หมอ ถ้าเทียบกับคนทำงานประจำอื่น ยังไงก็รายได้ดีกว่าครับ มั่นคง (ราชการ) และดู Tier สูงกว่าอาชีพอื่นๆด้วย ถ้าทำเอกชนก็ยิ่งรวย แม้จะมั่นคงน้อยกว่าราชการ เฉพาะทางยิ่งเดือนละ 2-3 แสน+ มีอาชีพไหนเทียบได้มั่ง แต่ข้อเสียคือจะเสียเวลาเยอะกว่าอาชีพอื่นเหมือนกัน ช่วงเรียนมหาลัย 6 ปี และช่วงเรียนต่อเฉพาะทางก็รายได้น้อยลงเยอะ เป็นแบบนี้ไปจนกว่าจะเรียนจบ ใช้เวลาอีก 3-5 ปี เป็นช่วงที่เสียโอกาสสร้างตัวไปพอสมควร แต่อย่าไปเทียบกับพวกทำธุรกิจส่วนตัว อันนั้นอีกเรื่อง

ม๋อ ความเครียด ความเงี่ยงสูง

ดีกว่าอาชีพอื่นเย๊อะะะะะะะะะะ

ก็ยังเป็นเทียร์ต้นๆของสังคมอยู่ดี ยิ่งพวกออกไปเปิดคลีนิคเองรายได้โคตรดีแถมไม่ต้องเป็นลูกจ้างใคร

ก็ยังเป็นอาชีพที่หาเงินได้เยอะมากๆอยู่ครับ

เรียกว่าพลิกชีวิตได้เลย โดยที่ต้องแลกกับความขยันและตั้งใจเรียน

คิดแบบเฉลี่ยก็ยังสูงกว่าอาชีพอื่นเยอะอยู่ดี เพื่อนแฟนไปสายสกินตั้งแต่จบ อยู่สถาบันเสริมความงาน กทม. 500k+ อีกพวกก็เป็นเจ้าของไปเลย แถมถ้าทำ marketing เก่งๆ กับเป็นอินฟลูด้วยก็ดัง+รวยไปเลย

เค้าจะมีสาขาทำเงินอยู่ บางคนยอมอยู่ รร.แพทย์ เพื่อเอา profile ไปรับเวรเอกชนดังๆ ใน กทม. อันนี้ก็โหดอยู่นะ ยิ่งสาขาที่มีหัตถการด้วย ในข่าว อจ.หมอ ธรรมศาสตร์ ตัวเลขในข่าวมันถึงอยู่ล่ะ

แต่ก็มีพวกสายชิล ไม่งกเวร จบ fellow มาเป็น staff สาขาไม่ได้ทำเงินมาก ต่ำๆ มี 100-150k อยู่แล้ว ฐานเงินเดือนไม่ได้เยอะ แต่ได้ค่าอย่างอื่นเยอะนะ แถมถ้าในจังหวัดมี รพ.เอกชนหลายที่ก็สบาย เงินได้ตามความขยันเลย ตอนจบใหม่ๆ ไปรับเวรนอนก็คืนละหมื่นกว่า แต่เยิน ไม่รู้ตอนนี้ได้เท่าไหร่แล้ว

ดี และ มั่นคง อย่างช่วงโควิดก็มีงานทำตลอด
แต่มีลูกไม่อยากให้เรียนเลย เหนื่อย
กำลังเริ่มปั้นธุรกิจให้ลูกแทน พอบริหารแล้วอาจจะเหนื่อยน้อยลง

ผมเปิดคลินิกความงามละจ้างหมอมาลง ผมว่าคลินิกไม่ได้หาหมอ ยากเลยครับ ในกลุ่มไลน์ หาง่ายจัด และ หมอฝีมือ ไม่ดีก็เยอะเอามากๆ สุดท้ายถ้าไม่ใช่ตัวเก๋าๆแก่ๆ ก็อยู่ไม่ได้นานหรอก ปัจจุบันยัง 700-800 /hr df10%
แต่ทรงล้นๆแย่งกันงี้อนาคตอาจจะ 500 df10 ก็ได้

