เจมี่ คาร์ราเกอร์ ตำหนิ รูเบน อโมริม กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่ายึดติดกับระบบ 3-4-3 มากเกินไปหลังไม่ยอมเปลี่ยนแผนแม้มีตัวผู้เล่นเยอะกว่าในเกมที่พ่ายต่อ เอฟเวอร์ตัน 10 คน

แมนฯ ยูไนเต็ด กุมความได้เปรียบเมื่อ เอฟเวอร์ตัน ต้องมาเหลือนักเตะเพียง 10 คนเพราะ อิดริสซ่า เกย์ มีปากเสียงกับ ไมเคิ่ล คีน เพื่อนร่วมทีมจนเกิดการตบหน้าและโดนใบแดงไล่ออก

กระนั้นแม้ตัวเยอะกว่าแต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ฉวยความได้เปรียบไม่ได้และถูก เอฟเวอร์ตัน ยิงประตูนำไปก่อนจาก เคียร์แนน ดิวสบิวรี่-ฮอลล์

ประตูดังกล่าวก็เพียงพอต่อการทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด พบกับความพ่ายแพ้และ คาร์ราเกอร์ ก็วิจารณ์ตามหลังมาว่าไม่เคยเห็นกุนซือที่ยึดติดกับระบบการเล่นมากขนาดนี้

"รู้สึกเหมือน รูเบน อโมริม เป็นกุนซือคนแรกที่ผมเห็นว่ายึดติดกับระบบการเล่นมากกว่าไอเดียว่าควรเล่นยังไง" คาร์ราเกอร์ กล่าวในรายการ Monday Night Football โดยมี โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ กุนซือทีมชาติ โปรตุเกส มาร่วมพูดคุย

"ผมยก โรแบร์โต้ เป็นตัวอย่างแล้วกันนะ ผมรู้เสมอว่าทีมของคุณจะเล่นยังไงเวลาได้ครองบอล นั่นเป็นไอเดียของคุณ ระบบการเล่นอาจเปลี่ยนไปแต่สำหรับ อโมริม น่ะระบบการเล่นคือลูกของเขาก็ไม่ปาน"

"และการที่ไม่ปรับแผนหรือเปลี่ยนแปลงแผนในสถานการณ์แบบนั้น ผมไม่เข้าใจว่ายึดติดกับบางสิ่งมากอะไรขนาดนั้น โดยที่มีนักเตะในแดนหน้าแค่คนเดียวและก็ไม่ได้ยืนค้ำหน้าอยู่เสมอ"

"คุณไม่ต้องการกองหลังสามคนหรอก บางทีคุณอาจส่งมิดฟิลด์ลงไปเพิ่ม เราเห็นผู้จัดการทีมทำแบบนั้น ถอดเซ็นเตอร์แบ็คออกแล้วเอามิดฟิลด์ลงไปเล่นแทน เพราะคุณจะเป็นฝ่ายที่ได้ครองบอลเยอะมาก"

อโมริม เคนยืนกรานไว้แล้วว่าตัวเขาจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลงระบบการเล่น 3-4-3 ที่ใช้มาโดยตลอด

บอลตามผู้เล่นมากกว่ามันยังเล่นหลังห้า กุละเชื่อเลย

ปัญหาไม่ใช่ระบบแต่เป็นมันนี่แหละ แค่ตำแหน่งก็รู้แล้วว่าแต่ละระบบ มันมีข้อเสียเปรี่ยบได้เปรียบแต่ละแดน แต่เมิงใช้ทุกสถานการณ์ ถ้าเมิงใช้แผนเดียวแล้วคิดว่าไม่ต้องปรับแสดงว่าเมิงไม่ได้พยายามเรียนรู้อะไรเลยยึดติดแต่เดิมๆ

เดี๋ยวก็ออกมาสวนอีก ว่าปัญหามันไม่ได้เป็นที่ระบบ มันอยู่ที่นักเตะไม่เข้าใจแผน ไอ้สลัด หลังสามตลอดไปล่ะทรงนี้

