ชาว SS คิดว่าการสร้างรายได้จากการ trade จุดตัดคนให้ออกไป จากความอยากเป็น คืออะไรบ้าง.... ทำไมถึงมีคนไปถึงจุดนั้นจำนวนน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับอาชีพอื่นๆ ทั้งๆที่หลายๆคน ได้กำไรต่อเดือน หลายแสน ก็มี และไม่ต้องไปเป๋นลูกน้องใครด้วย

วินัยกับควาฒโลภครับ ถ้าmoney management ได้ยังไงก็รอด

อารมณ์ล้วนๆ พอเทรดเสียมันก็อยากได้คืน MM วินัยต้องดีจัดๆ

จากใจคนเคยหมดไปเยอะมาก

ความรู้สำคัญที่สุด

เล่นแบบไม่มีความรุ้ก็เท่ากับรอโดน

พอโดนก็ใจร้อน ทบบ้าง อัดเพิ่มบ้าง

สุดท้ายพัง แล้วก็ออกจากตลาดไป

ใครรู้ชี้ทางสว่างให้ทีครับบ

มันใช้ทักษะเยอะ วิธีการที่ดี วินัย มายเซ้ท mm อารมณ์ ความอดทน ปสก ขาดอะไรไม่ได้เลย มันเลยยาก

เงินต้องเย็นจริงอะเล่นพวกนี้ ระบบต้องทดสอบมาดีหลายๆปีหน่อยมี Winrate ชัดเจน พวกที่มาสอนๆกันก็ราคาไม่ใช่ถูกๆ ส่วนมากจะตายกันเยอะมากช่วงตลาด sideway ซึ่งผมหมดไปเยอะพอควร พอมองย้อนไปคงไม่ใช่แนวของเราจริงนั่นแหละ เพราะนั่งจดจ้องจอตลอดเวลาจนรู้สึกว่าไม่ใช่ละ ก็ออกไปหาความรู้ ทำงาน ลงทุนรูปแบบอื่นที่เหมาะกับชีวิตเรามากกว่า

หาความรู้เยอะๆ อัดพื้นฐานแน่นๆ คุณจะได้รู้ว่าคุณชอบสไตล์เทรดแบบไหน มันแยกย่อยเยอะมาก หลายๆ อันมันก็คาบเกี่ยวกัน

ต่อให้มีคนมาบอกคุณให้ทำแบบนี้เป็นสเต็ป 1234 แต่ธรรมชาติมนุษย์สุดท้ายคุณก็จะไม่ทำตาม 100% แล้วจะลองคิดค้นวิธีขึ้นมาใหม่ ถ้าคุณความรู้ไม่มีคุณก็จะไม่รู้ว่า ทั่งระบบเดิมและอันใหม่ มันผิดยังไง เวลาคุณไปผิดทาง ต้องปรับยังไง

พอหาสไตล์ได้แล้ว ก็ backtest ครับ ดูว่าระบบใช้งานได้จริงไหม รวมไปถึง demo/paper trade ด้วย เพื่อดูตลาดจริงและสภาพอารมณ์ตอนเทรด

สุดท้ายก็วินัยครับ ยึดให้ได้ตามแผน พอเป็นเงินจริงอารมณ์มันพลุ่งพล่านครับ

ทางทฤษฎีดูเหมือนง่ายใช่ไหมครับ แต่ปฏิบัติมันยากครับ เหมือนวิธีเรียนยังไงให้ได้เกียรตินิยม หรือ ทำไงให้หุ่นดีมีซิคแพค คนส่วนมากรู้วิธีครับ แต่มีไม่กี่คนที่ทำได้ เพราะ วินัย ล้วนๆ เลย

