จากที่อ่านบทวิเคราะห์เชิงแทคติกจากมู้ล่าง ชี้ให้เห็นว่า Slot แทบจะไม่มีการปรับเปลี่ยนระบบการเล่น เลยแม้แต่น้อย ซึ่งถือเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อฟอร์มการเล่นของทีมและศักยภาพของผู้เล่นใหม่
ปัญหาของแบ็คซ้าย-ขวา ภายใต้การคุมทีมของ Jürgen Klopp บทบาทของฟูลแบ็ค โดยเฉพาะ Trent และ Robbo คือ "ตัวคุมจังหวะและกำหนดทิศทางเกม" พวกเขามีหน้าที่กำหนดว่าจะเล่นเร็ว, ช้า, บอลสั้น หรือบอลยาว เนื่องจากแบ็ค 2 คนนี้มีความแม่นยำในการเปิดบอลสูง ทำให้เกมรุกของลิเวอร์พูลสามารถเข้าทำได้อย่างรวดเร็วก่อนที่คู่แข่งจะตั้งรับได้ทัน
แต่ตั้งแต่ได้ผู้เล่นใหม่ที่มีสไตล์แตกต่างออกไป อย่าง Frimpong และ Kerkez ซึ่งไม่ใช่แบ็คในแบบที่เน้นการสร้างสรรค์เกมจากแนวลึก พี่ Slot กลับ ไม่ปรับเปลี่ยนแนวทางการขึ้นเกมรุก แต่ยังคงให้แบ็คทำหน้าที่เดิม แทนที่จะย้ายบทบาทการคุมจังหวะไปให้กองกลาง พอ 2 คนนั้นทำไม่ได้ Slot กลับเลือกที่จะมอบหมายหน้าที่นี้ให้กับ Szobo ซึ่งทำให้ดูเหมือนจะ "เสียของ" เนื่องจาก Szobo ต้องถอยลงมาทำในสิ่งที่ขัดกับจุดเด่นของตัวเองในการเปิดบอลและตัวตะบึงช่วยเกมแดนกลางมากกว่า และการทำแบบนี้ยังส่งผลกระทบต่อ Bradley อีกด้วยจากนักเตะที่เคยถูกยกย่องว่าเป็นแบ็คดาวรุ่งพุ่งแรง ตอนนี้ก็ได้รับผลกระทบจากระบบที่ไม่เอื้ออำนวย จนฟอร์มการเล่นตกลงอย่างเห็นได้ชัด

กรณีของ Wirtz ทีมได้อุตส่าห์ทุ่มเงินซื้อ Wirtz ที่มีความสามารถโดดเด่นด้านการสร้างสรรค์และทำเกม แต่ Slot กลับไม่สามารถหาวิธีดึงศักยภาพสูงสุดของ Wirtz ออกมาได้
Slot เลือกที่จะให้ Wirtz ไปทำหน้าที่ "วิ่งไล่บอล" ในแบบเดียวกันกับที่ Szobo เคยทำ พอนักเตะไม่สามารถทำตามความต้องการได้ ก็แสดงออกถึงความไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน ถ้า Slot ต้องการให้กองกลางตัวรุกมาวิ่งไล่บอลในระดับนี้ พี่ก็ควรใช้ Szobo ต่อไปได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องทุ่มงบประมาณกว่าร้อยล้านไปซื้อ Wirtz เข้ามาให้เปลืองและทำให้ศักยภาพของนักเตะถูกบั่นทอนลง

ปัญหาหลักตอนนี้มันเกิดจาก ความไม่ยืดหยุ่นทางแทคติก ของตัว Slot เองที่พยายามยัดเยียดผู้เล่นใหม่ให้เข้ากับระบบเก่า แทนที่จะปรับเปลี่ยนระบบให้เข้ากับจุดเด่นของผู้เล่น ซึ่งกำลังส่งผลเสียต่อฟอร์มของนักเตะหลาย ๆ คนในทีม