ไม่รู้มันจะยึดติดระบบ อะไรนักหนา แผนเดียวเกิน ทีมต้องการประตู ไม่พลิกแพลงอะไรเลย หลัง3 ไม่มีประโยชน์ในการทำเกมรุกเลย

ก็เห็นๆอยู่นะว่ากลางมันสู้ไม่ได้ ขนาดเค้าเหลือ 10 คน ยังมีพื้นที่ตรงกลางโครตเยอะ แทนที่จะ กล้าเพิ่ม แนวรุก กองกลาง ถอดกองหลังออกสักคนก็ได้ นี่ถ้าแมคไกว์ไม่เจ็บเปลี่ยนลงมาเอาไปยืนหน้าแน่

ยึดติดใช่เลย
แต่ที่ขาดหลักคือ ความกล้า

ทหารมีแม่ทัพที่อ่อนด้อยขนาดนี้ รบกี่ปีกี่ชาติ จัดทัพเหมือนเดิมตลอด
วันไหนแผนเข้าทางก็ชนะ ข้าศึกมายังไงไม่สน กูแผนเดียว รบทางนํ้ากูก็จะขี่ม้า เพราะกูจะขี่ม้า

โคตรโง่อะบอกตรงๆ

ยึดติดพอ ๆ กับไอ้โล้นแอนฟิลด์นั่นแหละ

ผมแฟนผีนะครับ ส่วนตัวมองว่าไอ้ริมนี่หัวรั้นกว่าไอ้โหน่งเยอะมากๆ คือไอ้โหน่งมันอยู่ในช่วงเมามัดแล้วยังหาทีมที่ลงตัวไม่เจอ แต่ถ้าแผนมันเริ่มลงตัวแล้ว น่าจะกลับมาได้ คือมันเคยมีช่วงที่ทำทีมได้ดีไง แต่ซื้อนักเตะมาเยอะจนระบบมั่ว

กลับกัน พูดตรงๆผมไม่เห็นอนาคตอะไรจากไอ้ริมเลย มันที่สุดของการยึดติดยึดมั่น ซึ่งถ้ามันดีอันนี้ก็จะชมแหละ แต่นี่คือมันมั่วไง แล้วทุกเกมมันต้องยึดมั่นกับแผนเดิมวิธีการเล่นเดิม แม้กระทั่งเปลี่ยนตัวแบบเดิมๆ เอาง่ายๆว่าทุกคนรู้ว่ามันจะเปลี่ยนตัวยังไง นาทีที่เท่าไหร่

เปลี่ยนคาเซสลับกับอูกาเต้
เปลี่ยนแม้กไกวร์กับโยโร่
เปลี่ยนดาโล่สลับกับดอกุ
เอาไมนูลงครึ่งหลัง

คือพูดง่ายๆว่าทุกอย่างเหมือนเดิมไม่ว่าทีมจะนำอยู่ ตามหลัง หรือแม้กระทั่งเกมล่าสุดที่ตัวผู้เล่นได้เปรียบ มันทำทุกอย่างเหมือนเดิม ผมไม่คิดว่าจะมีทีมฟุตบอลทีมไหนที่ประสบความสำเร็จได้โดยการมีโค้ชที่มี Fixed mindset แบบนี้

ดื้อชิบหา...ย

มันไม่ได้ยึดติดแผน แต่มันไม่มีปัญญาแก้เกมต่างหาก

สีซอให้ควายฟังหนะ คาร่า

หลัง 3 ตัวก็ไม่ได้เหนียวอะไรด้วยนะ เหลือ 10 คนก็ยังเล่นหลัง 3 กรูล่ะเชื่อ ตอนนี้กลับมากดดันอีกละ ไม่ชนะใครมา 3 นัด

มันแค่ชนะฟลุกๆ ติดกัน 3 นัด หลอกให้ดีใจเล่น ยังไงก็ยืนยันเหมือนเดิมว่าริมมันไม่รอดแน่ แต่ดูท่าผมจะทายผิดว่ามันจะไปก่อนสิ้นปี บอร์ดน่าจะให้โอกาสต่อ

ยึดติด+ใจแมร่งไม่ได้เลย สภาพ

55555