ส่วนเรื่องความรู้ ตอนเริ่มผมไม่ค่อยดูของฝั่งไทยเลยไม่รู้จะแนะนำใคร แต่แนะนำได้นิดหน่อยว่า(ความเห็นส่วนตัวล้วนๆนะ) 1. ถ้าโค้ชคุณบอกไม่ต้องใช้ stop loss หนีไปครับ 2.ถ้ามือใหม่ให้เรื่มเทรดทองเลย ก็ไม่ควรครับ ตลาดผันผวนสูง คลานยังไม่เป็น อย่าพึ่งไปวิ่ง เก่งแล้วค่อยไปลอง

1 กระบวนท่าที่ชัดและทำซ้ำได้

2 วินัยที่ไม่เล่นนอกแผน

จะมาตอบ Money Management แต่มีคนตอบไปแล้ว

เอาง่ายๆเลย คนไม่เข้าใจว่าคืออะไร ปกติไม่ว่า trade หรือ ลงทุน หลักการมีแค่
1. winrate คุณ กี่ %
2 ทุกครั้งที่คุณได้หรือเสียคุณ มันเป็นกี่เท่าของ position ที่ซื้อ หรือ กี่% ของ port size

เช่น บางคน trade เก่งมาก winrate 99% แต่ all in ทุกครั้ง port โตเร็วมาก แต่พอเจอ 1% หมดตัวทันที นั่น คือ คนส่วนใหญ่ในโลกนี้

แต่คนที่ trade เป็น winrate ไม่ได้สูง อาจจะ 30% แต่ risk reward ratio เป็น บวก ขอแค่เป็นบวก ก็จะอยู่ในตลาดไปได้ยาวและหาเงินได้ ถ้าแบ่ง position เป็นไม่น้อยเกินไป

ท้ายที่สุดมันคือการ เวลา เสียต้องเสียน้อย แต่ได้มากกว่าเสีย

จากประสบการณ์ Parttime Trader นะครับ (เจียดเงินเดือน 5% มาลงทุน)

แน่นอนว่า ผมยังไม่สามารถเทรดจนถึงจุดที่เป็น Fulltime ได้ เพราะแม้ว่าจะเทรดบางเดือนได้มากกว่าเงินเดือน

เพราะผมเล่นจนเข้าใจว่า เวลาตลาดมันแจกมันก็ใจดี แต่เวลามันเอาคืน ก็เอาเรื่องเหมือนกัน

ผมว่าคนที่ประสบความสำเร็จ ทั้งคนใกล้ตัว หรือว่าพวก Trader ที่รู้จักๆ

เท่าที่จับ Keypoint พวกนี้ได้ คือเค้าเข้าตามระบบ มี MM แล้วที่สำคัญ ใจเค้านิ่งพอที่จะเทรดได้ครับ

บางจังหวะ สภาวะใจในการเทรด มันสำคัญพอสมควรนะครับ เพราะถ้าสภาวะใจนิ่ง เวลาเราพิจารณาการเข้า Order พวกเทรดสำเร็จจริงๆ เค้าเหมือน Auto เลยด้วยซ้ำครับ จนแทบจะเป็น Habit แล้วเค้าก็มีแผนออกทุกครั่้ง

ซึ่งเรื่องสภาวะจิตตอนเทรด มันเป็นอะไรที่คนมันมองข้ามจริงๆ

เพราะต่อให้คุณ Backtest/Forward test แค่ไหนก็ตาม แต่พอตลาดจริง สภาวะจิตเรา จะไปนึกสิ่งที่เราผิดพลาดก่อนครับ จนบางทีเราก็ทำเหมือนๆตอนที่เราเทรดพลาดนี้ละครับ

เพราะงั้น คนส่วนใหญ่ที่พลาด เพราะเค้าไม่ได้พิจารณาความผิดพลาด จนมันกลายเป็นความกลัวนี้ละครับ จนออกจากตลาดไป

