'ปธ.เป้' เหมา 4 ตุง!! ราชันเป่าปากเบียดโอลิมเปียกอส 4-3
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
เรอัล มาดริด โดน โอลิมเปียกอส ชิงเอาประตูนำไปก่อนแต่ก็เหมือนกระตุกหนวดเสือหลัง คิลิยัน เอ็มบาปเป้ เอาคืนกด 3 ประตูภายในเวลา 7 นาทีและถึงแม้ครึ่งหลังจะโดนไล่จี้มาแต่เป็น เอ็มบาปเป้ คนเดิมยิงอีกลูก ช่วงท้าย ราชันชุดขาว ต้องลุ้นหน่อยแต่ก็ผ่านมาได้เบียดคว้าชัย 4-3
โอลิมเปียกอส
Starting Formation: 4-2-3-1
5.
โลเรนโซ่ ปิโรล่า

62'
5.5
23.
โรดิเน

72'
5.5
14.
ดานี่ การ์เซีย

45'
5.5
22.
ชิกินโญ่

28'
6.5
56.
ดาเนียล โพเดนซ์

72'
6.0
ตัวสำรอง
4.
จูเลี่ยน เบียนโคเน่

62'
6.5
20.
คอสตินญ่า

72'
5.5
27.
กาเบรียล สเตรเฟซซ่า

72'
6.5
32.
ซานติอาโก้ เอซเซ่

45'
7.0
99.
เมห์ดี้ ตาเรมี่

28'
6.5
ฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีก รอบลีกเฟส
สนาม สตาดิโอ จอร์จิออส คารายสคาคิส
วันที่ 26 พฤศจิกายน 2568
กรรมการ ไมเคิ่ล โอลิเวอร์
โอลิมเปียกอส
3
4
เรอัล มาดริด
1-0 ชิกินโญ่ 8'
2-3 ตาเรมี่ 52'
3-4 เอล คาบี้ 81'
1-1 เอ็มบาปเป้ 22'
1-2 เอ็มบาปเป้ 24'
1-3 เอ็มบาปเป้ 29'
2-4 เอ็มบาปเป้ 60'
โอลิมเปียกอส ปรับเปลี่ยนเพียงแค่คู่กลางจากนัดก่อน โดยให้ การ์เซีย และ มูซาคิดิส ลงสนามร่วมกันแทนที่ นาสซิเมนโต้ และ เอซเซ่
ส่วนทาง มาดริด ต้องให้ ลูนิน เฝ้าเสาเพราะ คูร์กตัวส์ ลงไม่ได้และ เฮาจ์เซ่น หายไปจากแนวรับ แดนกลางก็ได้ ชูอาเมนี่ กลับมาและแนวรุก วินี่ กลับมาเป็นตัวจริง
ราชันทักทาย วินี่ เลี้ยงมายิงเองโดนปัดข้ามคาน
มาดริด เป็นฝ่ายได้ทักทายก่อนเมื่อ วินี่ ทางซ้ายเป็นคนติดเครื่องพาบอลขึ้นมาเองเลี้ยงจนถึงหน้าเขตโทษแล้วตัดสินใจสับไกแต่โดนปัดข้ามคานไปก่อน
เจ้าบ้านขอก่อน! ชิกินโญ่ ยิงหน้าเขตโทษโอลิมเปียกอสนำ
แต่แล้ว โอลิมเปียกอส ก็บุกมาหาโอกาสจบได้บ้างก่อนที่จะเป็นฝ่ายเอาประตูนำออกไปก่อนจากที่ โพเดนซ์ ตรงกลางเอาตัวรอดได้แล้วจ่ายให้ เอลคาบี้ หน้าเขตโทษเบิ้ลมาที่ ชิกินโญ่ ยิงไกลส่งบอลเสียบเสาแรก โอลิมเปียกอส นำเลย 1-0
โอลิมเปียกอสลองอีก! ชิกินโญ่ ยิงไม่จับยังโดนเซฟ
มาดริด พยายามบุกแต่ยังทำอะไรไม่ได้มากก่อนที่ โอลิมเปียกอส จะมีโอกาสให้ลุ้นเอาประตูเพิ่มหลัง มาดริด โดนเพรส ลูนิน เลยสาดบอลขึ้นหน้าแต่ถูก ปิโรล่า โหม่งกลับมาหน้าเขตโทษเข้าทาง ชิกินโญ่ ยิงไม่จับทันที ลูนิน ยังเซฟได้
