การเป็นผู้บริหารสถานศึกษา คือความก้าวหน้าทางอาชีพอย่างนึงในอาชีพครูมั้ยครับ

ทำไมผมมองว่ามันแทบไม่ได้สร้างความแตกต่างขนาดนั้นเลย

โดยปกติการที่เราทำงานสักอย่างนึง เราคำนึงถึงความก้าวหน้า

เช่น บริษัทก็จะไต่เต้าขึ้นไปเป็นระดับผู้จัดการ หรืออาจไปถึง CEO

ในขณะที่กำลังขึ้นไปในแต่ละชั้น ก็จะมีค่าตอบแทบเพิ่มมากขึ้น

ซึ่งตรงนี้สวนทางกับการเป็นผู้บริหารสถานศึกษา ที่ไม่ได้มีค่าตำแหน่งมาเลย

แถมยังมีค่าภาษีสังคมที่คนมองว่าต้องสร้างภาพให้ดูดีอีกเยอะกว่าการเป็นครูด้วยซ้ำ

คราวนี้ คนที่จะเป็น ผอ ก็จะต้องหารายได้จากทางอื่น หาวิธีโกงกินจากแหล่งเงินในโรงเรียน

ผอ ที่เก่งจริงๆ แทบไม่มีเลย เข้ามาเป็น ผอ เพราะแค่ไม่อยากสอน หรือ แค่ต้องการมีหน้าตาทางสังคมเท่านั้น

ระบบแบบนี้มันไม่ได้ดึงดูดคนเก่ง มาบริหารองค์กรเลย ถ้าเปรียบบริษัทหากไม่มีคนเก่งมาบริหารก็เจ๊งไปเรื่อยๆ

ปล.ไม่ได้เหมารวมทั้ง หมดที่เผ็น ผอ แต่ส่วนใหญ่ที่พบเจอจะเป็นแบบนี้

ใครพอจะมีความคิดเห็นด้านบวก ของการเป็นผู้บริหารสถานศึกษา แชร์กันหน่อย

มันเข้าใจยากตรงไหน แค่จะโตสายบริหาร หรือสายปฏิบัติการ
มันเอามาอ้างเรื่องโกงไม่ได้หรอก

ส่วนเรื่องเทียบกับเอกชนนี่ท่านเข้าใจผิดเยอะเลย การจะไต่เต้าเป็นผู้จัดการ
นี่พอมีโอกาสเป็นไปได้ แต่คือคนส่วนน้อยนะ อาจจะน้อยกว่า 10 % ด้วยซ้ำ

ส่วน CEO ไม่ต้องหวังเลย มีถึง1 % หรือป่าวก็ไม่รู้ ที่ไต่เต้าไปอ่ะ

เพราะงั้นเอกชนมันก็แยกเป็น 2 ทางเหมือนกัน สายบริหาร กับ สายทักษะ

ผู้บริหารสถานศึกษาเก่งๆ ก็มีเยอะครับ เพียงแค่ท่านไม่ได้เจอ หรือไม่สัมผัส

การเป็นผู้บริหารสถานศึกษา ที่ไม่ได้มีค่าตำแหน่งมาเลย ตามที่ท่านว่าก็จริง

แต่มันสามารถเป็นทางผ่าน ที่สามารถขึ้นไปในระดับที่สูงขึ้นได้อีก (สอบรอง ผอ.เขต ได้ ขึ้นไป ผอ.เขต ได้)

ไปสุดทางท่านอาจจะขึ้นไปถึง เลขาฯ กพฐ เลยก็ได้

ก็อยู่ที่ตัวท่านว่ามีเป้าหมายอย่างไร อยากขึ้นไปเป็นระดับบริหารไหม

หรือเป็นครูไปจนเกษียณอายุราชการ ซึ่งเป็นครูก็ไม่ได้แย่เลยเงินเดือน + เงินประจำตำแหน่ง รวมแล้วได้เยอะกว่า ขรก. อื่น เหมือนกัน เก่งๆก็สามารถไปถึงเชียวชาญได้ด้วยตนเอง (ไม่ถูกจำกัดตำแหน่ง)

ก็คงจำเป็นแหละ เพราะต้องมีหัวหน้าคอยตัดสินใจ จะให้ครูเท่ากันมาตัดสินใจ คงไม่มีใครทำตาม
ส่วนค่าตอบแทนก็อยู่ที่ผลงาน

ไม่แน่ใจว่า จขกท หมายถึงสายไหน แต่ถ้าบริหารสถานศึกษาในสังกัดท้องถิ่นมันมีค่าตอบแทน และเงินเดือนขึ้นแบบก้าวกระโดดมาก
ถ้าคุณเป็นคนขยันสอบ ขยันทำประเมิน แปป ๆ ขึ้นผู้อำนวยการสถานศึกษาได้สบาย ๆ

สมมติจบตรีตอนอายุ 22 บรรจุราชการเลย แล้วเรียนโทไปด้วย ครบ 4 ปี อายุ 26 ได้ชำนาญการ
ชำนาญการครบ 1 ปี อายุ 27 ได้ชำนาญการพิเศษ ชำนาญการพิเศษครบ 3 ปี อายุ 30 ได้รองผอ

เป็นรองผอครบ 2 ปี อายุ 32 ได้เป็น ผอ แล้วแต่ละครั้งที่คุณเลื่อนตำแหน่ง ก็ไปได้รับเงินเดือนอีกระดับนึง เป็นขั้นบันไดไปเรื่อย ๆ
ปัจจุบันเลยเห็นรองผอ ผอ สถานศึกษาอายุน้อย ๆ ผมเคยเจออายุ 31 เป็นรองผอ สเตปตามที่ผมพิมพ์เป๊ะ ๆ

แล้วลองคิดดูว่าระดับตำแหน่งตัวเองตันที่ ผอ แล้ว เงินเดือนสูงแล้ว ยังเหลืออายุราชการอีก 20 ปี+ ไม่แปลกที่คนจะพยายามสอบกัน

รบสอบถามครับ จากที่อ่านการเลื่อนตำแหน่งดูจากอายุงานอย่างเดียวเลยหรอครับข้าราชการ ทำกี่ปีได้ขึ้นตำแหน่งนี้ทำไปอีกกี่ปีได้ตำแหน่งนี้ ไม่ต้องประเมินไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติมเลยหรอ แล้วถ้ามีอายุน้อยกว่าแต่เก่งกว่าสามารถข้ามหัวไปได้มั้ยครับ

ประเมินทุกครั้งที่เลื่อนครับ ผมแค่พิมพ์บอกถึงระยะเวลาที่จะสามารถสอบได้เฉย ๆ ครับ
สายปฎิบัติทำผลงาน ทำเล่มประเมิน ส่วนสายบริหารทำวิสัยทัศน์ แล้วก็ไปสอบแข่งครับ

ระยะเวลาเป็นเพียงคุณสมบัติหนึ่งเท่านั้นครับ ยังมีอีกหลายด้านที่จะต้องประเมินด้วย

เป็นผู้บริหารสถานศึกษาแล้วต่อยอดเป็นกรรมการสหกรณ์ครับ น่าจะได้ค่าปันผล ค่านายหน้ากระกันเยอะจากตรงนั้น