มี Six pack ≠ สุขภาพดี และ ทำไมออกกำลังกายแล้วถึงไม่ค่อยมีผลกับค่าเลือด

ออนไลน์

Q-plint

หัวหน้าแมวมอง

Status: 2 สุดยอดมิดฟิลด์แห่งยุค

: 0 ใบ

เข้าร่วม: 20 Oct 2008

ตอบ: 19342

ที่อยู่:

โพสเมื่อ: Fri Nov 21, 2025 11:46

มี Six pack ≠ สุขภาพดี และ ทำไมออกกำลังกายแล้วถึงไม่ค่อยมีผลกับค่าเลือด

มี Six pack ≠ สุขภาพดี

ขั้วตรงข้ามกับคอนเทนต์ก่อน ที่หลายคนทักท้วง ว่ากล้ามก็ไม่ได้แปลว่าสุขภาพดี เรื่องนี้เคยเขียนไว้นานมาแล้ว

★ เกริ่นไว้ก่อนเลยว่า มีกล้ามและซิกแพค ไม่ได้แปลว่าสุขภาพดี แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว สุขภาพดีกว่าคนมีไขมันส่วนเกินแน่นอน

★

Six pack บอกได้แค่ว่าเรามีองค์ประกอบร่างกาย (Body composition) ที่ดี ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นหนึ่งใน Health-related fitness components คนที่มี Body composition ดีกว่า มีแนวโน้มว่าจะมีสุขภาพดีกว่า แต่ไม่ได้หมายความว่าคนคนนั้นจะมีสุขภาพดี

เพราะสุขภาพไม่ได้มีแค่เรื่อง Body composition แต่ยังมีปัจจัยด้านอื่น ๆ ที่อยากพูดถึงในโพสต์นี้คือเรื่อง cardiovascular health หรือสุขภาพหลอดเลือดหัวใจ เน้นประเด็นเรื่องของคอเลสเตอรอลในเลือด

★ ตัวชี้วัดสากลที่เราใช้กันในการประเมินความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจก็คงหนีไม่พ้นตัวหลักอย่าง LDL cholesterol (ไขมันเลว, คอเลสเตอรอลไม่ดี หรือแล้วแต่จะเรียกกัน) ที่มีงานวิจัยรองรับมากมาย (เดี๋ยวนี้ไปถึง apolipoprotein B, LDL subtype ✅ แต่สำหรับคนทั่วไปสนใจ LDL ก็พอ)

★

จะเข้าเรื่องนี้ เราต้องเข้าใจว่า
1. Fat ≠ Cholesterol
2. ไขมัน ≠ ไขมันในเลือด
3. %Body fat อาจไม่ได้สัมพันธ์กับการเกิดโรคหลอดเลือด
4. เข้าใจ Subcutaneous fat & visceral fat (ที่สัมพันธ์กับโรค)
.
.

1. ไขมัน ไม่ใช่คอเลสเตอรอล
ทั้งคู่เป็นสารประกอบที่เราเรียก "ลิพิด (Lipid)"

คอเลสเตอรอลเป็นสารหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์ ฮอร์โมน รวมทั้งที่วิ่งในเลือดอย่าง HDL และ LDL

ส่วนไขมัน ถ้าที่กินจากภายนอก เรามักจะหมายถึงไขมันอิ่มตัว ไขมันไม่อิ่มตัว ส่วนถ้าในร่างกายก็มักจะหมายถึงกรดไขมัน (Fatty acid) และไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) ไอพวกที่อยู่ในเซลล์ไขมันก็จะเป็นพวก Triglyceride เป็นหลักนี่ล่ะ (ไม่ใช่ Cholesterol)

2. ไขมัน ≠ ไขมันในเลือด

ปัญหาน่าจะมาจากภาษาไทยมากกว่า คือเวลาเราพูดถึงไขมันของร่างกาย เราจะหมายถึงพวก Subcutaneous fat (หรือ %body fat) ซึ่งมันคือไขมันที่อยู่ในเซลล์ไขมันใต้ผิวหนัง

