ผมมีเงินเก็บประมาณนึง เสียภาษีก็ถือว่าเยอะ อยากรู้ว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่ควรไปขอคำปรึกษากับที่ปรึกษาทางการเงิน

สมัยนี้โลกมี AI จะมาตั้งกระทู้ถาม ก็คงสู้คำตอบจาก AI ไม่ได้หรอกครับ

แล้วเผลอๆ เอาเงินที่ไปเสียกับที่ปรึกษาทางการเงิน คุยกับ AI อาจจะดีกว่าด้วย

แล้วถ้าคุยถึงจุดๆนึงแล้ว อยากไปปรึกษาเพิ่มก็ลองไปติดต่อดูครับ

จบ ปิดมู้

10ล้าน เงินเย็นก้ควรไปปรึกษาได้ละ ไปฟังหลายๆเจ้าก้ยังดี แล้วมาหาความรุ้ต่อ

คิดว่า30-100
อยู่ที่ว่าทำงานอะไร คาดหวังผลตอบแทนเท่าไหร่
ถ้าไม่คาดหวังมากไปทางเซฟๆพันธบัตร หุ้นกู้เกรดดีๆ หุ้นปันผลราคาทุนปู่ย่าตายาย มีงานประจำป็นรายได้หลักมั่นคงก็คงไม่ต้อง

อย่างเพื่อนแม่ น่าจะมีหลายสิบอยู่ แก่แล้ว โสดด้วย ไม่ต้องการอะไรมากมาย ซื้อแค่พันธบัตรกับหุ้นกู้ทรู ไม่ต้องมีใครปรึกษาก็ได้

แต่ที่ถามมาผมว่ามันกว้างนะ ที่ปรึกษาทางการเงิน ถ้าไปธนาคารเค้าก็แนะนำเบสิค ขายผลิตภัณฑ์ ก็คำนวณการลดหย่อนภาษีให้คร่าวๆ

อย่างแต่ก่อนอยู่บริษัท ระดับสี่ห้าพันล้าน มีที่ปรึกษาวางแผนให้ เอาบริษัทนี้ไปถือหุ้น เพิ่มทุนเท่านั้นเท่านี้ นั่งโอนหุ้นวนหุ้นกันหลายเดือน เค้าคำนวณให้ถึงภาษีแต่ละบริษัทแต่ละคนในอนาคต

โดยสรุป ผมว่ามีหลักสิบปรึกษาพวกที่ขายผลิตภัณฑ์ ได้เป็นส่วนๆ

ถ้าที่ปรึกษาการเงินแบบเพียวๆ ไม่ขายของ วางแผนให้อย่างเดียวแล้วคิดตัง ผมว่าเป็นร้อยล้าน เงินยิ่งเยอะยิ่งลึก

อีกสวนคือข้อมูลการเงินรายรับรายจ่ายทรัพย์สิน มันเป็นเรื่องส่วนตัวด้วย ถ้าพวกที่ขายของทั่วไปคุณก็คงไม่อยากเปิดกับเค้าหมด ถ้าแบบไว้ใจได้ค่าตัวแพงเปิดกับเค้าได้หมดเงินหลักสิบก็ไม่คุ้ม

ลงเองเลือกเองครับ แต่ถ้าไม่อยากเสียเวลาดูอยากถามโดยปกติก็8หลักขึ้นไป มันเริ่มพอใช้ละแต่ไม่พอกินหรูเที่ยวหรู

เท่าไหร่ก็คุยได้ครับ เริ่มต้นจากเรื่องเล็กๆง่ายๆก่อนค่อยไปเรื่องใหญ่ อาจจะหาข้อมูลอ่าน-ฟังแบบไม่เสียเงินก่อน จัดลำดับความต้องการของตัวเองแล้วก็ค่อยหาที่ปรึกษา

ส่วนตัวมองว่า
ตั้งคำถามกับตัวเองเยอะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ค่อยๆหาคำตอบไป ที่ปรึกษาให้คำตอบได้ในภาพกว้างๆเพราะรายละเอียดยิบย่อยเยอะเกิน จนทำให้ที่ปรึกษาตกหล่นข้อมูลหรือเราเล่าไม่หมด

ก็เค้ามาขอคำปรึกษาจากคน ไม่ได้ขอจากAI

ส่วนตัวนะ แยกเป็น 2 ส่วน เงินกิน กับ เงินลงทุน
1. ต้องมีเงินสำรองเอาไว้กิน 10 เดือนอย่างน้อย ถ้าเกิด Accident แบบวิกฤตหนักๆ
2. เงินเย็นที่เอาไว้ลงทุน ไม่ต่ำกว่า 1m แบบพร้อมเสียถ้ามันเจ๊ง

ยังไงก็ได้ อย่าไปวงการให้เค้าลงทุนให้ ไปซื้อกองทุน หรืออะไรแล้วแต่ได้หมด แต่อย่ามันจะโม้แค่ไหนอย่าเคลิ้มยิ่งถ้าไม่มีความเข้าใจเลยยิ่งจับผิดยาก

ความคิดโคตรน่ากลัวเลย เอะอะปรึกษา AI
ทั้งที่การปรึกษาคนหลายๆคน จาดประสบการณ์จริง จะได้คำตอบแตดต่างเอามาวิเคราะห์ได้อีก แถมมีการปฏิสัมพันธ์

จริงๆ AI บางเรื่องควรใช้เป็นแค่แนวทางด้วยซ้ำ

ยังไม่มีก็เริ่มคุยได้ครับ เพราะผมก็เริ่มคุยตั้งแต่เริ่มมีเงินเดือน เพราะเห็ราคาบ้านกับราคารถ เลยอยากรู้ว่าคนที่ซื้อบ้านซื้อรถต้องมีเงินเดือนเท่าไหร่จากการดูรีวิวบ้าน รีวิวรถบ่อยๆ เพราะรู้สึกแค่เงินเดือนไม่น่าพอให้ซื้อบ้านซื้อรถแต่ทำไมหลายๆคนทำได้

ถ้าหมายถึงวางแผนการเงินส่วนบุคคลแบบเริ่มต้นเลย

กรณีกลัวเสียดายเงิน ผมว่าลองดูพวก YT Money Coach

แล้วพอเริ่มเข้าใจบ้าง แต่ยังไม่หมด ก็ลองดูใน Fast work ก็ได้ส่วนใหย๋ปรึกษาครั้งละ 1-2 ชม รอบละ 700-900 บาท แนวทางก็จะมีติดตามทุกๆ 6 เดือน

แต่ถ้าหมายถึงกรณ๊ Private Bank หรือในแง่ของ Wealth มีเงินฝากเยอะ ก็อาจจะลองเข้าธนาคารครับ ฝากเงินให้ถึง หรือลองติดต่อ FINNOMENA ดู แต่พวกสินค้าลงทุนก็จะอยู่ในบริษัทๆนั้น

ศึกษาเองดีกว่าเยอะมากๆ

ถ้าคุณเงินเยอะ+ไม่มีความรู้ แล้วไปปรึกษา มีโอกาสเยอะมากที่คุณจะเสียเงินค่าธรรมเนียมสูง
money game อ่ะครับ ใครมีเงินก็จะโดนจ้องขอแบ่งเงิน ที่ละนิดๆ หน่อยๆ รวมๆ กันปีนึงอาจจะหลักแสน

แนะนำหนังสือ Little Book of Common Sense Investing ไปก่อน 1 เล่ม อ่านง่ายมากๆ 1-2 วันก็จบ

พันล้าน+

น้อยกว่านั่นไม่จำเป็น ดูเองได้