ขอคืน! วินี่ จ่ายให้ บาปเป้ สอดไปยิงตีเสมอ
แต่พอ มาดริด ได้โอกาสหนนี้ก็ฝังประตูตีเสมอสำเร็จ เริ่มจาก คามาวิงก้า กลางสนามจ่ายให้ วินี่ ตรงริมเส้นเห็น เอ็มบาปเป้ ขยับก็เลยจ่ายขึ้นหน้าทันทีส่ง เอ็มบาปเป้ สอดกองหลังตามบอลไปหน้าเขตโทษแล้วยิงเข้าประตูไปได้ มาดริด ตามเจ๊า 1-1
แซงเลย! กูแลร์ เปิดถึง บาปเป้ โขกออกนำ
หลังจากนั้น ราชัน ลุยต่อและก็มีประตูเพิ่มทันทีเมื่อ เทรนท์ ทางขวาไหลให้ กูแลร์ วิ่งโฉบไปกรอบเขตโทษแล้วเปิดไปตรงกลางจบที่ เอ็มบาปเป้ ขึ้นโหม่งเข้าประตูไปอีกครั้ง มาดริด นำแล้ว 2-1
แฮตทริกอีก!! บาปเป้ หลุดเดี่ยวมายิงไม่พลาด
เท่านั้นไม่พอ มาดริด ลุยต่อแล้วก็บวุกประตูเพิ่มไปเลยเมื่อ คามาวิงก้า รับบอลที่วงกลมกลางสนามก่อนตักบอลข้ามแนวรับให้ เอ็มบาปเป้ หลุดเดี่ยวมาคนเดียวมีเวลาจับบอลลงก่อนจะเล็งแล้วยิงเข้าเสาไกลกลายเป็นแฮตทริก มาดริด นำ 3-1
แฮตทริกของ เอ็มบาปเป้ ยังเกิดขึ้นในเวลาห่างกันเพียง 6 นาที 42 วินาที ถือว่าไวสุดเป็นอันดับสองในแชมเปี้ยนส์ลีก โดยเจ้าของสถิติคือ ซาล่าห์ ทำไว้ 6 นาที 13 วินาที
เฮเก้อ! วินี่ ยิงเข้าแต่ย้อนจับล้ำหน้า บาปเป้
มาดริด มาแต่ละทีเปลี่ยนเป็นประตูได้หมดและจังหวะนี้ก็เพิ่มอีกลูก เริ่มด้วย กูแลร์ รับบอลกลางสนามแล้ววางยาวขึ้นหน้า เอ็มบาปเป้ เก็บบอลได้หน้าเขตโทษก่อนจ่ายให้ วินี่ ซ้ายมือเติมเข้าเขตโทษโยกหนีกองหลังแล้วยิงเข้าไปแต่สุดท้ายย้อนจับ เอ็มบาปเป้ ล้ำหน้า
เกือบมีอีก! ชูอาเมนี่ ส่องหน้าเขตโทษชนคาน
ตอนนี้ มาดริด เล่นเหมือนซ้อมแล้วได้ลุ้นหวิดเป็นประตูเพิ่มอีกเมื่อ วินี่ ทางซ้ายกระชากหนีตัวประกบเข้าเขตโทษมาดื้อๆหักมาตรงกลาง กูแลร์ ดันใจกว้างไม่ยิงส่งให้ เอ็มบาปเป้ ขวามือแต่ย้อนหลังเลยเสียโอกาสก่อนจ่ายย้อนมานอกกรอบจบด้วย ชูอาเมนี่ ยิงไกลชนคาน
โอลิมเปียกอสลุ้นประตูตีตื้น คาบี้ โหม่งไปโดนปัด
ก่อนหมดครึ่งแรก โอลิมเปียกอส ขอลุ้นเอาประตูตีตื้นมาสักลูกเมื่อ การ์เซีย วิ่งมาเปิดไม่จับเข้าไปในเขตโทษ เอล คาบี้ โหม่งได้แต่ก็ยังถูก ลูนิน เซฟเอาไว้
ราชันเกือบบวกเพิ่ม วินี่ ยิงหลุดไปหน่อย
กลับมาครึ่งหลัง มาดริด เกือบได้ประตูเพิ่มทันทีจากที่ เอ็มบาปเป้ จ่ายให้ วินี่ ตรงหน้าเขตโทษจับแล้วพลิกยิงเลยบอลกลิ้งหลุดเสาสองไปหน่อยเดียว
เหลือลูกเดียว! ตาเรมี่ โขกโอลิมเปียกอสไล่จี้
แต่พอ โอลิมเปียกอส หาโอกาสได้ใหม่ก็เอาประตูไล่จี้มา ด้วยบอลโยนออกมาทางขวาที่ เอซเซ่ เล่นกับ มาร์ตินส์ ก่อนจะเปิดเข้าไปจบด้วย ตาเรมี่ โขกเข้าประตูไล่เหลือ 3-2
