รีวิว BMMF 15 ในมุมมองของผมครับ
จริงๆ นี่คือการไปดู Big Mountain ครั้งแรกของผม โดยซื้อบัตร VIP เดี๋ยวจะรีวิวบรรยากาศต่างๆ ในตอนท้าย
ภาคดูคอนเสิร์ต ( บางวงไม่ได้กดถ่ายรูปไว้ เน้นมันส์ไปกับโชว์เป็นหลักครับ )
วันที่ 1
Slot Machine
ผมเริ่มต้นด้วยดู Slot Machine เป็นวงแรกเลย จริงๆเคยดูวงนี้บ่อยเมื่อ 7-8 ปีก่อน พอมาดูครั้งนี้เล่นสดมีพัฒนาเยอะขึ้นจนกลายเป็นวงรุ่นใหญ่ไปเป็นที่เรียบร้อย เป็นโชว์ที่เอาคนดูอยู่หมัดแบบไม่ต้องสงสัย เพลงฮิตทั้งเก่าและใหม่มาเกือบครบ
Lomosonic
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ดูวงนี้ จากที่เคยรู้สึกเฉยๆมาตลอดปรากฏว่าพอได้ดูครั้งนี้ เฮ้ย พี่บอยแม่มโคตรสุด โคตรเดือด มีพลังงานเหลือล้น เรื่องเพลงไม่ต้องพูดถึงพี่แกร้องใส่เต็มที่ นอกจากนั้นมีวิ่งพล่านไปทั่งทั้งเวทีและล่างเวที ไหนจะปีนเสาและบอดี้เซิร์ฟใส่คนดูตามธรรมเนียม สรุปแล้วเป็นวงที่เล่นสดได้มันส์สมคำร่ำลือจริงๆ
Bank Preeti
เคยดูวง Clash เมื่อ 19 ปีที่แล้วตอนมาเล่นในวันรับน้องใหม่ที่มหาลัย มาครั้งนี้ได้ดูพี่แบงค์ในฐานะวงเดี่ยวบ้าง เหมือนได้ฟังรวมฮิตเพลงเก่าของ Clash ให้หายคิดถึง นักดนตรีที่เล่นแบฺ็คอัพให้แกก็ฝีมือจัดจ้านทุกคน จนมาถึงช่วงท้ายได้เปลี่ยนมาเป็นวง Black Piranha เล่นเพลงหน้าด้าน - ใส่ร้ายป้ายสี ได้แบบสะใจชาว Nu-Metal ก่อนจะปรับมาเป็นไลน์อัพเดิมอีกรอบส่งท้ายด้วยเพลงช้าๆ จบโชว์ได้แบบประทับใจลึกซึ้ง
ฺBig Ass
เริ่มโชว์ด้วยเพลง"เชิดสิงโต"อย่างดุเดือด ก่อนที่จะไล่เรียงเพลงฮิตมาเต็มข้อ สิ่งที่ชอบสุดๆของการดู Big Ass วันนี้คือการหวดกลองของพี่กบ ทั้งจังหวะและลีลาของแกบ่งบอกได้เลยว่านี่คือสุดยอดมือกลองคนหนึ่ง หันไปมองรอบข้างส่วนใหญ่มีแต่วัยรุ่น Gen Z แต่ร้องตามเพลงเก่าๆได้ทุกเพลงแบบไม่มีพัก สุดยอด
Paradox
ผมปิดท้ายโชว์ของวันแรกด้วยการดู Paradox จริงๆ อยากดูวงนี้เล่นเพลงปิศาจ นักมายากล บ่วงไฟ ทาส แล้วก็ถูกหยิบมาเล่นครบทุกเพลงพอดี โดยรวมแล้วเป็นวงที่รักษามาตรฐานเล่นสดได้ดีมาก สมาชิกบนเวทีเรียกเสียงฮือฮาได้ตลอด มีแจกของที่ระลึกอย่างไม่อั้นตามธรรมเนียมของวง กลายเป็นปิดท้ายวันแรกอย่างเต็มอิ่ม
วันที่ 2
Hard Boy
ส่วนตัวไม่ใช่ FC ขอวงวงนี้ แต่พอได้ดูพวกเขาเล่นสดเป็นครั้งแรกรู้สึกเอ็นจอยไปกับวงไปเลย ภีร์นักร้องนำของวงร้องสกได้โคตรดี ปีนคีย์สูงได้เยี่ยม แถมใช้พลังการว้ากแบบยุค 80 - 90 ได้โคตรเก่งมาก ถ้ามีโอกาสจะหาเวลาไปดูเล่นสดอีกแน่นอน
Bomb at Track
