คือต้องการอะไร จะคาดหวังให้เด็กอายุแค่นั้นมันมีส่วนร่วมกับงานวิจัยทางการแพทย์แค่ไหนกัน

เหมือนแค่วัดว่า พ่อแม่เด็กคนไหนเงินหนา คอนเนคชั่นเยอะกว่ากัน แค่นั้น

เคสหนักหน่อยก็ เด็กเอาตัวไปแลกเพื่อให้มีชื่อในงานวิจัย เป็นข่าวฉาวมาแล้วไม่กี่ปีก่อน ไม่ถอดบทเรียนกันรึไง

พอดีไปเห็นตรรกะในวงการนี้บางท่านที่มีส่วนในการคัดเลือกเด็ก บอกตรง ๆ ว่าหงุดหงิด

มีเพื่อนเป็น อาจารย์ ม ชื่อดังแถวศาลายา



มีผู้ปกครอง นักเรียนโรงเรียนนานาชาติ ค่าเทอมหลักล้าน มาออกทุนวิจัยให้ แต่ต้องให้ลูกเขาร่วมทำวิจัยด้วย

ขอต้นทางข่าวและเงื่อนไขพอร์ตหน่อยได้มั้ยฮะ

แรกๆมันดูดีนะ เลือกเด็กที่ทำกิจกรรมด้วยไม่ได้เรียนอย่างเดียว
หลังๆหลุดไปไกลมาก เห็นคนประเมินคนนึงโพสเฟซบอกว่าเลือกรอบพอร์ตยังไงบ้าง อ่านแล้วแบบอะไรเนี่ย

ผม อยากถาม อจ.มหาลัย ในss มากเลยว่า
มหาวิทยาลัย เค้ามี ทำศึกษาไหม ว่า รอบพอร์ท ที่บอกว่า
เป้าหมายคือ ไม่ให้เด็กบ้าติว ให้เด็กทำกิจกรรม มีโอกาสเข้าเรียนด้วยเนี่ย (อันนี้ผมเข้าใจวัตถุประสงค์ถูกใช่มะ? หรือ วัตถุประสงค์อย่างอื่นมากกว่า)

ถึงเวลาจริง มันได้เด็กตามเป้าไหม มันเวิคไหม?
หรือ สอบวัดคะแนนเอา แฟร์มากกว่า

ตามตรรกะก็ไม่มีอะไรเข้าใจยากมั๊ย ขอดูพอร์ตวิจัย ก็คือเค้าอยากให้เด็กได้เริ่มเรียนรู้กระบวนการวิจัยตั้งแต่ก่อนมาเรียนไง
ส่วนผลที่ได้เป็นไง ไม่รู้แล้ว ถ้ามันไม่เวิร์คเดี๋ยวมันก็หายไปเอง

จริงอยู่ที่มันมีเด็กประเภทที่คุณว่าแต่รอบพอร์ทมันก็ไม่ได้แย่ทั้งหมด เด็กเกรดระดับโอลิมปิกหรือตัวท็อปพวกเด็กที่โคตรเก่งแบบหัวๆมันใช้sat+ieltsยื่นตั้งแต่รอบพอร์ทเหมือนกันครับ เพื่อนผมระดับหัวกระทิทุกคนส่วนใหญ่เข้าตั้งแต่รอบพอร์ทหมดยกเว้นคนนึงที่มันอัจฉริยะจนคุยปกติไม่รู้เรื่องเลยสัมไม่ผ่าน แต่สุดท้ายมันก็ติดหมอฬรอบปกติอยู่ดี

ถ้าคิดให้ลึกเจ้าไปอีกขั้น มันอาจจะเป็นการกดดันเด็กทางอ้อม ให้รีบทำผลงานตั้งเเต่เด็ก ชีวิต ความสนุกวัยเด็กอาจหายเพราะต้องเรียนหนัก ติวหนัก เพื่อบิ้วผลงานตัวเองให้เยอะๆ
เด็กเเม่งก็เครียด อยากเรียนคณะที่อยากเรียน พ่อเเม่ก็เครียด อยากให้ลูกเข้าเรียนคณะที่พ่อเเม่หวัง หรือไม่ก็เครียดเพราะอยากเห็นลูกเรียนในสิ่งที่ลูกเองอยากเรียน พ่อเเม่ก็บิ้วอัพลูกเต็มที่

