‘อนุดิษฐ์’ ชี้ การเมืองต้องพาประเทศไปข้างหน้า ไม่ใช่ลากประเทศกลับไปซ้ำรอยเดิม ซัด ‘พรรคดีแต่พูด’ ไม่มีสิทธิ์สอนคุณธรรม ทั้งเคยหนุนปฏิวัติ หนีความรับผิดชอบ ปล่อยเศรษฐกิจพัง แถมตระบัดสัตย์ทางการเมือง
วันที่ 24 ธ.ค.68 นอ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์ พรรคกล้าธรรม โพสต์
”การเมืองที่ดี ต้องพาประเทศไปข้างหน้า ไม่ใช่พากลับไปซ้ำรอยเดิม
ก่อนจะเชื่อคำพูดสวย ๆ บนเวทีดีเบต
ลองหยุดคิดสักนิดว่า
พรรค #ดีแต่พูด …
เคยทำอะไรไว้กับประเทศนี้บ้าง
•
พรรคที่เคยเรียกร้อง “การปฏิวัติ” แทนการแก้ปัญหาในระบบรัฐสภา
•
พรรคที่เคยเป็นรัฐบาลในช่วงเหตุการณ์รุนแรงกลางเมืองหลวง มีประชาชนเสียชีวิต แต่ไม่เคยแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองอย่างแท้จริง
•
พรรคที่ทำให้คำว่า ปฏิรูปที่ดิน กลายเป็นตราบาป เอาที่ดินหลวงไปอยู่ในมือคนรวย
•
พรรคที่บริหารเศรษฐกิจล้มเหลว จนต้องขายหนี้ ขายทรัพย์สินของคนไทยให้ต่างชาติในราคาถูก
•
พรรคที่ “ตระบัดสัตย์ทางการเมือง” พูดอย่างหนึ่ง แต่ทำอีกอย่าง เมื่อถึงเวลาจริง
•
พรรคที่มีคดีทุจริตซื้อเสียง สมาชิกบางคนติดคุก
•
พรรคที่ยุบสภา หนีการลงมติไม่ไว้วางใจ
คำถามคือ
พรรคแบบนี้ มีสิทธิ์สอนใครเรื่องคุณธรรมทางการเมืองจริงหรือ?
การเมืองควรสร้าง ความสามัคคี
ไม่ใช่ใช้ความแตกแยกเป็นเครื่องมือ
น่าแปลกที่ทุกครั้งที่พรรคการเมืองลักษณะนี้ได้เป็นรัฐบาล
ประเทศจะเจอ “วิกฤติ” และ “ความขัดแย้ง” เสมอ
และเมื่อไม่ได้เป็นรัฐบาล ก็เลือกใช้ “วิธีนอกระบบ”
ปลุกกระแส ปลุกอารมณ์ เป่านกหวีด ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
วันนี้ เราเห็นอดีตผู้นำพรรคคนเดิม
กลับมาออกหน้าดีเบต
เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น
ทั้งที่ประวัติของพรรคตัวเอง เต็มไปด้วยคำถามที่ยังไม่เคยมีคำตอบ
จึงอดสงสัยไม่ได้ว่า
นี่คือความเชื่อจริง ๆ
หรือเป็นเพียง “การตลาดทางการเมือง”
เพื่อวัดกระแส
เพื่อแย่งฐานผู้มีสิทธิเลือกตั้งจากพรรคสีอื่น
โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่?
ถ้านี่คือแผนที่วางไว้
บอกตรง ๆ ว่า น่าสมเพช
เพราะมันไม่ใช่การเมืองที่พาประเทศไปข้างหน้า
แต่คือการเอาอดีตที่ล้มเหลว
มารีแบรนด์ใหม่
แค่อยากแนะนำท่านว่า ประเทศไทยไม่ต้องการนักการเมืองที่ “ดีแต่พูด”
แต่ต้องการนักการเมืองที่ กล้ายอมรับอดีต และไม่ทำให้มันเกิดซ้ำขึ้นอีก
ไม่เชื่อกันก็ไม่เป็นไรครับ
(ขอบคุณกราฟฟิคจากโลกออนไลน์ครับ)“