นับถือใจพี่! 'บรูโน่ 300 นัด' เล่าปัดซาอุ-อยู่ผีต่อ
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
บรูโน่ แฟร์นานเดส กัปตันทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดใจถึงโอกาสอำลาทัพปิศาจแดง หลังจบฟุตบอลโลก เผยความจริงเบื้องหลังการพูดคุยกับคริสติอาโน่ โรนัลโด้ เกี่ยวกับการย้ายทีมไปซาอุดีอาระเบียและสาเหตุที่เขาตัดสินใจอยู่ต่อ

ตลอด 6 ปีที่บรูโน่ บรูโน่ จากบ้านเกิดในโปรตุเกส เขาและครอบครัวก็เริ่มคุ้นชินกับสภาพอากาศอึมครึมของเมืองแมนเชสเตอร์ และการที่ไม่ได้อยู่ใกล้ชายหาด
ข้อเสนอจาก อัล-ฮิลาล ที่ยื่นให้ยูไนเต็ด เมื่อซัมเมอร์อยู่ที่ราว 100 ล้านปอนด์ และไม่มีใครปฏิเสธข้อเสนอนั้น ขณะที่ข้อเสนอส่วนตัวสำหรับบรูโน่นั้น เรียกได้ว่าเปลี่ยนชีวิตเขาได้เลย
มิเกล ปินโญ่ เอเยนต์ของบรูโน่ได้เดินทางไปเจรจาที่กรุงริยาด ตัวบรูโน่เองก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับประธานสโมสรอัล-ฮิลาล แต่ในท้ายที่สุดเขาตัดสินใจอยู่ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดต่อไป
ก่อนจะลงเล่นนัดที่ 300 ให้กับยูไนเต็ดพบไบรท์ตันวันเสาร์นี้ ดาวเตะวัย 31 ปีพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า อาชีพของเขากับสโมสรอาจจบลงที่ 290 นัดก็เป็นได้
เขาเล่าว่า การคุยครั้งแรกคือกับภรรยา “ผมบอกเธอว่า "เรามีข้อเสนอจากซาอุฯ" เพราะแน่นอนว่าถ้าผมต้องไป เขาและลูกๆ ก็ต้องไปด้วย”
“สิ่งแรกที่เธอพูดคือ "คุณได้ทำทุกอย่างที่อยากทำกับสโมสรนี้แล้วหรือยัง?" เพราะเธอรู้ว่าผมยังไม่รู้สึกอย่างนั้นเลย”
“เราทั้งคู่มาจากครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวยนัก ไม่ได้จน แต่ก็ไม่ได้มีมากมาย เราไม่เคยอดมื้อกินมื้อ เรายังมีครอบครัวในโปรตุเกสอยู่ แม่ผมมีพี่น้อง 9 คน ผมรู้ดีถึงความลำบากของชีวิต”
“แน่นอนว่าเงินสำคัญสำหรับทุกคน แต่ผมไม่ได้อยู่ในจุดที่ต้องนับเงินทุกบาท หรือกลัวว่าจะลำบากในอนาคต ถ้าผมใช้ชีวิตอย่างถูกทาง”
“ผมกับครอบครัวก็มีของที่เราชอบ มีความหรูหราบ้างตามสมควร แต่เราก็รู้ดีว่าชีวิตยังอีกยาวไกลแค่ไหน เรายังอยากให้สิ่งดีๆ กับลูกๆ และดูแลอนาคตของพวกเขาให้ดีที่สุด”
“ผมรู้ว่ามันจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ถ้าผมอยากใช้เงิน ผมก็ใช้โดยไม่ต้องมานับในบัญชี เพราะผมไม่ได้ลำบาก และไม่ได้ใช้หมดสิ้นกับสิ่งที่หามา”
“ผมแค่อยากใช้ชีวิตเรียบง่ายหลังแขวนสตั๊ด อยู่บ้าน เดินไปดื่มกาแฟกับพ่อบ้าง แค่นั้นเอง”
“ครอบครัวผมอยู่ที่นี่อย่างมีความสุข ลูกๆ ชอบไปโรงเรียน ชอบชีวิตที่นี่ แม้สภาพอากาศจะไม่ดีนัก หลายครั้งเราคุยกันว่า มันให้ความรู้สึกเหมือน "บ้าน" มากกว่าที่โปรตุเกสเสียอีก เพราะเรากลับไปอยู่ที่นั่นเพียง 2-3 สัปดาห์เท่านั้น นั่นคือหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ผมตัดสินใจอยู่ต่อ”

“ผมเคยคุยกับอัล-ฮิลาล ทุกคนก็รู้ดี และยังมีสโมสรอื่นๆ ที่พยายามเข้ามาหลังจากนั้น แต่คำตอบของผมก็เหมือนเดิม พวกเขาเลยรู้ว่าคงเสียเวลาเปล่า”
“จากยุโรปเองก็มีบางคนติดต่อมา แต่ยังไม่ถึงขั้นมีข้อเสนอจริงจังบนโต๊ะ มีแค่ข้อเสนอจากซาอุฯ ที่ชัดเจนที่สุด อัล-ฮิลาลพร้อมจ่าย 80-100 ล้านปอนด์ พวกเขาต้องการผมมากจริงๆ”
ข้อเสนอระดับนั้นทำให้ยูไนเต็ด ต้องพิจารณาเช่นกัน แม้สโมสรจะยืนยันว่าเขายังอยู่ในแผนระยะยาวในการประชุมกับ โอมาร์ แบร์ราด้า, เจสัน วิลค็อกซ์ และ รูเบน อโมริม ระหว่างทัวร์หลังปิดฤดูกาลที่มาเลเซีย
“ผมคุยกับโอมาร์ เขาพูดว่า "เราจะไม่บอกว่าไม่ขาย แต่แน่นอนว่าเราต้องการให้คุณอยู่ต่อ ถ้าคุณอยากไป เราเข้าใจว่ามันเป็นข้อเสนอมหาศาลสำหรับสโมสร’”
“ผมบอกเสมอว่า ถ้าสโมสรพูดว่า "บรูโน่ เราอยากขาย คุณอายุ 30 แล้ว เราอยากได้เงิน และคิดว่าคุณไม่ใช่ส่วนหนึ่งของโปรเจกต์ในอนาคต" ผมก็จะหาทางออกของตัวเองและย้ายออก แต่ไม่ใช่กรณีนี้เลย”
บรูโน่ยังเผยว่า เขาได้ขอคำปรึกษาจากเพื่อนสนิทและรุ่นพี่อย่าง โรนัลโด้ ซึ่งปัจจุบันเล่นให้กับอัล-นาสเซอร์ หนึ่งในทีมที่อยากได้ตัวเขาเช่นกัน รวมถึงอดีตกุนซือสมัยอยู่สปอร์ติ้ง ลิสบอนอย่าง ฮอร์เก้ เชซุส ที่เคยคุมอัล-ฮิลาล ก่อนจะย้ายไปอัล-นาสเซอร์ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
“สิ่งแรกที่เขาพูดกับผมคือ "นายแพงเกินไปสำหรับสโมสรหรือเปล่า?"