ราชันหาเพิ่มสักลูกแต่ วินี่ ยิงไม่ผ่น
กลับมาเป็น มาดริด ต้องหาเพิ่มอีกสักลูกให้อุ่นใจและมีโอกาสด้วยจังหวะ ชูอาเมนี่ จ่ายให้ วินี่ ไปมุมแคบทางซ้ายพยายามยิงแล้วแต่โดนปิดมุมเซฟเอาไว้
ราชันโล่งได้! วินี่ หลุดไปหักเข้ากลาง บาปเป้ จิ้มอีกตุง
แล้วพอ มาดริด มาอีกทีก็เอาประตูเพิ่มให้โล่งใจกันไปด้วยบอลวางยาวไปทางซ้าย วินี่ เกี่ยวบอลลงได้ก่อนแตะหนีกองหลังเข้าเขตโทษมาสวยปาดไปตรงกลางมี เอ็มบาปเป้ วิ่งมาจิ้มเข้าไปอีกครั้งกลายเป็น 4-2
โอลิมเปียกอสลุยต่อ โพเดนซ์ ยิงไปโดนรับได้
โอลิมเปียกอส ยังไม่ยอมขอบุกต่อและมีโอกาสจบเพิ่มเมื่อ เอล คาบี้ โหม่งให้ โพเดนซ์ ทางขวาตัดเข้ามาในเขตโทษแล้วยิงเรียดใส่เสาแรกยังโดนรับเอาไว้
ราชันนำห่างแล้วไม่ได้เร่งรีบอะไร
เข้าช่วงท้ายเกม มาดริด นำห่างไปแล้วตอนนี้ก็เลยเล่นเอาแน่นอนไว้ก่อนไม่ได้สร้างโอกาสได้มากเหมือนก่อนหน้านี้ โอลิมเปียกอส ก็ยังพยายามอยู่แต่ไม่มีโอกาสเพิ่ม
ยังไม่ยอมง่ายๆ! เอล คาบี้ โหม่งไล่จี้มาอีกรอบ
ความพยายามของ โอลิมเปียกอส ทำให้พวกเขายังอยู่ในเกมและก็มีประตูไล่ตีตื้นมาอีกแล้ว เป็นการสวนกลับ เอล คาบี้ พาบอลขึ้นไปเองถึงเขตโทษต้องดึงรอเพื่อนก่อนจ่ายให้ สเตรเฟซซ่า รับช่วงต่อเปิดไปหน้าประตูจบที่ เอล คาบี้ โหม่งเข้าไปไล่เหลือ 4-3
โอลิมเปียกอสทำเสียว! เอล คาบี้ ยิงหลุดเสาไปหน่อย
โอลิมเปียกอส ทำให้ทีมเยือนได้เสียวๆเกือบจะได้ประตูตีเสมอในจังหวะที่มาทางขวา มาร์ตินส์ จ่ายให้ เอซเซ่ แล้วส่งต่อเข้ากลางเขตโทษ เอล คาบี้ ได้ยิงบอลติดปลิ้นหลุดเสาสองไปหน่อย
จบเกม มาดริด เบียดเอาชนะ โอลิมเปียกอส 4-3 ส่งผลให้พวกเขามีเพิ่มเป็น 12 แต้มขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับ 5 เหลืออีก 3 นัดให้ลุ้นเข้ารอบอัตโนมัติ
เรอัล มาดริด
Starting Formation: 4-2-3-1
17.
ราอูล อเซนซิโอ

73'
5.5
12.
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
6.0
6.
เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า

45'
7.0
7.
วินิซิอุส จูเนียร์

90'
8.5
15.
อาร์ด้า กูแลร์

61'
6.5
ตัวสำรอง
5.
จู๊ด เบลลิงแฮม

61'
5.5
19.
ดานี่ เซบาญอส

45'
5.5
20.
ฟราน การ์เซีย

90'
-
21.
อิบราอิม ดิอาซ

73'
5.5
404: Not Found
แก้ไขล่าสุดโดย redenzo เมื่อ Thu Nov 27, 2025 05:21, ทั้งหมด 6 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