ประมาณนี้

แพทย์ ศิริราช ให้โควต้า TCAS เหรียญเงิน สอวน หรือ พวกเข้าค่ายใหญ่ สสวท


พวกที่หลุดมาระดับนี้ คือ TOP5 ของโรงเรียนใหญ่ๆ โรงเรียนประจำจังหวัดแล้ว

การันตีว่าเรียนเก่งแน่นอน

รอบ TCAS หมอแทบทุกที่ ถ้าได้เหรียญเงินขึ้นไป จาก สอวน หรือ เข้าค่ายใหญ่ ที่ สสวท แทบจะนอนมาแล้ว

แค่งานวิจัย ผมว่างานวิจัยทางวิทย์ก้พอได้นะ ไม่ก้งานวิจัยไปในเชิงการแพทย์เต็มที่คงเป็นลักษณะมีอจ.แพทย์เป็นที่ปรึกษา ซึ่งอาจจะคาบเกี่ยวกับคอนเนคชั่นของรร.นั้นเลย

เดี๋ยวนี้ ในรรก้มีวิชาเลือกหรือหลักสูตรไปตามความถนัดเด็กแล้ว ไม่ยากที่จะมีคอนเนคชั่นกับอจ.แพทย์ได้

แต่ถ้ามาแบบงานวิจัยแพทย์แล้วเป็นชื่อสาม ชื่อสี่ต่อหลัง อันนี้ต้องคิดแล้วว่ามันแปลกๆ มีอะไรแอบแฝงมั้ยนะ

กสพท Entrance แฟร์สุดละ

ถ้ามองแง่ร้ายหน่อย ก็เป็นช่องทางเข้าเรียนแพทย์ของบรรดาลูกท่านหลานเธอที่มี connection หนาๆละมั้ง
แต่เรื่องแบบนี้ประเทศเราคงไม่มีหรอกกก

นั่งอ่านโพส ที่เกี่ยวกับเรื่องพอร์ตเด็กแพทย์ แล้วผมสงสัยมาก

บอกว่า ต้องมีความสนใจด้านการแพทย์จริงๆ
หรือมีส่วนร่วมกับงานวิจัยทางการแพทย์กับแพทย์จริงๆ
หรือต้องมีงานวิจัยถูกตีพิมพ์ โดยทำงานร่วมกับแพทย์จริงๆ
คำถามคือในระดับมัธยมศึกษาโรงเรียนในประเทศ เรามีบุคลากรที่พอจะทำอะไรแบบนั้นทั่วถึงพอแล้วเหรอถึงขนาดว่าต้องเป็นมาตรวัดให้เด็ก ม.ปลายหลายๆคน จะมีโอกาสได้รู้ว่าสิ่งที่วงการแพทย์ต้องการคืออะไร สิ่งที่วงการแพทย์ยังขาดไปคืออะไร เพื่อนำมาวัดผลน่ะ

คนที่มาตอบก็มีแต่ผู้ใหญ่ มองจากมุมมองของผู้่ใหญ่ที่ผ่านมาแล้ว ว่าเด็กควรจะทำได้
แต่เด็กซักกี่คนที่จะมีโอกาสได้ผ่านเรื่องพวกนี้ได้ด้วย "ตัวเอง" จริงๆ

ผมสงสัยจัดเลย ถ้ามาตราฐานรอบพอร์ตเป็นแบบนั้น ใครวะมันจะไปทำได้ ถ้าไม่ใช่ลูกหมอกันเอง

โรงเรียนแพทย์เปิดเยอะขึ้นแหละ

โลกทุนนิยมครับ ไม่อยากแข่งขันก็แพ้ไป ไม่มีใครบังคับ