นี่ยังดีนะ ที่ทีมในบุนเดสมีทางเลือกขายนักเตะให้ทีมพรีเมียร์ลีคแล้ว
ไม่งั้นก็โดนบาเยิร์นดูดไปถูกๆหมด

ก็ต้องไปบอกนักเตะกับเอเย่นเองว่าห้ามไปบาเยิน เหมือนพวกเมกาใต้ที่ชอบบาซ่ามาดริดนักหนา

บาเยิร์นเป็นทีมในฝันของนักเตะเยอรมันอยู่แล้ว ย้ายไปก็เหมือนเป็นทีมชาติแบบสโมสรเล่นเข้าขากันดีซะอีกเป็นผลดีกับทีมชาติ ไม่เขม่นกันแบบนักเตะอังกฤษ

อยู่ที่ทีมอื่นด้วยว่าต้องการสร้างทีมเพื่อลุ้นเเชมป์ แต่ที่เห็นปีนี้ขายนักเตะกันเยอะ จนเค้าเรียก Farmers league ไปแล้ว

เอ่อทุกวันนี้ที่ลีกอังกฤษมันสู้กันได้เพราะทีมใหญ่ๆคุณภาพอ่อนลงหรอครับ ไม่ใช่ว่าทีมรองๆพัฒนากันขึ้นหรอกหรอ ผมเข้าใจผิดมาโดยตลอดสิงี้ คำว่าบาเยิร์นดูดตัวในลีกมันน่าจะเป็นภาพจำมากกว่าความเป็นจริง ทุกวันนี้บาเยิร์นอิมพอร์ตตัวจากพรีเมียร์รัวๆจะมีซื้อตัวในลีกมีบ้างประปราย กลับกันทีมในเยอรมันปล่อยตัวดีๆออกไปนอกลีกเพียบ ภาพชัดๆอย่างเลเวอร์ที่ปล่อยออกไปค่อนทีมถามว่ามาบาเยิร์นกี่ตัวไปต่างลีกกี่ตัว ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่บาเยิร์นรึป่าว แก้ปัญหาไม่ถูกจุดนอกจากไม่เป็นการแก้ปัญหาแล้วยิ่งจะทำให้มีปัญหากว่าเดิม โฟกัสแต่คำว่าสูสีมันต้องดูถึงคำว่าคุณภาพด้วยนะ ไม่งั้นก็ไม่ต่างอะไรจากลีกล่างๆสูสีถึงเวลาก็ปล่อยย้ายหมดคุณภาพลีกมีแต่ต่ำลง

ความแข็งแกร่งของบาเยิร์น มีผลกับทีมชาติ สมาคมเค้าจะทำให้อ่อนลงทำไม
อีกอย่าง พี่เสือยิ่งเก่งทีมอื่นยิ่งต้องใช้ความพยายามหาวิธีมาแก้ทาง

บาเยิร์นนี่เป็นหน้าเป็นตาของชาติเลยนะ

สตอรี่ของลีคคือการล้มบาเยินครับ

- เอาแบบง่ายๆก็เคยมีประธานคนนึงที่เสนอให้ชิงแชมลีคแบบเอาอันดับ 1-4 มาเตะเพลย์ออฟหาแชมอยู่

- เอาแบบยากๆขึ้นมาหน่อยก็เอากฏ 50+1 นั้นออกไป ให้มีนายทุนมาทุ่ม ถ้าทีมบุนเดสมีเงินทุ่มได้โหดๆก็น่ากลัวแหละ เพราะขนาดตอนนี้เงินไม่ค่อยจะมีกันผมว่าก็เล่นกันโอเคแล้ว ลองมีเงินเยอะๆกันทุกทีมก็น่าจะยิ่งโหด แล้วก็ไม่น่าหานายทุนยาก เพราะเยอรมันที่ต้องออกกฏ 50+1 นี้มาก็เพื่อจะกันนายทุนที่พยายามเข้ามาตอนนั้นแหละ

ผมยังไม่เคยเห็นข่าวที่ท่านอ้างอิงเลยอ่ะครับ (ที่บอกประมาณว่าสโมสรอื่นๆเป็นหนี้บุญคุณบาเยิร์น เลยต้องขายนักเตะให้)

