อนุทินตามเสด็จในหลวงเยือนจีน
UPDATE: นายกฯ เผยในหลวงเสด็จพระราชดำเนินเยือนจีน ถือเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกของไทย ตอกย้ำสัมพันธ์แน่นแฟ้นไทย-จีน 50 ปี
วันนี้ (13 พฤศจิกายน) ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 07.40 น. อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีเกียรติยศ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 13-17 พฤศจิกายนว่า ทุกครั้งที่องค์พระประมุขของชาติ เสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศ รัฐบาลก็จะต้องมีรัฐมนตรีเกียรติยศตามเสด็จพระราชดำเนิน ซึ่งในครั้งนี้ก็มีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้นายกรัฐมนตรี และสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ติดตามขบวนเสด็จในฐานะรัฐมนตรีเกียรติยศ
.
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรี จะมีภารกิจนอกเหนือจากนี้ ที่จะหารือกับจีนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่มี เพราะนี่เป็นองค์ประกอบของขบวนเสด็จ
.
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การเดินทางเยือนจีนครั้งนี้ จะเป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์ไทย-จีน 50 ปี ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การเสด็จพระราชดำเนินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่เยือนประเทศจีนในครั้งนี้ ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์เป็นครั้งแรกที่พระมหากษัตริย์ของสยาม ได้เสด็จพระราชดำเนินไปประเทศจีน ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การทรงจำ เป็นการเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ซึ่งในปีนี้ก็ครบรอบ 50 ปี โดยเป็นความสัมพันธ์ทางการทูต แต่ที่จริงแล้วความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ มีสืบเนื่องกันมาเป็นหลายร้อยปี
ที่มา เพจ the standard
เพิ่มเติม จากเพจ คุณวาสนา นาน่วม
แม้ตามเสด็จฯไปจีน!!หลายวัน
”นายกฯอนุทิน” ยัน เกาะติด สถานการณ์ชายแดน ไทย - กัมพูชา มีช่องทางสื่อสาร ชี้ กองทัพพร้อมรับมือเผย ให้อำนาจทหารตัดสินใจตั้งแต่วันแรกที่มาเป็นนายกฯ
“แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ์“
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ ถึงการไม่อยู่ไทย ติดตามเสด็จไปเยือนจีน 13 - 17 พย.นี้ ว่า เรื่องการดูแลสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่มีปัญหา ผมได้เปิดช่องทางการสื่อสารกับที่เกี่ยวข้องหรือรับผิดชอบต่อสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนที่ประชาชนมีความกังวลต่อสถานการณ์ชายแดน เนื่องจากเมื่อวานนี้ (12 พ.ย.) มีเหตุการณ์ปะทะ ที่บ้านหนองจาน - หนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราจะทำให้ดีที่สุด พร้อมยืนยันว่าเราไม่ได้มีเจตนาจะไปรุกรานใคร แต่เราก็ไม่ยอมให้ใครมาคุกคามอธิปไตยของเรา ทั้งจะไม่ยอมให้ประชาชน และทหารต้องประสบภัยอันตราย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เหมือนว่าทางกัมพูชามีการใช้ปืนเล็กยิงก่อกวนเข้ามาในฝั่งไทย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทหารมียุทธวิธี ซึ่งรัฐบาลให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
ส่วนหากมีความจำเป็นต้องอพยพ เรื่องของศูนย์พักพิง และเงินเยียวยา มีความพร้อมใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว
ส่วนเรื่องเงินเยียวยาจะต้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเบิกจ่ายได้ทันทีหรือไม่นั้น นายกฯ กล่าวว่า ก็เป็น รมว.มหาดไทย แต่คราวที่แล้วตนไม่ได้เป็น รมว.มหาดไทย แต่ก็ได้ดำเนินการในเรื่องศูนย์อพยพในอีสานใต้ ร่วมกับมี สส. จนสามารถดูแลพี่น้องประชาชนที่ต้องย้ายมายังศูนย์อพยพได้ และมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ยังได้รับธารน้ำใจจากประชาชนทั้งประเทศที่เข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งรัฐบาลจะใช้รูปแบบดังกล่าวในการดูแลพี่น้องประชาชนตามความจำเป็น
ผู้สื่อข่าวย้ำว่าหน่วยงานรัฐจะต้องไม่ช้าใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า คราวที่แล้วตนเป็นฝ่ายค้าน พวกตนยังทำได้ วันนี้ตนเป็นนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย
ส่วนมีการประเมินสถานการณ์อย่างไร เนื่องจากบรรยากาศตอนนี้เข้าใกล้สู่การปะทะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ” เพราะมีคำสั่งสอนมาตั้งแต่บรรพบุรุษแล้ว พร้อมยืนยันว่า ได้ให้อำนาจทหารในการตัดสินใจตั้งแต่วันแรกที่มาเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว
นายอนุทิน กล่าวว่า จะมีการสั่งการผ่านสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แต่แต่ ตอนนี้มีข้อสั่งการที่มีกรอบอยู่แล้ว การประชุม สมช.แต่ละครั้งถือเป็นการรับฟังรายงานความพร้อม และปฏิบัติงาน ที่จะต้องปรับไปตามสถานการณ์ และความเหมาะสม รวมถึงให้การสนับสนุนสิ่งที่กองทัพร้องขอมา
“ ยืนยันว่า กองทัพมีความพร้อมที่จะรับมือสถานการณ์และปกป้องแผ่นดิน อธิปไตย และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน”
ส่วนที่ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์กล่าวอ้างว่า ทหารไทยมีการยิงใส่พลเรือนของกัมพูชา จนบาดเจ็บ และเสียชีวิต นายกรัฐมนตรี กล่าวเพียงว่า ได้อ่าน แต่เราก็มีแนวทางของเรา