หรือกลุ่มผู้มีอำนาจ อยากช่วยเพิ่มคะแนนให้อนุทิน กลบปัญหาการบริหารกากๆที่ผ่านมา

อนุทินก็ดูเขื่อง เออออตามเค้าไปหมด และให้สัมภาษ โพสเฟสท่าทีแข็งกร้าวเรื่องยิงกันอีก

ทำเป็นเล่นไป คะแนนมาอยู่นะ เริ่มมีกระแสจากพวกคลั่งอวยยศจะให้เป็นอีกสมัยแล้ว

ทหารเขารอเอาคืนพื้นที่ สนธิสัญญามานานแล้ว พวกนักการเมืองไปทำ mou กัน เขมรมันก็ขึ้นมาบนเขาสิ มาขอดูแลปราสาท ร่วม ของเราดูแล สันนน้ำอยู่ดีๆ ไปทำ mou ยืดเยื้อปล่อยมาร่วม 40 ปี


ได้ความชอบธรรมก็ จัดเต็มดิ

ต้องเรียบเคลีย์เพราะเดียวมีงานสำคัญจะจัดลำบาก ต้องพะวงชายแดน

ระนาบการเมืองตอนนี้ ย้ำ ณ ตอนนี้ ทหาร คือขั้วอำนาจที่ 4 ในเสาหลักอำนาจ บริหาร ตุลาการ นิติบัญญัติ ไปเรียบร้อยแล้ว เพราะฉนั้น ทหารไม่จำเป็นต้องฟังรัฐบาล ต้องบอกว่ารัฐบาลต้องกราบขอบคุณกองทัพด้วยซ้ำที่เปิดรอบนี้

คนแบบอนุทิน แค่ซีกรัฐบาลเองยังปกครองไม่ได้เลยครับ

1.ต่อเนื่องจากครั้งที่แล้ว ไม่จำ้ป็นต้องเริ่มจากปืนเล็กแล้ว
2.เอาให้ทันกรรมการเป่าหมดเวลา
3.ไฟเขียวจากมหามิจจี้ จีน แล้วคราวนี่
4.ดูจากอาวุธเหมนแล้วผมคิดว่าข่าวกรองกองทัพรู้ว่าเดี๋ยวไม่นานมันเอาแน่ ถ้ารอให้มันพร้อมเปิดก่อนเราเสียเปรียบจัดๆ

ปล.ส่วนตัวผมไม่คิดว่าเกี่ยวอะไรกับการเมืองระดับรากหญ้าที่ประชาชนกากๆอย่างเราเข้าใจหรอก

นี่ถึงขั้นกลัวคนไทยสมองฝ่อ แยกไม่ออกว่าประเด็นอะไรคืออะไรกันจน มองว่าการทำเรื่องนั้นเป็นกระแสแล้วมันกลบเรื่องนั้นเรื่องนี้ได้หรอครับ

การเมืองไทยมันไม่ก้าวหน้า เพราะมันมีการวางเกมรับลมคมในในหลายๆจุดช่องโหว่มากกว่าไปแล้ว การที่ส้มได้เสียงข้างมากสุดในรอบที่แล้วมันแสดงให้เห็นแล้วว่าคนไทยส่วนใหญ่ก็ไม่ได้โง่จนคิดว่าทำเรื่องนั้นจะกลบเรื่องนี้ได้หรอกครับ

อยากให้ชาติก้าวไปข้างหน้าได้ ก็ต้องดันให้อำนาจประชาชนมีมากกว่านี้ ลดอำนาจองค์กรบางองค์กรลงมา ให้ประชาชนตรวจสอบเองได้ทุกองค์กร ถ้าผิดประชาชนสามารถยื่นฟ้องหรือยื่นถอดถอนได้ นั่นแหละถึงจะทำให้ประเทศเจริญ เพราะประเทศที่เจริญแล้วส่วนใหญ่ประชาชนสามารถมีเสียงมีอำนาจกดดันการทำงาน หลักการเลือกตั้งได้ทั้งนั้น

เพราะ ประชาชนกดดัน และความเอกภาพของคนในชาติ ครั้บ

รอบที่แล้วความพร้อมน้อยเกินไป โดนเบรกหลายชั้น ไฟเขียวมายาก ทำให้ทำอะไรไม่ราบรื่น มีเวลามาบีบด้วย พอผลออกมาประชาชนตั้งคำถามประสิทธิภาพกองทัพ

มาวันนี้ภาพรวมประเทศไทยเป็นเอกภาพมากขึ้น

นายก ยื่น คำขาดว่าจะไม่เจรจา จนกว่ากัมพูชาจะทำตัวว่าไม่เป็นภัยคุกคาม
กระทรวงต่างประเทศ รมต ไปอธิบาย ส่งจดหมาย ออกสื่อ ว่าต้องใช้กำลังเพื่อขจัดการรุกราน และภัยคุกความต่ออธิปไตย ชีวิต และทรัพย์สินของคนไทย
กองทัพทำงานประสานร่วม บก เรือ อากาศ ร่วมกับตำรวจ ฝ่ายปกครอง กรมอน รอบนี้ดีขึ้นกว่าเดิมมาก การอพยพไม่มีประชาชนบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากการปะทะ
แม้แต่ฝ่ายการเมือง หรือฝ่ายค้าน ก็ออกมาว่าจำเป็นต้องใช้กำลังทางทหาร (ติดว่าได้สัดส่วน) และทำลายทุนเทาของกัมพูชาเพื่อไม่ให้มีเงินไปซื้ออาวุธ มาเป็นภัยต่อประเทศ