ทุกๆตลาดเห็นก็ซื้อขายกันตามปกติ ทีมใหญ่เช่นบาเยิร์นสนใจนักเตะจากทีมในลีค ก็ตกลงกับสโมสรนั้นๆ เงินถึงก็จบ

หรือถ้ามีทีมอื่นจากนอกลีค ให้ค่าตัวที่สูงกว่า สโมสรก็ไม่ได้จำเป็นต้องขายให้บาเยิร์นหนิฮะ กลับกันบาเยิร์นก็ไปซื้อตัวจากนอกลีคแทน

ก็ไม่เห็นต่างจากตอนมาดริด, บาซ่าสนใจตัวในลีคเลย ใจนักเตะอยากมาอยู่แล้ว ต้นสังกัดตกลงค่าตัวกันได้ก็ done deal

ปลดล็อคกฏ 50.1% มีนายทุนพร้อมเข้ามาทำทีมขึ้นมาสู้ได้แน่นอนครับ

ตอนนี้เหมือนติดอยู่กับที่ดอร์ทมุนด์กับบาเยิร์น ไม่อยากให้เปลี่ยนแปลงอะไร

ผมว่ามันมีอีกเรื่องที่เรามองข้ามกัน คือ ปัญหาเรื่องการเก็บสตาร์ของทีมเอาไว้ ทุกทีมมันจะมีตัวเก่งๆเกิดอยู่เรื่อยๆ หรือซื้อตัวไม่เก่งมาปั้นแล้วเก่ง แล้วทุกทีมเป้นเหมือนกันหมดคือสมองไหล ไม่นับไปบาเยิร์นตัดทิ้งไป ไปลีคอื่นก็เยอะ อย่างแฟร้งค์เฟิร์ต โอเคปั้นเก่ง แต่พอมีตัวเก่ง 2 ตัว ก็ต้องขายละ มันไม่ทันได้มีถึง 6+ ตัวสักที พอไม่ถึงระดับนั้นแล้วรีบขาย มันทำให้ทีมไปได้ไใ่ไกลในเวทียุโรปและไกกลได้อย่างสม่ำเสมอเหมือนบาเยิร์ด้วย พูดง่ายๆคือขาดคงวามต่อเนื่องในการสร้างทีม กลายเป้นสร้างแต่นักเตะแล้วขายกิน

ผมมองข้ามเรื่องบาเยิร์นไป บาเยิร์นไม่ใช่ปัญหาหลัก ปัญหาคือไม่มีทีมที่ไปได้ไกลๆและไปได้อย่างสม่ำเสมอในเวทียุโรป ทำให้แบรนด์มันไม่ติดตลาดในระดับโลก เอาง่ายๆขนาดแฟนบาเยิร์นในบ้านเรายังน้อยเลย พอเป็นแบบนี้มูลค่าทางการตลาดน้อย รายได้จากช่องทางอื่นๆมันก็น้อยลง สังเกตุดีๆใน ucl นอกจากบาเยิร์นอีกทีมสองทีมคือเวียนกันมา ถ้ามีทีมไหนทำได้เล่น ucl สม่ำเสมอ เสริมกระดูกกับทีมแข็งๆนอกลีคเป็นประจำ เดี๋ยวมันจะกลายเป็นคู่แข่งบาเยิร์นเองในลีคแบบอัติโนมัติเหมือนที่ดอร์ทมุนด์เคยเป็น

ถ้าถามผม อาจจะให้มีระบบติดแฟรนไชนซ์ แท๊ก แบบ nfl กันปัญหาสมองไหล ปีนี้ห้มขาย ขายได้ปีหน้า อะไรทำนองนี้

กับนักเตะใหม่เซ็นต์เข้า ถ้าขายออกภายใน กี่ปี ที่ระยะเวลามันสั้นไปตองบีบให้ขายยาก เช่น ซื้อปีก่อน ปีนี้จะขาย ไม่สามารถขายได้เกิน 1.5 เท่าของราคาที่ซื้อเข้า 2 เท่าในปีต่อไป อะไรแบบนี้ ตัวเลขสมมตินะ

มีอีกอันที่น่าทำ แต่ถ้าทำคือไม่ต้องไป ucl แพ้แน่นอน คือทำ salary cap หรืออะไรที่คล้ายกัน