ถามแบบคนไม่มีความรู้เลย แค่เห็นข่าวว่าควอนตัมคอมพิวเตอร์มันพลังประมวลผลโหดมาก ในปัจจุบันอาจจะยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นในอนาคตอาจจะซัก 20- 30 ปี มันจะสามารถแฮค BTC ได้มั้ยครับ

แฮคได้ครับ แต่ก่อน BTC จะโดน

พวกบัญชีธนาคารคงพรุนไปก่อนหลายปีแล้ว

อนาคตคงต้องซื้อทองเก็บอย่างเดียว

ถ้าจะแฮ็คbtcผมว่ารัฐบาลธนาคารกลางโลกโดนกันก่อนแล้วครับ5555

คำตอบ คือ ไม่ได้ครับ สิ่งที่ควอนตัม ทำได้คือ แย่งขุดเอา block rewards ซึ่งไม่คุ้มอยู่ดี แต่จะให้ไปแก้ block ที่เคยถูกจดไปแล้วนั้นทำไม่ได้

สิ่งที่คนควรจะกลัวคือ แหก https หรือ encryption ต่างๆ ซึ่งน่ากลัวกว่า BTC โดนแฮกมาก นั่น คือ ระบบ internet ทุกวันนี้โดนแฮกได้มากกว่า แต่วิธีแก้มันง่ายมากแค่ upgrade encrption เพิ่ม bit เข้าไป ทุกวันนี้ 256bit ควอนตัม ก็ยากมากที่จะทำได้แล้ว

ได้ครับ แต่ bitcoin ตอนนี้มันใช้การเข้ารหัสแบบเดียวกับธนาคารทั่วโลก ถ้า bitcoin จะโดน ธนาคารจะโดนก่อน มันง่ายกว่า เพียงแต่ธนาคารมันเป็น centralize ถ้ามันมีควอนตัมที่มันแฮคได้ออกมา ธนาคารมันก็จะเปลี่ยนการเข้ารหัสเป็นแบบที่ควอนตัมถอดรหัสไม่ได้ แต่ bitcoin มันทำไม่ได้ เพราะงั้นถ้าควอนตัมที่มันแฮค bitcoin ได้ออกมาจริง bitcoin มันก็จะตายไป เพียงแต่ข่าวมันออกมาก่อน คนก็จะขายทัน แต่ใครลุกช้าก็จ่ายรอบวงแค่นั้นเอง

แฮคกระเป๋า ซาโตชิ พอ แค่นั้นก็พังละ

แล้วถ้าควอนตัมคอมพิวเตอร์พยายามเจาะ seed phase ของ wallet จะทำได้ไหมครับ

น่าจะไม่ได้

มีคนเคยคำนวณแล้วว่าการที่จะแฮก BTC ได้ต้องใช้เวลาประมาณผลนานกว่า การเกิดซุปเปอร์โนวาแล้วมาเป็นระบบสุริยะของเราอีก

ที่พิมไปไม่ได้กาวนะ มันมีข่าวที่เขาคำนวณออกมาแล้วจริงๆ

คิดว่าไม่ได้เหมือนกันครับ คิดหลักการซีดเฟส

1.คำศัพท์ (ซึ่งมีกี่คำบนโลกใบนี้)
2.จำนวนตัวอักษร (ซึ่งคาดเดาไม่ได้ บางคำสั้น บางคำยาว)

หลักการเจาะพวกนี้ก็ลองคูณไปครับ สมมติ ซีดมีคำศัพท์ 10คำ แต่ละคำมี 8ตัวอักษร 10x8 = 80หลัก
เอาง่ายๆ 8แล้วมีศูนย์ต่ออีก 79ตัว มันโอกาสในกี่ล้านล้านล้าน

เข้าใจแล้วครับ แต่ผมว่ามันมีคนบ้าพอจะลองไปสุ่ม seed phase ของกระเป๋าซาโตชิแน่ เพราะถ้าสำเร็จมันคือเงินมหาศาลเลย

ตกลงที่ปัจจุบันBTCยังแฮกไม่ได้ นี่คือเพราะเครื่องที่ทำการแฮกมันช้า หรือเพราะ algorithmมันทำให้แฮกไม่ได้ นะครับ

คำตอบคือ ทั้งได้และไม่ได้ เหตุผลคือ
1. Quantum Computing ในปัจจุบันความเร็วยังไม่พอ
ถ้าสมมุติว่า ปัจจุบัน Quantum Computing ความสมารถอยู่ที่ 100-1000
ความสามารถที่ต้องใช้ในการ Break BTC อยู่ที่ประมาณ 10 ล้าน
ดังนั้นแม้จะมี Quantum Computer ใช้แล้วก็ยังไม่สามารถ Break Bitcoin ได้

2. มีการคุยกันถึงการสร้าง Algolithm ขึ้นมากันการใช้ Quantum Computing
มา Break Bitcoin แล้วดังนั้น จึงน่าจะปลอดภัยอยู่

แต่ ในอีกมุมนึง สิ่งที่ Quantum Computing ต่างกับ แบบเดิมคือการที่มี
สถานะเพิ่มขึ้นอีกสถานะนึง จากเดิมมีแค่ 0และ1 แต่ Quantum Computing
จะเพิ่มสถานะที่อยู่ระหว่างกลางขึ้นมา ทำให้การประมวลผลบางประเภท เร็วขึ้นมาก

และถ้าในอนาคตอันใกล้ มีใคร คิด Algorithm บางอย่างที่ดึงเอาความสามารถนี้
มาแก้ปัญหาการเข้ารหัสคริปโตได้โดยเฉพาะ เราอาจไม่ต้องรอให้ ความสามารถของ
Quantum Computing เร็วถึง 10 ล้านแบบข้อ 1 แค่ 2-3000 ก็อาจจะแก้ได้แล้ว
แปลว่า ถ้าเกิดขึ้นจริงและเกิดขึ้นเร็วกว่าการสร้าง Algorithm ขึ้นมาแก้ทาง
ก็อาจเป็นปัญหาได้

ทำได้แล้วจากสูตร แต่ยังไม่สามารถสร้างได้จากปัญหาทางวิศวกรรม

ทำได้ในกระเป๋ายุคเก่าครับ ซึ่งตอนนั้นยังไม่รองรับ 256bit ก็เป็นช่องโหว่ที่มีการคุยกันและแก้ไขเองไม่ได้ครับ ต้องให้เจ้าของกระเป๋าย้าย BTC ไป ซึ่งเจ้าของก็อาจจะลืม private key ไปแล้ว

เหมือนจะมีอยู่ 2-3 ล้าน BTC ที่มีปัญหานี้อยู่ ไม่มั่นใจว่ารวมของ satoshi ด้วยไหม

ตอบได้เลยว่า ทำไม่ได้ เขาคิดกันล่วงหน้ามาน่าจะเกือบสิบปีแล้วครับ
อ่านต่อได้จากตรงนี้เลย https://cloud.google.com/security/resources/post-quantum-cryptography