รูเบน อโมริม ยืนยันว่าเขาไม่เคยรู้สึกกดดันจาก เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ เจ้าของหุ้นรายย่อยของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เลยสักครั้ง เพราะเชื่อว่าเขาได้รับความมั่นใจในแนวทางและโปรเจ็กต์ที่กำลังสร้างอยู่เสมอ

ก่อนหน้านี้ อโมริม ต้องเจอกระแสกดดันหนัก หลังทีมแพ้ต่อ เบรนท์ฟอร์ด และทำผลงานในเกมดาร์บี้แมตช์กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ไม่ดีนัก จนเกิดคำถามเรื่องอนาคตของเขาในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

อย่างไรก็ตาม แรตคลิฟฟ์ ออกมาหนุนหลังเขาแบบเปิดเผย และในเกมล่าสุดที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เขาก็ได้เห็นฟอร์มสุดเร้าใจของ "ปีศาจแดง" ที่เอาชนะ ไบรท์ตัน 4-2 ทีมที่มักสร้างปัญหาให้พวกเขาในช่วงหลังได้สำเร็จ

อโมริม พูดถึงแรงกดดันว่า "ผมไม่เคยรู้สึกอับอายกับสิ่งที่ทำ หรือรู้สึกว่าตัวเองผิดเพราะทีมไม่ชนะเลย สิ่งที่รู้สึกจริง ๆ คือแรงกดดันจากแฟนบอลมากกว่า เพราะผมรู้ดีว่า จิม เชื่อมั่นและเข้าใจสิ่งที่เรากำลังทำอยู่เสมอ แต่การต้องเผชิญหน้ากับแฟน ๆ นี่แหละที่ยากกว่า"

"สิ่งที่ผมรู้สึกตอนนี้คือความเร่งด่วนที่ต้องไม่แพ้ เพราะทุกอย่างในฟุตบอลสามารถเปลี่ยนได้ภายในสัปดาห์เดียว ดังนั้นวันนี้เราควรดีใจกับชัยชนะ แล้วโฟกัสไปที่เกมต่อไป"

ไบรอัน เอ็มเบอโม่ เหมาสองประตูให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นฮีโร่ในเกมนี้ ขณะที่ ไบรท์ตัน เกือบสร้างปาฏิหาริย์ไล่จาก 3-0 มาเป็น 3-2 ในช่วงท้ายเกม

เมื่อถูกถามว่าตอนนี้ลูกทีมเริ่มเข้าใจแนวทางและเล่นได้ตามสิ่งที่ต้องการหรือยัง อโมริม มองว่าสถานการณ์มันมีความละเอียดอ่อนกว่านั้น

"มันสำคัญมาก ทั้งผลการแข่งขันและฟอร์มโดยรวม เราเจอสถานการณ์หลายแบบในแต่ละช่วงของเกม และผมคิดว่าลูกทีมเข้าใจดีว่าจะต้องรับมือยังไงในแต่ละจังหวะ" อโมริม กล่าว

"ท้ายเกมเราก็มีช่วงที่ต้องเหนื่อยหน่อย แต่ถ้าไม่มีความกดดันหน่อย ๆ มันก็คงไม่ใช่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรอก!"

สัปดาห์หน้าพวกเขามีคิวบุกไปเยือน น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ลุ้นคว้าชัยเป็นเกมที่ 4 ติดต่อกัน ซึ่งเมื่อถามถึงเคล็ดลับที่ทำให้ทีมกลับมาเล่นดีขึ้นแบบนี้ กุนซือชาวโปรตุเกสตอบว่า "ผมคิดว่าพวกเขามั่นใจมากขึ้น"

"จริง ๆ แล้วเกมที่เราทำได้ดีที่สุดในฤดูกาลนี้คือเกมเปิดสนามกับอาร์เซน่อล แต่พอทีมเริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น มันก็เหมือนมีพลังบางอย่างเพิ่มขึ้นในจังหวะสำคัญ ๆ ของเกม จนทำให้เราชนะได้ในที่สุด"

"ตอนนี้ผมรู้สึกว่าทีมเล่นอย่างอิสระมากขึ้น เหมือนเกมสัปดาห์ที่แล้ว เราก็มีโชคนิด ๆ ซึ่งผมเชื่อว่ามันมาจากสปิริตของทีมที่เปลี่ยนไปนี่แหละ"

