สาลิกาอย่างเอา! ยิงมายิงกลับ 'บาร์นส์เหมา' เช็คบิลเรือ 2-1
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
สาลิกา นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด หัวจิตหัวในสุดยอดเมื่อเปิดบ้านสู้กับทีมฟอร์มดีอย่าง เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้อย่างสูสีเกมสนุก โดยจุดเปลี่ยนสำคัญคือตอนที่พวกเขาโดนตีเสมอ 1-1 แต่ไม่เสียกระบวน สามารถทำประตูคืนได้ทันควันจนเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะได้ในท้่ายที่สุด 2-1 จากผลงานของ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ที่เหมาทำคนเดียว 2 ประตูเป็นของขวัญให้แฟนบอลเจ้าถิ่นได้กลับบ้านไปนอนหลับฝันดี
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
Starting Formation: 4-3-3
3.
ลูอิส ฮอลล์

77'
7
21.
วาเลนติโน่ ลิฟราเมนโต้
6.5
27.
นิค โวลเทอมาเดอ

85'
7
11.
ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์

85'
8
ตัวสำรอง
20.
แอนโธนี่ เอลังก้า

85'
6
28.
โจ วิลล็อค

85'
6
4.
สเวน บอตแมน

77'
6.5
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สนาม เซนต์ เจมส์ ปาร์ค
วันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2568
กรรมการ ซามูเอล บาร์รอตต์
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
2
1
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
1-0 บาร์นส์ 64'
2-1 บาร์นส์ 70'
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กำลังเข้าฟอร์ม พวกเขาต้องการ 3 คะแนนเพื่อขยับขึ้นไปกดดัน จ่าฝูง อาร์เซนอล แต่เกมนี้ไม่ง่ายเมื่อพวกเขาต้องมาเยือน นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ที่มี นิค โวลเทอมาเดอ เป็นตัวทีเด็ดในเกมรุก
โดย เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เลือกจัดตัวจริงชุดเดิมจากเกมถล่มลิเวอร์พูล ขณะที่ฝั่งสาลิกา เปลี่ยน 3 ตัวจากเกมแพ้เบรนท์ฟอร์ด เมื่อทีมจะไม่มี แดน เบิร์น ที่ติดโทษแบน
ดอนน่าพลาด ยังดีๆไม้โดนลงโทษ
เริ่มเกมแค่ 28 วินาที ดอนนารุมม่า ทำหวาดเสียวแล้ว จังหวะจ่ายบอลในเพื่อนพลาด ถูกแย่งได้หน้าเขตโทษ โชคยังดีที่ บาร์นส์ จบสกอร์ไม่คมพอ ดอนนารุมม่า ล้มรับบอลติดมือหนึบ
ฮาลันด์หลุดแต่ชิปบอลโดนไม่ดี
แมนฯซิตี้ ก็มีโอกาสจาก โดกู แทงบอลให้ ฮาลันด์ หลุดตามช่อง เจ้าตัวพยายามชิปบอลสวนโป๊ปที่ออกมาตัดบอลนอกเขตโทษ แต่โดนไม่เต็ม บอลขาดทั้งน้ำหนักและทิศทาง เจ้าตัวเสียดายโอกาสน่าจะทำได้ดีกว่านี้
น้องนิคได้ขวิดเน้นๆ แต่ดอนน่าดีกว่า
นิวคาสเซิล กับทีเด็ด โวลเทอมาเดอ ทำงานเมื่อได้โขกคนเดียวโล่งๆ ไม่กี่หลา แต่ดอนนารุมม่าก็สุดจริง ทิ้งตัวตามไปปัดบอลทิ้งบนเส้น เป็นซูเปอร์เซฟสำหรับมือกาวทีมชาติอิตาลี
โฟเด้นซัดหลุดกรอบ ลุ้นจุดโทษก็ไม้ได้