แทบทุกคนในประเทศนี้ มองว่ากัมพูชา คือ รัฐที่เป็นภัยต่อประเทศไทย ความชอบธรรมตรงนี้แหละที่กองทัพไทยวันนี้จัดหนักจัดเต็ม และหนักขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้มีการเอาวาวุธใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ ไม่มีคำว่าปราณีต่อมหารฝ่ายตรงข้ามแล้ว จะเห็นจากการ ยึด เผาทำลาย ฉีกอาร์มเสื้อจากศพ เหล่านี้บอกได้เลยว่ารอบนี้ทหารแนวหน้าอั้นจริงๆ แต่ก็ยังถือว่ากระทำในขอบข่ายอยู่ ใครจะมองว่าโหดเหี้ยม แต่สงคราม เราไม่ยิงเขา เขาก็ยิงเรา เลือกได้เราก็ไม่อยากให้ทหารเราตาย ประชาชนเราตาย หรือบ้านเรือนของคนไทยต้องพัง แต่เมื่อกัมพูชายังวางระเบิด ยังเสริมอาวุธ สร้างกระเช้าปีนขึ้นมาเพื่อสร้างฐานทหาร เป็นภัยคุกความ

ถ้าคิดแบบง่ายๆ ไม่ต้องซับซ้อน หน้าที่กองทัพ ปกป้องอธิปไตย และการที่ทหารทำแบบนี้ทำในหน้าที่ทหาร ไม่ใช่การเมือง คนจะเริ่มแยกออกว่ากองทัพมีหน้าที่อะไร รัฐบาลต้องไปทำอะไรให้เกิดประโยชน์จะผลทางทหาร สิ่งแรกตอนนี้ควรเป็นเอกภาพ แต่จัดการกองทัพกัมพูชา จัดการสื่อกัมพูชาที่ใส่ร้าย จัดการเงินเทาที่เอาไปหล่อเลี้ยงกองทัพกัมพูชา วันนี้กองทัพได้ทำหน้าที่กองทัพ อย่าพึ่งไปคิดว่ามีนัยการเมืองเลยตอนนี้

รบ.ไฟเขียว​ และทหารเตรียมง้างรอมาตั้งแต่รอบก่อน

การทูตเชิงรุกบุกเป็นบาซ่าเลย

วันนี้ต้องปิดเกมตาควายให้ได้ จะปูพรม จะระดมยิงด้วยปืนใหญ่ ต้องรีบหละ พ่อใหญ่ทรั้มป์ ให้เวลาสามสี่วันแล้ว

กองทัพมีค่านิยมเรื่องชาติและเขตแดนแรงกว่าคนนอก เพราะถือเป็นหน้าที่ เกียรติ และศักดิ์ศรี ยิ่งเจอท่าทีแข็งกร้าวกวนประสาทจากกัมพูชาช่วงหลัง ทำให้ความอัดอั้นสะสมมากขึ้น ขณะเดียวกันฝ่ายการเมืองและองค์กรระหว่างประเทศจำกัดการใช้กำลังของไทย ต้องรักษากติกาสากล และครั้งก่อนก็ถูกสั่งหยุดยิงตอนกำลังได้เปรียบ ส่งผลให้กัมพูชากลับไปรวบรวมกำลังแล้วมากวนใหม่

แนวหน้าหลายส่วนจึงค้างความรู้สึก อยากตอบโต้ให้จบๆ รอบนี้จึงเหมือนเปิดทางให้กองทัพได้ “ระบาย” เพราะไม่รู้ว่าจะถูกเบรกอีกเมื่อไหร่ แม้ผู้บังคับบัญชาจะพูดเชิงว่าต้องกดดันต่อไปจนเขาสิ้นสภาพก่อน แต่ความจริงแล้วนี่ไม่ใช่การรบแบบมุ่งชนะกันด้วยกำลังสองฝ่ายที่เท่าเทียมกัน มันคือการตบตัวเล็กยังไงไม่ให้เกินเลยไป

ฝ่ายกัมพูชาไม่ได้หวังชนะด้วยกำลังรบ แต่หวังให้ไทยเสียภาพลักษณ์ตั้งแต่วันแรกที่เปิดการปะทะ ซึ่งถือว่าฮุนเซนได้บรรลุเป้าขั้นต่ำแล้ว ในประเทศปัญหาความอดอยากได้ถูกบดบังด้วยความเกลียดชังต่อชาติไทย ส่วนที่ยืดเยื้อหลังจากนั้นไม่ว่าจะไปได้ไกลคือกำไรทางการเมืองของเขา.

ส่วนตัวไทยรบกับเขมรเราเปลืองตัว เปลืองเงิน เปลืองเวลา แต่ทำไงละมีคนปล่อยมันเลี้ยงมันจนมันไม่เกรงใจเรามานานกี่สิบปี ตอนนี้ต้องตบกลับให้ไปอยู่สถานะที่ถูกต้องก่อน

กองทัพเราหมันไส้เขมรมานานแล้วครับ ไม่ใช่แค่ช่วงหลังๆนี้นะแต่มันก็กวนตีนแบบนี้มานานแล้ว

อย่างไอ่พวกคาสิโนฐานสแกมเมอร์มีหรอทหารตรงนั้นจะมองไม่เห็น เขาเห็นแหละแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะไม่มีใบอนุญาต 555