แต่เอ็งเปลี่ยนตัวได้กาวชิหายเลย เมื่อคืน กลัวแฟนบอลไม่ลุ้นเหรอวะ

ต้องชื่นชมและให้เครดิตการวางหมากของแกด้วยโดยเฉพาะในเกมมหลังทำได้ดีมากๆเลย ถ้าไม่นับเปลี่ยนตัวสำรองนัดล่าสุดทีมยวบเกือบซวย โดยเฉพาะไอดอกูโคตรบรรลัยของแท้ลงมาแต่ละทีสร้างงานตลอดแต่สุดท้ายก็ชนะมาได้แบบสวยๆ ทำอะไรพูดอะไรก็ดูหล่อไปหมดริมช่วงนี้

จริงเลย นัดเปิดเล่นโคตรดี น่าจะดีกว่านัดนี้ ขาดแค่ประตูอย่างเดียว แล้วพอแพ้นัดนั้นมา เหมือนหมดความมั่นใจ หลังจากนั้นก็เล่นโคตรห่วย จนมานัดนี้นี่แหละ ที่ดูเล่นดีรองจากนัดเปิด น่าจะมั่นใจมากขึ้นละ

เคยไล่ริม แต่ถ้าทำให้ทีมเล่นแบบนี้ได้ตลอด ถึงจะเก็บผลไม่ได้ทุกนัดอย่างเช่นนัดเปิด มันก็ยังน่าลุ้นน่าเชียร์

กดดันบ้างก๊ดี ไม่ต้องปล่อยเซอร์ขนาดนั้น



ต้องชมเจ๋งด้วยแหละ ช่วงต้นซีซั่นนึกว่าแกจิตแตกกู่ไม่กลับแล้ว

ไม่คิดว่าจะกลับมาได้

แต่นัดนี้ พี่แก้เกมได้เฮียมากๆนะ นำ3ต้องมาเหนื่อยลุ้น
แลพแม้งทดไรวะตั้ง6-7นาที

ผลลัพธ์เริ่มมาวะ

ยสตน

เปลี่ยนตัว พอนึกเข้าใจได้ ว่าทำไม

นำ 3-0 และ เหลือ 20 นาที

แต่ๆ

คงได้บทเรียนนะว่าคนไหนควรลงไม่ควรลง

ถ้ามันยังซ้อมไม่ดีขึ้น อย่าเพิ่งให้มันลง เช่น ดอกู

ลองมาคุมทีมชาติไทยดูสิ 555

ช่วยบอกหน่อยว่าท่านจะเลือกเปลี่ยนตัวอย่างไรครับท่านสุดยอดโค้ช

เมื่อคาเซวัยชรา เล่มเต็มเกมทีมชาติมา 180 นาที
และเมสท์เจ็บ เอาใครลงดี

ขอแบบนี้ยาวๆนะ จากที่เคยด่า จะตามเชียรฺ ว่ากันตามผลงาน

คุนญ่า กับ เอ็มโบโม่ นี่ชัดเจนมากๆ ยกระดับเกมส์รุกแมนยูให้ดุดันขึ้นมาก วิ่งไล่เพรซซิ่ง ตัดบอล ส่งบอลไม่กี่จังหวะ ทะลุทะลวงไป ได้ยิง แล้ว งานนี้ต้องชมฝีมือการเลือกนักเตะของ อโมริมนะ นักเตะที่เค้าเลือก คือ ยกระดับทีมได้เกือบทุกคนเลย แต่กองกลาง แมนยูโชคดีแล้ว ที่ไม่ไปซื้อ บาเลบา จากไบร์ทตัน เมื่อคืนดู นักเตะสมาธิไม่ค่อยดี เจอเพรซซิ่งหนักๆ มีลูกเหวอ ลูกเออเร่อ บ่อยๆ เลย วอร์ตัน จาก พาเลซ น่าจะตอบโจทย์ มากกว่า บาเลบา จากไบร์ทตันนะ ...

งงเหมือนกันพวกด่าเรื่องเปลี่ยนตัว นำ3-0แล้ว
ก็ต้องพักบางคนบ้าง
มีให้เล่นถ้วยเดียว

ตัวที่ลงไป ก็ตัวเดิมๆที่เคยเปลี่ยนลงไปนั่นแหละ

อาจจะผ่านจุด low สุดของการเซตระบบใหม่ไปแล้วก็ได้ ค่อย ๆ รักษาทรงไปครับ