เรื่องแทคติคไรงี้ ผมไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก
แต่สงสัยว่าทำไมมันช้าจังเลย เล่นเหมือนนำ 3-0
อีซัคก็ไม่ได้บอล แบ็คไม่ใช่แค่เล่นไม่ดีแต่มันเน่าไปเลย
แกไปทำอะไร

นี่เป็นจุดที่ดาต้าของเอ็ด ฮิวจ์ก็ครอบคลุมไม่ได้เหมือนกันแฮะ

เพราะตอนที่เอาโล้นเข้ามา ข้อดีคือเป็นคนเจียมๆ แทคติคยืดหยุ่น เล่นคล้ายๆคล็อปนี่แหละ

เลยดึงตัวมาคุมทีม จะได้ซื้อตัวตามใจบอร์ดได้ (ตัวอย่างก็ทั่นเปเรซ)

แต่ทำไม และทำไม ซีซั่นนี้มันเล่นทิ้งข้อดีตัวเองหมด แล้วเล่นแผนเทนฮาก และอีโก้พุ่งทะลุฟ้าแบบนี้

ปัญหามันคือแนวรับ ลองแนวรับมันไม่เสียง่ายๆ แนวรุกมันก็ไม่กดดันหรอก

นี่เริ่มเกมมา เสีย ยิงเค้าได้ โดนตีเสมอ เหมือนเอาความกดดันไปโยนให้แนวรุก ทั้งที่จริง แนวรุกก็ยิงได้ทุกนัด และยิงเท่าจ่าฝูง (ทีมที่ยิงเยอะสุด ก็ยิงมากกว่าลิเวอร์พูลแค่ลูกเดียว)

แก้ที่แนวรับให้ได้ โดยส่วนใหญ่ ที่โดน คือเซ็ตพีซ ละก็ลูกครอสเข้ากลางไปที่พื้นที่ระหว่างเซนเตอร์กะแบคซ้าย

แก้แนวรับได้ แนวรุกมันจะไม่ใช่ปัญหาเลย

ปีที่แล้ว ยืดหยุ่น ไม่ใช่เพราะแผน แต่เป็นเพราะนักเตะยังมีจังหวะจากยุคคล็อปที่มีการเล่นเร็ว มีเพรส บอลยาวเปลี่ยนแกน พอสล็อตมาก็มาดึงจังหวะให้ช้าลง แต่นักเตะยังจำจังหวะเดิมได้ สามารถเร่งท้ายเกมหรือปรับตัวเองให้เล่นเร็วในยามจำเป็นได้อยู่ สลับกับการเล่นช้า

แต่พอมาตอนนี้คือทุกอย่างเหมือนหยุดนิ่ง ช้าไปหมด อะไรที่เคยเด่นคือหายหมด เหลือแต่ความช้า
เพรสไม่ได้ ไม่เห็นระบบการเพรส และที่สำคัญคือทำช้าจนแก้เพรสไม่ได้
ไม่มีลูกยาวเปลี่ยนฝั่งแก้เพรส

จะเล่นรูปแบบไหนยังไม่รู้เลย

จะว่าไม่ยืดหยุ่นก็ไม่ใช่
กราฟ ลงไปเป็นเซ็นเตอร์ ในช่วงต้องการประตูมว่านวัตกรรมนี้ของแกใช้งานได้เมื่อปีที่แล้ว
ปีนี้คิดค้นนวัตกรรมใหม่ เอา โซโบ ไปเล่นแบ็คขวากึ่งควอเตอร์แบ็ค ใช้งานได้ช่วง5-6นัดแรก
แต่ฝั่งเกมรุก ที่โหลดตัวรุกลงไป4-5ตัว มันไม่เวิร์คเลย ทับตำแหน่งกันหมด แถมกลางโบ๋ โดนเจาะพังหมด

บอลยาว เเละ บอลครอส ที่เคยได้จากเทรนท์ มันหายไป

ปีที่แล้วอวยกันจัดว่าแกยืดหยุ่น แล้วบอกคลอปป์เล่นแผนเดียว ผมงงมากคลอปป์นี่เป็นคนปรับแผนหรือดีเทลจุกจิกทุกปี ปรับเยอะมาก ถึงตอนนี้กลับตาลปัตร บอกสลอทไม่ยืดหยุ่นไปซะละ

