[RE: สรุป กรณี ยาดมสีเขียว]
A.Felix พิมพ์ว่า:
bennikun พิมพ์ว่า:
กว่าจะสร้างธุรกิจขึ้นมาได้ไม่ใช่ง่ายๆ กว่าสินค้าจะติดตลาดยิ่งยากเข้าไปใหญ่
หลายๆคนทั้งชีวิตเป็นพนักงานประจำ ไม่เคยต้องต้องสร้างกิจการหรือแม้แต่บริหารกิจการจริงๆ ก็ไปว่าเค้าว่าทำไมไม่ทำให้ถูกต้องโดนมองแต่ฝ่ายเดียว
ก่อนอื่นสิ่งที่เกิดขึ้นคือมันก็ผิดจริงๆ ทั้ง
- เรื่่องสินค้า batch ที่เป็นข่าวไม่ได้มาตราฐาน เท่าที่ทราบมี batch เดียว
- ดำเนินกิจการที่ไม่ได้รับอนุญาต ผลิตและบรรจุในที่ได้รับอนุญาต แต่ไปติดสติกเกอร์และแพ็คโหลในที่ไม่ได้รับอนุญาต
มันน่าเสียดายครับ ที่เอาการจัดการผิด(จริง)ซึ่งพัฒนาได้ ไปทำลาย Branding ซึ่งสร้างยากมากๆ คุณคิดว่าการที่มันถูกดมโดน Lisa ถ้าต้องทำใหม่มันตีเป็นมูลค่าเท่าไหร่ การที่คนจีนเอายาดมหงส์ไทย เป็นภาพจำว่าสินค้าสมุนไพรไทยคุณภาพดี มันตีเป็นมูลค่าเท่าไหร่และมันทำยากแค่ไหน
เข้าใจครับ คิดในมุม authority ผิดก็คือผิด แต่ในการทำงานจริงมันติดขัดกว่านั้นครับ เงินทุน, ความรู้, แรงงาน, ทีมงาน, ความคุ้มทุน บางคนบริษัทให้ฝึกงานน้องคนเดียวยังบ่นแทบตาย
แล้วการตั้งโรงงานใหม่(ที่ได้มาตราฐาน) ให้ตอบสนอง order ของเค้า(ซึ่งน่าจะเยอะมาก) มันต้องคิดหลายๆอย่างมากๆครับ มันไม่ได้ทำทันกันง่ายๆนะ แต่ยังไงครับคุณจะไม่ตอบสนอง order ปัจุบันไปก่อน(ทั้งๆที่รู้ว่าไม่พร้อม)หรอ
ผิดก็ว่าไปตามผิดครับ แต่ก็ต้องสร้างผู้ประกอบการไปด้วยค่อยๆปรับกันไป ไม่ใช่ทำลาย branding กันแบบตอนนี้ มันน่าเสียดายจริงๆนะ
ประเด็น batch/lot เดียวนั้น เพราะมันถูก verify แล้วว่าล็อตนี้แน่ๆ แต่ล็อตอื่นไม่ชัวร์ เพราะแบบนั้นเค้าต้องยึดทั้งหมดก่อน
อีกส่วนเรื่องโรงงานผลิต ได้รับอนุญาตินี่ อันนี้ผมอ่านไม่แตก ตาบอดหรือข่าวมันบิดเบือน ที่ว่าว่าผ่าน 1 plant อีก 3 เถื่อน ขนาดนี้มันก็เกินไป ผิดจริยธรรม กับธรรมาภิบาลไปหมด สนแต่ตัวเลขกำไรเลย
ความเห็นผมนะ
1. เรื่องโรงงานนี่ผมว่าผมพอเข้าใจในฐานะผู้ประกอบการ(ซึ่งไม่ได้หมายความว่าทำถูกนะ) ถ้าเป็นผมผมก็อยากขายของนะ เดิมๆของไม่ได้ขายดีขนาดนั้นเจอ Lisa เข้าไปจน overcapacity แต่จะอดใจไม่ขายก็ไม่ไหวอยากขายของให้ได้(โลภแต่ไม่ใช่อาชญากร) แต่ในอีกมุมนึงก็ไม่กล้าลงทุนใหญ่ กลัวความต้องการมันจะกลับไปค่าเดิมนี่ก็เจ๊งได้เหมือนกัน มันทำใจยากเหมือนกันนะ
>> ความเห็นผมในประเด็นนี้ อย. ควรให้โอกาสและคิดในมุมที่บูรณาการกว่านี้ เช่น เรื่องเงินทุน หรือ หาทางให้เค้าได้ร่วมทุนกับนายทุน หรือ หาทางให้เค้าได้เอาสูตรไปผลิตในโรงงานกลาง(เพื่อรองรับ order ระหว่างปรับสเกล) ไม่ใช่ผลักไปให้ผู้ประกอบการกลับไปแก้เองทั้งหมด ตัวงานจริงมันมีมุมให้คิดมากกว่าแค่ตัว product อ่ะครับ
>> sme เดี๋ยวนี้ยากขึ้นทุกวันครับ เจ้าใหญ่ก็ลงมาแข่งแทบทุกตลาด ก็อยากให้ให้โอกาสเจ้าของได้เติบโต/เรียนรู้ไปด้วย ไหนๆ brand ก็ฟลุ้กโตได้แล้ว
2. เรื่องเจอ bacteria เกินมาตรฐาน อันนี้ อย. ทำถูกครึ่งนึงคือตรวจน่ะดีแล้ว แต่ก็บอกแค่ว่าเกินมาตราฐาน แต่ไม่ได้บอกว่าเกินไปเท่าไหร่ เกินไปมากหรือเกินไปนิดเดียว และไม่ได้บอกว่า bacteria ที่เจอเป็นประเภทไหน และก็อย่างที่คุณบอก ประชาชนตอนนี้รู้แค่ batch นี้แต่ไม่รู้เลยว่าปัญหาจริงๆมีมากและกว้างแค่ไหน
>> ปัญหาคือ มันก็จะลามไปผู้ประกอบการเจ้าอื่นๆด้วยน่ะสิครับ มันกลายเป็นกระทบเจ้าที่เค้าอาจจะไม่มีปัญหาด้วย ถ้า อย. scope ปัญหาให้ชัดว่า อยู่ที่วัตถุดิบ การผลิต หรือ การขนส่ง และเป็น bacteria ตัวไหน เจ้าอื่นๆเค้าจะได้ออกมาชี้แจงตัวเองได้
>> ในมุมมองต่างชาติ กลายเป็นว่า product ที่เป็นสมุนไพรไทยจะโดนมองลบไปด้วยทั้งหมดครับ เวลารัฐสื่อสารมันควรจะคิดรอบด้านไม่ใช่คิดแค่ใน silo ของตัวเอง