วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2568

จิโรน่า - เดปอร์ติโบ อลาเบส (20:00 น.)

เกมนี้ จิโรน่า จะไม่มี ฆวน การ์ลอส, ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค และ อเลฆานโดร ฟรานเซส ที่เจ็บอยู่ ส่วน ดาบิด โลเปซ ต้องรอเช็กความฟิตก่อนแข่ง

วลาดิสลาฟ วานัต ดาวยิงวัย 23 ที่ซัดไปแล้ว 3 ลูกจาก 9 นัด มีโอกาสลงตัวจริงอีกครั้ง เช่นเดียวกับ อัซเซดีน อูนาฮี ที่ยิงไปแล้ว 2 ประตูจาก 6 นัด และ วิคตอร์ ซีกานคอฟ ที่น่าจะยืนริมเส้นฝั่งขวา

ฝั่ง อลาเบส จะไม่มี ฆอน ปาเชโก ที่เจ็บไหล่ และยังต้องพักยาวถึงช่วงคริสต์มาส ส่วน ลูคัส โบเย่ กองหน้าตัวหลักก็ติดโทษแบนจากใบแดงในเกมกับ เอสปันญ่อล ทำให้โอกาสตกเป็นของ คาร์ลอส บิเซนเต้ ที่อาจได้ลงแทน

ทีมเยือนยังมีตัวเลือกแนวรุกอีกหลายคน ทั้ง มาเรียโน่ ดิอาซ, อับเด เร็บบาช และ ฆอน กูริดี้ ซึ่งพวกเขาต้องชั่งใจเลือกจัดแผนรุกให้ลงตัวก่อนเจอ จิโรน่า ในสุดสัปดาห์นี้

สถิติที่น่าสนใจ

• จิโรน่า เก็บชัยชนะนัดเดียวเท่านั้นในลีก รั้งบ๊วยของตาราง และทำผลงานในบ้านได้ดี เพราะเก็บได้ 7 จาก 9 แต้มทั้งหมดในบ้าน ส่วน อลาเบส เก็บได้ 4 แต้มจาก 5 เกมนอกบ้าน
• สถิติพบกันก่อนหน้านี้ 29 นัด จิโรน่า ชนะ 13 อลาเบส ชนะ 10
• ผลการเจอกันครั้งล่าสุด (จิโรน่า 0-1 เดปอร์ติโบ อลาเบส)

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

เซบีญ่า - โอซาซูน่า (22:15 น.)

ความพร้อมก่อนเกม เซบีญ่า จะไม่มี ไอแซค โรเมโร่ กับ อเล็กซิส ซานเชซ ที่บาดเจ็บ รวมถึง ฟาบิโอ คาร์โดโซ่, โฆน ฆอร์ดาน และ อัลฟอน กอนซาเลซ ที่ยังไม่พร้อม ส่วน ลูเซียง อากูเม่ พ้นโทษแบนกลับมาแล้ว และมีโอกาสลงสนามอีกครั้ง

การที่ โรเมโร่ บาดเจ็บนั้น ทำให้ อาคอร์ อดัมส์ อาจได้โอกาสลงยืนหน้าเป้า หลังยิงไปแล้ว 2 ลูกในซีซั่นนี้

ทางฝั่ง โอซาซูน่า จะไม่มี อิเคร์ เบนิโต้ กับ วาลองแต็ง โรซิเยร์ ที่บาดเจ็บ ส่วน ลูคัส ตอร์โร่ ต้องรอเช็กความฟิตก่อนเกม

ส่วนคนที่ยังฟอร์มร้อนแรงอย่าง อันเต้ บูดิเมียร์ ที่ยิงไปแล้ว 5 ประตูจาก 12 นัด คาดว่าจะได้ออกสตาร์ตแน่นอน เช่นเดียวกับ บิคตอร์ มูนญอซ และ อิเคร์ มูนญอซ ที่น่าจะมีชื่อใน 11 ตัวจริงด้วย

สถิติที่น่าสนใจ

• ในประวัติการเจอกัน 107 นัด เซบีญ่า ชนะ 45 ครั้ง โอซาซูน่า ชนะ 34 ครั้ง
• 3 จาก 4 เกมหลังสุดของคู่นี้จบลงด้วยการเสมอกันทั้งหมด ส่วนชัยชนะครั้งสุดท้ายของ เซบีญ่า เหนือ โอซาซูน่า ต้องย้อนไปถึงเดือนตุลาคม ปี 2021 เลยทีเดียว
• ตอนนี้ เซบีย่า ไม่ชนะ โอซาซูน่า มาแล้วถึง 8 นัดติดต่อกันในทุกรายการ
• ผลการเจอกันครั้งล่าสุด (โอซาซูน่า 1-0 เซบีญ่า)

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

แอตเลติโก้ มาดริด - เลบานเต้ (00:30 น.)

แอตเลติโก้ มาดริด จะไม่มี โรบิน เลอ นอร์มันด์ ที่เจ็บเข่า แต่ข่าวดีคือ ปาโบล บาร์ริออส กลับมาฟิตแล้วและน่าจะได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริง ส่วน เลอ นอร์มันด์ ที่หายไป คาดว่า โฮเซ่ ฆิเมเนซ จะได้ลงแทน ขณะที่ มาร์กอส ญอเรนเต้ ก็น่าจะได้คืนตำแหน่งแบ็คขวา

นิโก้ กอนซาเลซ ที่พลาดลงเล่นนัดก่อนเพราะเจ็บเล็กน้อย ตอนนี้หายแล้วและน่าจะพร้อมกลับมาเป็นตัวจริงในเกมนี้

