกบังคับให้รวมกันภายใต้นโยบาย
.
หนึ่งเมือง หนึ่งสโมสร
.
เพื่อให้รัฐควบคุมงบประมาณและฝูงชนได้ง่ายขึ้น
ฝรั่งเศสถูกบังคับให้ยอมรับความสงบที่ผิดธรรมชาติ และนับแต่นั้น
.
วัฒนธรรมดาร์บี้ของปารีสก็หายไปโดยไม่เคยกลับมา
เหมือนเดิมอีกเลย
.
3.งบประมาณหลังสงคราม
.
พอสงครามสิ้นสุดลง แทนที่ดาร์บี้จะได้ฟื้นคืนชีพ
สภาเมืองกลับมองว่าฟุตบอลคือ ภาระทางการเงิน
.
การมีทีมอาชีพมากกว่าหนึ่งทีมในเมืองเดียวถูกมองว่าเป็นความฟุ่มเฟือย
.
สุดท้าย พวกเขาเลือกทุ่มทุกอย่างให้กับทีมเดียวไปเลย
ผลลัพธ์คือการปั้น PSG ให้กลายเป็นโปรเจกต์ระดับชาติ
.
ในขณะที่สโมสรอื่นในปารีสค่อยๆ ถูกลดบทบาท
หล่นจากทีมอาชีพกลายเป็นแค่ทีมสมัครเล่นที่ไร้ตัวตน
.
4. ที่ตั้งของเมือง ปารีส
.
ปารีสเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่โตจนน่าตกใจเมื่อเทียบกับส่วนอื่นของประเทศ
.
เอาจริงๆ ถึงฝรั่งเศสจะใหญ่กว่าอังกฤษถึง 4 เท่า แต่ประชากรกลับเบาบางกว่ามาก
.
เมื่อคุณก้าวออกจากกำแพงเมืองปารีสไป
ภาพที่เห็นไม่ใช่เมืองใหญ่เรียงรายเหมือนลอนดอนหรือแมนเชสเตอร์
.
แต่คือเมืองขนาดกลาง เมืองเล็ก
ที่แทบไม่มีศักยภาพพอจะหล่อเลี้ยงสโมสรฟุตบอลระดับสูง
ให้เติบโตขึ้นมาเป็นคู่แข่งดาร์บี้ได้
.
ปารีสเลยเหมือน เกาะที่โดดเดี่ยว
เป็นเมืองหลวงที่ยิ่งใหญ่ แต่ไร้ศัตรูใกล้บ้าน
และความโดดเดี่ยวนั้นก็ยืดเยื้อมานาน เกือบ 35 ปี
ตั้งแต่วันที่ Racing Paris ร่วงลงไปในปี 1990
ปารีสก็ไม่เคยมีคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อในบ้านตัวเองอีกเลย
………………………………………………….
การกลับมาของ Paris FC ในปี 2025 นี้
.
เอาจริงๆคือปารีสเคยมีดาร์บี้อยู่บ้าง
แต่มันไม่ได้ยิ่งใหญ่พอที่จะน่าติดตามขนาดนั้น
.
แต่สิ่งที่ทำให้ครั้งนี้ต่างออกไปคือ เงิน ครับ
.
Paris FC ในวันนี้ไม่ได้มาในฐานะทีมรองทั่วไป
แต่มาพร้อมความยิ่งใหญ่จากการถูกซื้อโดย ตระกูล Arnault
.
เจ้าของอาณาจักร LVMH แบรนด์เนมที่รวยที่สุดในโลก
ที่ต้องการสร้างทีมนี้ขึ้นมาใหม่
(ไว้จะมาเขียนเรื่องนี้ให้อ่านอีกทีครับ)
.
เลยเป็นการเจอกันของสองมหาเศรษฐี
.
PSG มหาอำนาจทุนน้ำมันจากกาตาร์
.
Paris FC ตะกูลเจ้าพ่อแฟชั่นหรูที่รวยที่สุดในฝรั่งเศส ที่กำลังสร้างทีม
.
อีกไม่กี่วันข้างหน้า เราจะได้รู้กันครับว่าการ เดินข้ามถนนไปเตะบอล ครั้งนี้
.
จะเป็นจุดเริ่มต้นของยุคสมัยใหม่ที่ปารีสจะกลับมาร้อนแรง มีชีวิตชีวา เหมือนลอนดอนได้หรือไม่
#twentytwodiary #PSG #ปารีส #ParisFC

อารมณ์เหมือน True Rangsit United เอ้ย True Bangkok United ที่รอวันเจอกับ Bangkok FC ปะครับ