โอกาสของ โฟเด้น เมื่อหลุดโล่งได้บอลทางขวาในกรอบ เจ้าตัวจิ้มยิงหลุดกรอบก่อนโดนแชร์เปิดปุ่มใส่ ผู้ตัดสินได้รับการยืนยันจากทีม VAR ว่าไม่ฟาวล์ ให้เกมดำเนินต่อ
น้องนิคได้ยิงจ่อๆ โดนดอนน่าเซฟได้อีก
โอกาสทองอีกครั้งของนิวคาสเซิล จาก โวลเทอมาเดอ รับบอลแทงตามช่องได้ยิงจ่อๆ หน้าประตูไปติดเซฟดอนนารุมม่าตามเคย
บาร์นส์จบสกอร์จ่อๆ พลาดเหลือเชื่อ
นิวคาสเซิลไม่ได้ประตูอย่างเหลือเชื่อเมื่อ เมอร์ฟี่ย์ บรรจงจ่ายถวายพานให้ บาร์นส์ แทบอินจ่อๆ หลุดกรอบออกหลังอย่างไม่น่าเชื่อ
โป๊ปซูเปอร์เซฟลูกยิงฮาลันด์
แมนฯซิตี้ ก็น่าได้จาก ลูกคัทแบ็กของโอไรลลี่ย์ ให้ ฮาลันด์ ยิงเน้นๆ ไปติดโป๊ปซะก่อน
โฟเด้นได้ล่อเป้าแปจ่อๆหลุดกรอบเหมือนกัน
แมนฯซิตี้ ก็พลาดได้ประตูเหลือเชื่อเช่นกัน เมื่อ โฟเด้น แปลูกเปิดแชร์กี โล่งๆ หลุดกรอบออกหลัง น่าจะทำได้ดีกว่านี้
ครึ่งหลังลุยต่อ เกมยังคู่คี่เหมือนเดิม
กลับมาเล่นครึ่งหลัง เกมก็ยังคู่คี่ ทั้งสองทีมพยายามครีเอตโอกาสจบสกอร์กันอย่างต่อเนื่อง
น้องนิคยิงยังไงก็เอาชนะดอนน่าไม่ได้
โอกาสทองอีกครั้งของนิวคาสเซิล จากลุกเปิดเรียดทางขวาให้ โวลเทอมาเดอ ยิงตามน้ำไปให้ ดอนนารุมม่า โชว์ซูเปอร์เซฟอีกครั้ง
บาร์นส์ปลดล็อคเกมนี้ นิวยิงนำ 1-0
ในที่สุดประแรกของเกมนี้ก็มา เป็นของฝั่งนิวคาสเซิล จากจังหวะที่กิมาไรส์ จ่ายบอลให้ บาร์นส์ ซัดเล่นทางหน้าเขตโทษเสียบเสาเข้า ชนิดดอนนารุมม่า พุ่งสุดเหยียดก็ยังตามไปเซฟไม่ทัน
ดีใจแปปเดียว เรือตามตีเสมอ 1-1
ดีใจได้แปปเดียวนิวคาสเซิลโดนตีเสมอ 1-1 จากเกมรุกแมนฯซิตี้ที่กดดันนิวคาสเซิลอย่างหนัก ขลุกขลิกจวนเจียนจะได้อยุ่หลายดาบ ก่อนไปจบที่ ดิอาส วอลเล่ย์ยัดแหวกบล็อคแชร์เข้าประตูไป
นิวอย่างเอา บาร์นส์ซัดคืนหนี 2-1
นิวคาสเซิลอย่างเอา โดนปุ๊ปบุกขยี้คืน โวลเทอมาเดอ โหม่งตั้งให้ กิมาไรส์ พุ่งโหม่งชนคาน
บอลไม่ตาย กระดอนออกมาไปจบที่ บาร์นส์ ได้ซ้ำจ่อๆ เข้าประตูไป
ผู้ตัดสินหยุดเกมรอ เช็ค VAR อยู่พักใหญ่ ก้อนยืนยันให้เป็นประตู กิมาไรส์ ไม่ล้ำหน้า
เรือแก้เกมเปลี่ยน 3 ตัวรุก
แมนฯซิตี้แก้เกมเปลี่ยนตัวรุก 3 รายรวด เอา ซาวินโญ่, บอบบ์ และไรจ์นเดอร์ส เล่นแทน แชร์กี, โดกู และแบร์นาร์โด้
เรือบุกจริงแต่ได้่ลุ้นน้อย
เข้าช่วงท้ายเกม แมนฯซิตี้พยายามอย่างหนักที่จะตามตีเสมอ แต่โอกาสลุ้นยังแทบไม่มีให้เห็น
เกมนี้ทดเจ็บนานถึง 8 นาที แต่เกมรับนิวคาสเซิลอยู่อยู่ ยื้อสกอร์ได้เปรียบจนเข้าป้ายคว้าชัยชนะได้สำเร็จ 2-1
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-3-3
47.
ฟิล โฟเด้น

87'
5.5
20.
แบร์นาร์โด้ ซิลวา

77'
6
11.
เจเรมี่ โดกู

76'
6.5
10.
รายาน แชร์กี

77'
6.5
ตัวสำรอง
4.
ทิยานี่ ไรจ์นเดอร์ส

77'
6
7.
โอมาร์ มาร์มุช

87'
6
52.
ออสการ์ บอบบ์

77'
6
26.
ซาวินโญ่

76'
6
404: Not Found
แก้ไขล่าสุดโดย iPanic เมื่อ Sun Nov 23, 2025 03:03, ทั้งหมด 14 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