เห็นในกลุ่มหลายๆแอพขึ้นมาบ่นๆประมาณว่า
กินหัวคิวทุกดอก บอกเป็นพาร์ทเนอร์(แบบใดห์)
ซึ่งอันนี้ก็เข้าใจได้

แล้วก็มีบ่นว่า ทำไมไม่บรรจุเป็นพนักงานเลย
ซึ่งอันนี้ผมตอนแรกก็ไม่คิดอะไร
แต่ผมเพิ่งเอ๊ะมาได้ว่า ถ้าไม่นับพวกรายได้ที่ตัวแอพจะได้ลดลง
การเป็นพนักงานหมายถึงต้องมีสวัสดิการด้วยไหมครับ
อาจจะแบบค่ารักษา ค่าซ่อม ค่าเสื่อมไรงี้

แล้วปกติอย่างเคสเดือนก่อนที่รถน้ำแข็งขนเสาไฟที่เชียงใหม่ล้มเป็นสิบๆต้น
แบบนั้นนานจ้างก็ต้องรับผิดชอบหรือเปล่า
ถ้าใช่ ทุกวันขับกันแบบนี้ นายจ้างไม่โดนเคลมค่ารถชนยับเลยเหรอ

ก่อนอื่น รักษากฏจราจรก่อน
ผมเจอทุกวัน แถมหนักไปทางไรเดอร์กับวินด้วย
อย่างฝ่าไฟแดง หรือ จังหวะคนข้ามถนนก็วิ่งไม่สนโลก
อุบัติเหตุต่อหน้าก็หลายครั้ง
นี่ขนาดไม่บรรจุนะ

ถ้าบรรจุจะขนาดไหน

ปล.คนขับดีๆก็มี แต่มันเริ่มน้อยลงทุกวันๆ
ไม่ใช่ว่าจะโชคดีทุกคนนะบอกไว้ก่อน

ถ้าบรรจุกฎเกณฑ์มันจะเยอะขึ้นแน่นอน

ต้องมียอดวิ่งขั้นต่ำต่อวัน เพราะต้องคิดต้นทุนค่าแรงกับกำไรของบริษัท

พนักงานต้องรักษาภาพลักษณ์บริษัท

การวิ่งบนฟุตบอล วิ่งสวนเลน ต้องห้ามทำ

ผมมองว่า บริษัทพวกนี้ไม่ทำแน่นอนครับ

ไหนจะเรื่อง กม.คุ้มครองลูกจ้างอีกเยอะ

กฎเกณฑ์เยอะ ต้องวิ่งเหมือนมาทำงานปกติมั้ย ถ้าไม่มาก็โดนหัก ค่าคอมต้องมี ประกันสังคมต้องเสีย อื่นๆ ไรเดอร์จะยอมมั้ย

ปัญหาต่อมาคือ ถ้าเกิดอุบัติเหตุขณะเวลาทำงาน นายจ้างต้องร่วมรับผิดชอบด้วย ไม่ว่าลูกจ้างจะทำผิดกฏจราจรหรือไม่

รอเทคโนโลยีโดรนอย่างเดียวเลย โคตรเบื่อโคตรเกลียดเลย
ผ่านแยกสะพานควายทุกเช้านึ่โคตรระยำพวก2ล้อ

ที่ไม่บรรจุ ผมว่า จะได้เป็นอาชีพอิสระน่ะ

จะทำไม่ทำ ก็ได้

และคนขับหลายคนที่มาขับ ก็เพราะ มันอิสระน่ะ ก็ดีไปอย่าง

ผมว่า ตอนนี้ ที่ปัญหาก็เพราะ ตอนแรก ให้ค่ารอบ เยอะ

พอหลังๆ ค่ารอบลดลง ปัญหาเลยเกิด

เขาจะทำ ทำไมครับ รับมาก็ภาระแอพ แบบนี้ดีกว่า หักหัวคิวได้ทั้งคนขับ ได้ทั้งร้านค้า

เมื่อก่อนคนน้อย ค่ารอบเยอะ รายได้เยอะ cover ปัญหาต่างๆได้

แต่พอรายได้น้อยลงมันไม่พอ cover ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำมัน ค่าเสื่อม ค่าเสี่ยงภัยอุบัติเหตุไรเดอร์ที่รายได้น้อยอยู่แล้วต้องโคเวอร์ตัวเอง มันทำให้ไม่คุ้มค่าจนมีความคิดว่าหากเป็นพนักงานบริษัทอาจหาคนมาโคเวอร์ปัญหาต่างๆได้

ไม่ครับ ถ้าบรรจุเป็นพนักงานก็จะได้เงินเดือน+ค่าคอมเป็นรอบ และจะได้น้อยกว่าที่รับอยู่อีก ปัญหาที่จะตามมาคือการเลือกงาน เพราะ จะเริ่มีการปัดงานมากขึ้นไปอีก

แค่บอกว่าบรรจุแล้ว รายได้ออกเป็นเดือน มีบังคับเวลาทำงาน
เงินที่เก็บได้ต้องนำส่งบริษัทฯทั้งหมด ออกสิ้นเดือน

แค่นี้ก็อยากกลับไปวิ่งแบบปัจจุบันแล้ว 555

hr ปวดหมองแน่นอน

ไม่ดีขึ้นแน่นอน และไม่น่าจะมีทางเกิดขึ้น

เพราะคอนเซปของแอพพวกนี้ คือ ไม่ต้องการมีพนักงานประจำ ต้องการใช้พนักงานอิสระ ครับ

มันคืองานฟรีแลนซ์ ไม่มีใครจะเอามาเป็นพนักงานประจำหรอกครับ เพราะถ้าทำแบบนี้บริษัทเจ๊งหมดแน่ๆ ไม่ต้องวิ่งงานก็ต้องมาจ่ายเงินดูแลอีก

ถ้าบรรจุเป็นพนักงาน สภาพการจ้าง มันก็ต้องดีขึ้น เพราะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายแรงงาน

ไอ้คำว่าพาร์ตเน่อร์เนี่ย มันเอาไว้เลี่ยง เพื่อไม่ต้องตัดแบ่งกำไรไว้ดูแลคนที่ทำงานวิ่งรถให้

ใน SS นี่เห็นใจแอพกันดีนะครับ ขึ้นทั้งค่าบริการกับร้านค้าที่เข้าร่วม ลดทั้งส่วนแบ่งไรเดอร์

ปลายทางก็ต้องจ่ายแพงขึ้น ต้องมาเจอกับอารมณ์ไรเดอร์ที่เร่งรีบ หงุดหงิด หารายได้ชดเชย แล้วพอไม่ไหวออกไปก็คัดกรองคนคุณภาพมาวิ่งได้น้อย ผู้บริโภคยังจะเข้าข้างแอพไว้ก่อนได้ เหลือจะเชื่อ