แต่เวลาพูดถึงไขมันในเลือด เรามักจะหมายถึงคอเลสเตอรอล (ซึ่งมันไม่ใช่ไขมันในเลือด เพราะคอเลสเตอรอลไม่ใช่ไขมัน)

3. %Body fat ไม่ได้สัมพันธ์กับการเกิดโรคหลอดเลือด

คือคนที่มีพวก %fat น้อย ก็มีแนวโน้มจะน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ หุ่นดี มีความเสี่ยงโรคหลอดเลือดต่ำ แต่ก็ไม่ได้เสมอไป คนที่ผอม ไขมันน้อย สามารถมีคอเลสเตอรอลในเลือดสูง (ซึ่งเราเห็นอยู่บ่อย ๆ) และมีความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสูงได้

4. ตัวที่สัมพันธ์กับการเกิดโรคจริง ๆ มักจะเป็น Visceral fat มากกว่า (ไขมันในช่องท้อง) คนที่มีไขมันพวกนี้เยอะก็คือพวกอ้วนลงพุง (ทรง apple)

คนอ้วนที่มี Subcutaneous fat หรือ %body fat มากหรือ มีแนวโน้มจะ Visceral fat เยอะ

แต่คนที่น้ำหนักตัวปกติก็มี Visceral fat เยอะได้

★ มี Six pack ≠ สุขภาพดี

เอาแค่เรื่องไขมันนี่ล่ะ เราอาจจะมี six pack พร้อม LDL ทะลุปรอท

เพราะไขมันตามผิวหนัง มันไม่ใช่คอเลสเตอรอลในเลือด และอาจจะไม่สัมพันธ์กันเสมอไป

ไขมันใต้ผิวหนังส่วนใหญ่อยู่ที่ ปริมาณ (Quantity) ของอาหารที่เรากิน คือถ้ากินเยอะ พลังงานเยอะ (Excess calories) ก็จะอ้วน และมี %ไขมันเพิ่ม

แต่คอเลสเตอรอลในเลือด ส่วนใหญ่ขึ้นกับ คุณภาพ (Quality) ของอาหารที่เรากิน เช่น เรากินแต่อาหารไขมันอิ่มตัวสูง (แม้กิน under calories) เราก็จะผอม ลดไขมันใต้ผิวหนัง ลด%Body fat ได้ แต่เราอาจจะมีคอเลสเตอรอลในเลือดสูงมาก

⭐️ แม้ซิกแพค จะไม่ได้การันตีสุขภาพดี แต่คนที่รักษาหุ่นลีนจนมีซิกแพค โดยส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะมีสุขภาพดีกว่า ด้วยพฤติกรรมการใช้ชีวิต การคุมแคลอรี่ การออกกำลังกาย และเขาเหล่านี้ไม่มีปัญหาทางการแพทย์ที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่ง คือ “โรคอ้วน” ที่เป็นต้นตอของโรคเรื้อรังมากมาย

Doctor Move

ถ้าค่าเลือดดี body fat ดี very good

หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

PDT_CFC , Misaki_h24 , สมครวญ , a - hmmz , เนโต้คือความหวัง

โหวตเป็นกระทู้แนะนำ

My Locker

★รีวิวเที่ยวจีนแบบจัดเต็ม★ เมืองเฉิงตู และ ที่เที่ยวธรรมชาติแบบอลังๆ (ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี)

✴️✴️ รีวิวเดินเขาที่ประเทศจีน "หุบเขาเสือกระโจน" 2 วัน 1 คืน ✴️✴️

✴️✴️ เมื่อผมไปตะลุย Road Trip ที่ประเทศจีน มณฑลเสฉวน Ep.1 ✴️✴️

Road trip เที่ยวจีนต้นหน้าร้อนกับเมืองที่คนไทยยังไม่ค่อยรู้จัก 8 วัน (หลานโจว-ชิงไฮ่-กานหนาน-อาป้า) Part 1

ไขมันเลว LDL จาก 198 เหลือ 122 ใน 6 สัปดาห์แบบไม่กินยา