ตามที่แกว่ามา ไม่ผิดเลย เค้าว่าการแพทย์ไทย จะตามอเมกาอยู่ 10 ปี ไม่ผิดหรอก เรื่องการฟ้องร้องนี่ตามกันมาเลย หนักขึ้นมาเรื่อยๆ เทียบกับค่าตอบแทนที่ไม่ขึ้นเลย ค่าเวรเท่ากับสมัยจบมาใหม่ๆ เลย
ถ้าราชการ หมอเป็นเทวดานี่ คงตกสวรรค์ไปนานแล้ว ลง social ด่าหมอด่า รพ กันทุกวัน เดี๋ยวนี้ ไปนอน รพ รัฐ ไม่เสียตังซักบาท บางทีตัวโรคมันหนัก คนไข้เสียหรือทุพลภาพตามมา ญาติได้เงินกลับบ้านด้วย ทนายยืนรอช่วยตั้งแต่หน้าวัด ค่าเวรแล้วแต่ รพ แต่ตาม รพช จำไม่ผิด 600-800/เวร8ชม ลงเวรมาทำงานปกติต่อ เคยอยู่เวรจนเบลอ อ่าน OPD card ด่าคนตรวจก่อนหน้าไว้ มึงเขียนมึงสั่งอะไรให้คนไข้วะ มาดูชื่อ อ้าว ชื่อตัวเอง ง่วงจัดจนลายมือเปลี่ยนเขียนอะไรไม่รู้เรื่องเลย
เอกชน ก็ Demand/supply ปัจจุบัน กทม นี่ชัดมาก ล้นแล้วน้องหมอผิวหนังตาม clinic จบมาใหม่ๆ 10ปีก่อน 200-300kปกติ ปัจจุบัน 100k-150k อีกสิบปีข้างหน้าจะเหลือเท่าไร เฉพาะทางที่สมัยก่อน บางสาขาคุยกันเดือนละ 1m+ ตอนนี้คนจบใหม่เหลือ หลัก 100k+ เอกชนดีหรือไม่ดีนี่ ไปดูราคาหุ้น รพ เลย ตามนั้น
อย่าลืมว่าฟ้องกันกระจาย ถ้าสงสัยทำไมค่ารักษา ตปท แพง มันก็เรื่องการฟ้องร้องนี่แหละส่วนนึง ถ้าเจอไปที จิตตกไปเป็นปี ฟ้องกันที เงินเก็บมาทั้งชีวิตไม่พอจ่ายก็มี
จบมาอีกปีละ 3000คน เติมเข้ามาในระบบ แต่ไม่แก้ปัญหาการกระจายตัว เหมือนถังรั่ว แต่ไม่อุด กูเติมน้ำแข่ง ถ้ามีลูก แน่นอนไปเรียนอย่างอื่นเถอะลูก เงินดี แต่ชีวิตพัง

หมอรุ่นใหม่บางส่วน จบมาก็ไม่ไปใช้ทุนตจว.กันแล้ว เอาเงินตัวเองจ่าย แล้วไปทำงานที่เมืองนอกกัน

ยังดีอยู่ แต่ไม่เท่าสมัย 30-40ปีที่แล้ว
แต่ก่อนหมอบางสาขาคือ โคตรรวย เช่นหมอสูติ หมอศัลย์ หูคอจมูก(ที่ทำเสริมความงามด้วย) ที่พอมีชื่อระดับจังหวัดบางคน มีรายได้ทะลุน่าจะหลักร้อยล้านได้
ปัจจุบันโอกาสที่รายได้จะไปถึงระดับนั้น แทบไม่มี ยกเว้นเป็นท็อปของประเทศจริงๆ

แต่ฟลอร์ของรายได้ยังถือว่าสูงกว่าอาชีพอื่นอยู่เป็นส่วนใหญ่ ถ้าหมอลำบากขึ้น อาชีพอื่นก็ลำบากขึ้นเหมือนกัน