สังเกตุว่าฤดูกาลนี้ หลุดเดี่ยวไปยิงเยอะมาก ไม่รู้คิดไปเองไหม

ซิตี้ เล่นบอลไดเร็คเยอะขึ้นไง

เหมือนไม่ได้ยืนแช่ ยืนฝังกับกองหลัง จะลงต่ำมา แล้วค่อยทะยานขึ้นหน้า ทำให้น่ากลัวสุดๆไปเลย

ผมว่าเค้าเปลี่ยนวิธีเล่นด้วยแหละ

เพราะทีมมีสเปซ (พื้นที่เล่น) มากขึ้นไง

จะมีสเปซได้ ทีมต้องมีจังหวะให้คู่แข่งได้บุกบ้างและเล่นไดเร็คมากขึ้น

ผมเคยเม้นไว้เมื่อปีก่อน ทีมจะมีเกมบุกดีๆได้ ต้องมีอย่างนึงระหว่าง เดอบรอย กับ สเปซ

ตอนนี้ไม่มีเดอบรอยแล้ว เวลาขึงเกมบุก คือหาจังหวะสร้างโอกาสทองได้ยากมาก ส่วนใหญ่เลยได้แต่แปะไปแปะมา เจาะไม่ค่อยเข้า

้เมื่อก่อน จังหวะในเกม คือขึงคู่แข่ง จนคู่แข่งแทบไม่ได้บุก เอเดอซอนยืนเหงาทั้งเกม
กลับกัน ปีนี้ทีมมีสเปซ พื้นที่เล่นมากขึ้น เพราะไม่เน้นครองบอลเท่าเดิม (ปกติทีมมี %ครองบอลเฉลี่ยเกิน65 แต่ปีนี้เหลือแค่ 58) มีจังหวะโดนคู่แข่งขึงอยู่บ้างบางทีด้วย ปล่อยคู่แข่งบุกยิงบ้างก็ได้ เพราะยังไง โกล์ก็เหนียว

ปีนี้เวลาได้โต้ทีไร ด้วยสปีดต้นของฮาลันด์ และพื้นที่ด้านหลังที่เหลือเยอะ มันเลยหลุดเดี่ยวได้ง่าย ยิ่งปีนี้ฮาลันด์ เหลี่ยมบอลจัดขึ้นด้วย พอมุมได้เปรียบ แกใช้ร่างกายบังคู่แข่งจนไร้ทางต้าน

ประตูที่ยิงได้ในปีนี้ ส่วนใหญ่มาจากจังหวะโต้กลับทั้งนั้น ทั้งที่ปีก่อนๆ ประตูส่วนใหญ่ มาจากจังหวะขึงเกม

ทีมเล่นบอลไดเรคมากขึ้น+เน้นจังหวะสวนกลับจริงจังมากขึ้น โฟเด้นนี่ชัดเลยพอเพื่อนจ่ายทะลุไลน์ให้แกหันหน้ามองหาฮาลันด์แล้วแทงให้เลยไม่คิดมาก

ซิตี้เปลี่ยนจังหวะเล่นบอล
ฮาลันด์มันไม่ได้ยืนค้ำเหมือนแต่ก่อน แต่มันย่อตัวเองลงมาแดน2แล้วสปริ้นตัวไปรับบอลจังหวะสวน
ปีนี้พวกโดกู ฮาลันด์ โฟเด้น จะเก่งขึ้นเพราะพื้นที่มันเปิด
แต่ในขณะเดียวกันถ้าขึงเกมแล้วไม่ได้เจอคู่แข่งเกรดบอลเท่ากัน
ฮาลันด์มันก็ยิงปกติของมันอยู่แล้ว

เหมือนที่เอาไลจ์เดอร์มาเป็นผู้ช่วยใหม่ บอลเลยไดเรกต์ขึ้นป่ะ

ฤดูกาลนี้รู้สึกว่่าโดนบุกโดนขึงบ่อยมากๆ จนรู้สึกอึดอัดเลย แต่รู้สึกว่ากองหลังเหนียวขึ้นมาก และมีจีโจ้คอยเซฟอีก เลยไม่ค่อยเสีย