ฝั่ง เลบานเต้ จะไม่มี อิบัน โรเมโร่, คาร์ลอส เอสปิ และ ปาโบล มาร์ติเนซ ที่บาดเจ็บทั้งหมด รวมถึง อูไน เบนเซดอร์ ที่ติดโทษแบนหลังโดนใบแดงในเกมกับ เซลต้า บีโก้

ตำแหน่งของ เบนเซดอร์ น่าจะเปิดทางให้ ฆอน อันเดร์ โอลาซากัสติ ได้ลงคุมแดนกลาง และศูนย์หน้าอย่าง คาร์ล เอตต้า เอยอง ก็จะได้ลงตัวจริงอีกครั้ง หลังยิงไปแล้ว 5 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ จาก 8 นัดในฤดูกาลนี้

สถิติที่น่าสนใจ

• แอตเลติโก้ มาดริด เปิดฤดูกาลด้วยความพ่ายแพ้แบบสุดช็อกต่อ เอสปันญ่อล แต่หลังจากนั้นพวกเขายังไม่แพ้ใครในลีกอีกเลย
• แอตเลติโก้ มาดริด ฟอร์มในลีกยอดเยี่ยมมาก ๆ เพราะชนะรวด 3 เกมหลัง
• สถิติระหว่างสองทีม แอตเลติโก้ มาดริด เจอกับ เลบานเต้ มาแล้ว 39 นัดรวมทุกรายการ ชนะ 22 เสมอ 7 แพ้ 10
• เลบานเต้ เองก็ไม่ธรรมดา เพราะ 5 เกมหลังที่เจอกัน พวกเขาแพ้แค่ครั้งเดียว และบุกมาชนะถึงบ้าน แอตเลติโก้ มาดริด ได้ถึง 2 ครั้ง
• ผลการเจอกันครั้งล่าสุด (แอตเลติโก้ มาดริด 4-0 เลบานเต้)

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

เอสปันญ่อล - บีญาร์เรอัล (03:00 น.)

ความพร้อมของทีมฝั่ง เอสปันญ่อล จะยังไม่มี ฆาบี้ ปัวโด้ ที่บาดเจ็บ แต่ที่เหลือพร้อมลุยทั้งหมด โดย เปเร มีญ่า ที่ยิงไปแล้ว 4 ลูกในฤดูกาลนี้ จะได้ออกสตาร์ตแน่นอน

เช่นเดียวกับ โรเบร์โต้ เฟร์นานเดซ ที่มีผลงาน 2 ประตู 3 แอสซิสต์ ส่วนในแดนกลางก็น่าจะเป็นโอกาสของ ชาร์ลส์ พิคเกล

ด้าน บีญาร์เรอัล จะไม่มี โลแกน คอสต้า, วิลลี่ คัมบวาล่า และ เปา กาบาเนส ที่ยังเจ็บอยู่ มาร์เซลิโน่ เตรียมปรับทัพจากเกมยุโรป โดยมีแนวโน้มจะส่ง เคราร์ด โมเรโน่, ซานติ โกเมซานญ่า, โธมัส ปาร์เตย์ และ อัลฟอนโซ เปดราซ่า ลงตัวจริง

ส่วน อโยเซ่ เปเรซ อาจต้องหลุดไปนั่งสำรอง เปิดทางให้ จอร์จส์ มิเคาตัดเซ่ ยืนหน้าเป้า และ เทจอน บูเคแน่น ก็มีลุ้นได้ลงเป็นตัวจริงด้วย

สถิติที่น่าสนใจ

• เอสปันญ่อล เจอ บีญาร์เรอัล ทั้งหมด 54 ครั้ง แต่เอาชนะได้เพียง 12 ครั้งเท่านั้น และตอนนี้ก็แพ้รวดมาแล้ว 5 นัดติดยามเจอกับ "เรือดำน้ำสีเหลือง"่
• ชัยชนะครั้งสุดท้ายของ เอสปันญ่อล เหนือ บีญาร์เรอัล ในลีก ต้องย้อนกลับไปถึงเดือนมกราคม 2020
• บีญาร์เรอัล กำลังอยู่ในช่วงมั่นใจหลังชนะในลีกมา 2 นัดติด และไม่แพ้ใครในลาลีกามาตั้งแต่แพ้ เรอัล มาดริด 3-1 ต้นเดือนตุลาคม
• ผลการเจอกันครั้งล่าสุด (บีญาร์เรอัล 1-0 เอสปันญ่อล)

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ปัญหาของจิโรน่าในฤดูกาลนี้คือ เกมรับทิชชู่เปียกมาก เพื่อนบุกมายิงยังไงก็เข้า ส่วนเกมรุกก็พอๆ กันกับพวกครึ่งล่างของตาราง ถ้านับเป็นตัวเลขทางสถิติก็เป็นอันดับ 3 ของลีก ยิงได้แค่ 10 ลูก เหนือกว่า โอซาซูน่า(อันดับ 15) ที่ยิงได้แค่ 9 ลูก และ เรอัล โอเบียโด้(อันดับ 19) ที่ยิงได้แค่ 7 ลูก ไม่ได้ต่างจากพวก อลาเบส(อันดับ 8) ที่ยิงได้ 11 ลูก และ อัตเลติก บิลเบา(อันดับ 11) ที่ยิงได้ 11 ลูก

สรุปคือต้องแก้ปัญหาที่เกมรับก่อนเลย ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน นักเตะตัวหลักจากชุดประวัติศาสตร์ที่ได้ไปแชมเปี้ยนส์ลีกก็ยังอยู่กันหลายคน ซีกานคอฟ, บลินด์, กัซนานิก้า, อาร์เนา, สตัวนี่, ปอร์ตู ทำไมผลงานตกต่ำเยี่ยงนี้ มันควรจะอยู่กลางตาราง ไม่ใช่บ๊วยหนีตกชั้นแบบนี้