จุดเปลี่ยนคือแผน overload ไร้สมองนี่แหละ ปีที่แล้วเป๊ปก็พังเพราะไอ้การโอเวอร์โหลดตัวรุกเยอะ ๆ ในกรอบเขตโทษนี่แหละ
แผนเวรนี่เหมือนจะดูดีในหน้ากระดาษ แต่ความจริงอีกด้านคือ แผนนี้กลัวการสวนกลับมากกกกกก
เพราะงั้นเลยเกิดเป็นการจ่ายบอลตัวยู เพราะกลัวเสียบอล ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เสียบอลอยู่แล้ว
พอเสียบอบทีก็ต้องวิ่งหน้าตั้งวัดดวง หวังให้ตัวรุกจับบอลขลุกขลิกเสียจังหวะ ไม่งั้นคือไปถึงการจบสกอร์แน่นอน
และเพราะตัวผู้เล่นไปกองในเขตโทษฝ่ายตรงข้ามเยอะ ทำให้ยิ่งต้องวิ่งไกลกลับมาตั้งรับ ทำให้ผู้เล่นเคาะบอลไปมา ไม่เข้าทำซักทีเพราะไม่อยากวิ่งสปริ๊นต์กลับไปป้องกัน จนเกิดเป็นนิสัยเสียแบบซิตี้ตอนนี้ หงส์ก็เริ่มเป็นแล้วเหมือนกัน

ผมมีโอกาสได้ดูลิเวอร์ 2 นัด ผมว่าความดุดัน จังหวะเอาตายของลิเวอร์หายไป จังหวะเสียงในหัวว่า "เดี่ยวมันมาแน่หายไปเลย" แล้วที่สำคัญคือเกมส์รับครับ เกมส์รับเสียประตูง่ายไป เหมือนที่แมนยูเสียลูกตั้งเตะสมัยโอน่านาเป็นประตู

ปัญหามันคือพี่แกจะโหลดนักเตะขึ้นไปบุกหมด ทำให้เหลือเซ็นเตอร์แค่ 2 ตัว พอเสียบอลก็วิ่งกันน้ำบานล่ะครับ จะเล่นแบบนี้มันต้องมีกลางรับคอยประคองอีกตัว มันถึงจะครอบคลุมพื้นที่ได้ แต่พี่แกไปเลือกให้ Kerkez ยืนต่ำคอยประคองแทน ซึ่งไอ้นี่มันก็ทำไม่ได้อยู่แล้ว มันเลยยิ่งไปกันใหญ่

อันนี้ถูกเลย PSG มันเวิร์คเพราะ Joao Neves คอยตัดบอล เหมือนที่ Man city มันจะเวิร์คถ้ามี Rodri แบบฟิต ๆ แต่ Liverpool มันไม่ตัวแบบนั้นไงครับ

ยืดหยุ่นสิ แต่ในความยืดหยุ่นนั้นมันแค่ไม่ได้ผลเฉยๆ

ไม่ใช่แค่นั้น ปีนี้ต่อให้โรดรี้พีค มันก็เล่นไม่ได้ครับ เพราะกรรมการ EPL ให้ใบเหลืองจังหวะตัดเกมสวนกลับง่ายกว่าเมื่อก่อน ตัดปุ๊บเหลืองปั๊บ แบบนี้ยังไงก็โดน แต่ในถ้วยยุโรปอาจจะยังเล่นได้

โดยส่วนใหญ่นะครับ ย้ำว่าส่วนใหญ่ ในลีก เราเสียจากการประกบหลวม ไม่ใช่จังหวะโดนโต้แล้วโอเวอร์โหลด

ในลีก 14 ลูก มาจากการโดนโต้กลับ แล้วเราโอเวอร์โหลดเกมรุก แค่สองลูกเองนะ ลูกแรก โดนเซเมนโย่ยิงตีเสมอนัดแรก ลูกสองนัดพาเลซ ที่โดนหลุดเดี่ยว

สำหรับผม การยืนตำแหน่ง และการเพรสในแดนบน นั่นล่ะปัญหาใหญ่