เป็นวงที่เล่นสดได้แบบจะระเบิดเวทีเสียให้ได้ ใช้คำว่าเดือดได้อย่างเต็มปากสำหรับพวกเขา มือกีต้าร์ประสานงานกันได้ลงตัว นี่คือวง Rap Rock - Nu Metal ที่ต้องดูสดสักครั้งเลยจริงๆ
The Darkest Romance
มาถึงวงที่ผมตั้งหน้ารอดูที่สุดในเทศกาลครั้งนี้ และก็ไม่ผิดหวังจริงๆ ถึงแม้ทางวงจะขนเพลงมาบรรเลงแค่ 5 เพลง แต่ก็อัดแน่นกระหึ่มไปทั่วลานคอนเสิร์ต ที่สำคัญนอกจากแม็กซ์ทำหน้าที่ทุบเบสและร้องนำแล้ว เขายังทำหน้าที่ครูสอนวิชาชีวิตได้เป็นอย่างดี ทุกๆคำพูดจากปากของเขาในงานครั้งนี้จะอยู่ในใจแฟนเพลงไปอีกนาน
Ink Warunthorn
พักเบรคจากความเดือดหันมาดูคุณอิงคืกันบ้าง บอกได้เลยว่าเห็นระยะ 50 เมตรยังรู้เลยว่าน่ารักสุดๆ ได้ฟังหลายเพลงฮิตแบบสดๆ รวมทั้งเพลง"เกี่ยวกันไหม"ก็คุ้มแล้วสำหรับค่ำคืนนี้
Mike Phiromphorn
ย้ายขั้วมาสิงเวทีหมอลำกันบ้าง โดยตั้งใจมาดูพี่ไมค์ ภิรมย์พร ด้วยความที่ได้ยินเสียงเพลงของแกมาตั้งแต่เด็กๆ ทุกงานเลี้ยงต่างๆ ต้องมีเพลงเป็นองคืประกอบ เลยกลายเป็นว่าโตมากับบทเพลงของพี่ไมค์ มาครั้งนี้ได้ฟังเพลงละครชีวิต และยาใจคนจน แบบสดๆ ก็ถือว่าอิ่มเอมใจไปในระดับนึง
Little John
กลับมาเวทีร็อคอีกรอบนึง คราวนี้มาพอดีกับวง Little John ที่ต่างขนเพลงฮิตมากระหน่ำใส่แฟนๆให้สาแก่ใจ ที่พิเศษในครั้งนี้ แฟ้ม มือกีตาร์ของวง cover เสื้อผ้าหน้าผมทาตัวสีดำเป็น Wes Borland แห่ง Limp Bizkit ได้อย่างฮือฮา
Sweet Mullet ( ไม่ได้ถ่ายรูป )
มาครั้งนี้ทางวงมาในยูนิฟอร์มของทีมหมอนทองวิทยา โดยพี่เต๋าแซวพี่แป็ปว่านี่ไม่ใช่แป็ป แต่เป็นน้องเต หมอนทอง เรียกเสียงฮาได้ฉาดใหญ่ ส่วนเรื่องโชว์ก็ตามมาตฐานของวง โดยช่วงที่กำลังเล่นเพลง"ลั่น"เหล่าแฟนๆ เล่นมอชพิตกันอย่างดุเดือด มีทั้งล้มกลิ้นคลุกฝุ่น แต่จบด้วยการจับมือกอดกัน ยกมือไหว้กันอย่างอบอุ่น
Retrospect
ปิดท้ายด้วย Retrospect ที่หยิบเอาเพลงเก่าและใหม่มาสับรัวๆ แบบไม่หยุดยั้ง แถมเก้าทำหน้าที่เป็นฟร้อนต์แมนได้ดี มีปฏิสัมพันธ์ที่ยอดเยี่ยมกับแฟนเพลง ยกให้เป็นโชว์ปิดท้ายอย่างสมบูรณ์
รีวิว บรรยากาศ
เรื่องร้านอาหารผมว่าหลากหลายดี และราคาพอรับได้ ส่วนเรื่องห้องน้ำมีติดทุกเวที สะดวกสบายกันไป (แต่ส้มเป็นระบบนั่งชักโครกแต่ไม่ใช่น้ำราด ถึงแม้จะดูสะอาดแต่ระบบกลิ่นไม่ไหว เข้าทีต้องกลั้นหายใจแทบอ้วก)
ส่วนอันที่ขอติงคือมีพวกคนบางกลุ่มยังฉวยโอกาสดุดบุหรี่ และกัญชาในพื้นที่ห้ามสูบ และบางคนเมาเรื้อนถึงกับสาดเบียร์ขึ้นฟ้าให้ไปโดนคนอื่น
จบการรีวิวครับ