ผมตอบกลับไปว่า "ไม่มีใครแพงเกินไปสำหรับสโมสรนั้นหรอก”
“ผมคุยกับคริสติอาโน่เกี่ยวกับสถานการณ์นี้ เกี่ยวกับเรื่องซาอุฯ และทุกอย่าง คริสติอาโน่มีความเห็นของเขาเกี่ยวกับสิ่งที่ผมควรทำ และมันสำคัญมากสำหรับผมที่จะได้ฟังความคิดเห็นของเขา”
แล้วตอนนี้ ประตูสำหรับการย้ายทีมหลังจบฤดูกาลนี้ยังเปิดอยู่ไหม?
“ผมไม่รู้ครับ” บรูโน่ ตอบอย่างตรงไปตรงมา
“ผมคิดว่าพวกเขา (อัล-ฮิลาล) คงไม่ค่อยพอใจที่ผมปฏิเสธข้อเสนอแน่ๆ ซึ่งผมก็เข้าใจได้ เพราะข้อเสนอนั้นดีมาก โดยเฉพาะเรื่องค่าเหนื่อย มันต่างจากเดิมแบบมหาศาลเลย”
“ผมเห็นหลายคนพูดว่าผมตกลงจะย้ายทีมหลังจบฤดูกาลหน้าแล้ว ถ้ามีการตกลงกันจริงๆ มันไม่ได้เกิดขึ้นกับผมแน่นอน”
“เอเยนต์ของผมก็รู้ดีว่าผมทำงานยังไง ถ้าเขาอยากคุยเรื่องนี้กับผม ก็ต้องหลังฟุตบอลโลก เพราะก่อนหน้านั้นผมจะไม่พูดเรื่องย้ายทีมกับใครทั้งนั้น”
บรูโน่ กำลังจะลงสนามครบ 300 นัด ให้กับยูไนเต็ด พร้อมสถิติ ยิง 100 ประตู และแอสซิสต์ 87 ครั้ง ดีกว่ามิดฟิลด์ทุกคนใน 5 ลีกใหญ่ยุโรป นับตั้งแต่เขาย้ายจากสปอร์ติ้ง ลิสบอน มาด้วยค่าตัวรวมสูงสุดถึง 68 ล้านปอนด์ ในเดือนมกราคม 2020
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีสถิติส่วนตัวสุดยอด แต่เขาคว้าแชมป์กับยูไนเต็ดได้เพียง 2 รายการเท่านั้น และยังคงโหยหาการได้ชูถ้วยพรีเมียร์ลีก หรือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ก่อนอำลาสโมสร โดยเขายังมีสัญญาถึง มิถุนายน 2027 พร้อมเงื่อนไขขยายเพิ่มอีก 1 ปี
เมื่อถูกถามว่า เส้นทางของเขากับยูไนเต็ดจนถึงตอนนี้ “ประสบความสำเร็จหรือไม่” เขาตอบว่า
“แน่นอนครับ เพราะตอนที่ผมย้ายมาที่นี่ มันคือความฝันของผม และการได้ทำความฝันนั้นให้เป็นจริง มันคือความสำเร็จ ผมไม่เคยมั่นใจเลยว่าผมจะมาถึงระดับนี้ได้”
“บางคนอาจพูดว่า "บรูโน่ทำได้ดีมาก" ซึ่งแน่นอนว่าผมก็อยากให้คนพูดถึงผมในทางดี ผมคงโกหกถ้าบอกว่าไม่อยากได้ยินแบบนั้น แต่สิ่งที่ผมต้องการจริงๆ คือ ความสำเร็จของทีม เพราะนั่นจะมีความหมายมากกว่าสำหรับผม”
“ผมยังมอบความสำเร็จที่สโมสรนี้ต้องการและสมควรได้รับไม่ได้เลย รวมถึงความสำเร็จที่ผมตั้งใจไว้ในหัวตอนเซ็นสัญญา ทุกคนรู้ดีว่าผมอยากคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกและแชมเปี้ยนส์ลีกกับสโมสรนี้ ส่วนจะทำได้หรือไม่ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”