มันมีอยู่สามอย่างนะที่สำคัญสำหรับการเป็นเทรดเดอร์
เงินทุน - ทั้งเงินสำหรับเทรด และเงินสำหรับใช้ชีวิตถ้าจะเทรดอย่างเดียวไม่ทำมาหากินอย่างอื่น
ความรู้ - เทคนิคในการเทรด จะ ema rsi ict smc อะไรก็ว่ากันไปตามสไตล์ใครสไตล์มัน รวมไปถึงมันนีเมเนจไปด้วย แต่พวกนี้มันมีกันอยู่แล้วแหละ
จิตใจ - ไอ้นี่แหละสำคัญที่สุดไว้ตัดตัวเลย คัด 5% ออกจาก 95% ทำไงจะคุมอารมณ์ให้อยู่ แพ้เป็น ทำตามแผนได้ ไม่โฟโม เสียแล้วเลิกได้
ถ้าเสียแล้วหยุดไม่ได้ สติหลุด หน้ามืด อันนี้จบเลยพอร์ตแตกได้เลย หรือติดเล่นแบบเปิดมาต้องเล่นให้ได้ กราฟเชี่ยแค่ไหนก็จะเล่น อันนี้ก็ชิบหายพอกัน
มีโค้ชคนนึงเคยบอกผมว่า เทรดให้เหมือนนักกีฬา เวลาอยู่หน้างานเห็นกราฟมันขึ้นๆลงๆแล้วคุมสติได้เมื่อไหร่ก็นั่นแหละ หากินเป็นอาชีพได้

จากที่รุ้จากน้องที่สนิท ถ้า port ไม่ใหญ่พอ 20m + ถ้าเจอจังหวะเทรดยากๆ รายได้มันไม่พอ ทำอย่างอื่นได้เยอะกว่า
กับเพื่อนสนิทน้องมัน ทุนหนาและพ่อเขาเทรดเป็นอาชีพเขาเลยสอนลูก พอทแตกก็เติมเงิน แต่พวกนี้เขามีธุรกิจข้างนอกอยู่อีกด้วย คนส่วนใหญ่ จะมีต้นทุนมาลองผิดถูก ขนาดนั้นส่วนใหญ่มีธุรกิจอยู่แล้วซึ่งรายได้มั่นคงกว่า คนรวยหลายคนที่รุ้จัก ใช้เงินเป็น ตัวเพิ่ม wealth มากกว่า เพราะถ้าต้นมันใหญ่พอมัน ก็ financial freedom อยุ่

ให้ตอบแบบรวมๆเลยก็คือเรื่องสภาพจิตใจ หรือ วิธีคิด (mindset) นี่แหละครับที่ทำให้คนส่วนมากไปไม่ถึงจุดที่ตั้งใจ

อาชีพนี้มันมีทักษะหลายอย่างที่จำเป็น แต่คนมักจะมองแค่ว่าต้องอ่านกราฟให้แม่น ถึงจะเทรดได้กำไร ซึ่งมันไม่จริง

หลักๆจะมีด้วยการ 3 ส่วนใหญ่ๆที่ต้องเรียนรู้

1. Techical skill - จำเป็นที่จะต้องพอรู้ไว้บ้างครับ เรื่องของการใช้เครื่องมือในการเทรด ท่าเทรด หรือเทคนิคต่างๆที่ใช้ เพื่อที่เราจะได้มีไอเดียในการนำไปสร้างระบบเทรดของเราต่อ ระบบเทรดก็ควรจะต้องเป็นระบบที่ชัดเจน เช่น ถ้าเราสอนคนๆนึงเทรดด้วยเทคนิคนี้ ทั้งเราและเค้าก็ต้องเห็นจุดเข้า order จุดเดียวกันเป๊ะๆ รวมถึง exit plan ด้วย แต่ส่วนใหญ่หลายคนมักเทรดด้วยความรู้สึกมากกว่าระบบ

2. Money management - มันคือเรื่องการบริหารหน้าตักครับ บางคนมีระบบแล้วแต่พอจะออก order ดันไม่รู้ว่าต้องวางเงินเท่าไหร่ บางคนบอกทุนเท่านี้ ออก lot เท่านี้ ซึ่งลึกๆมันไม่ถูกซะทีเดียวครับ เราจำเป็นต้องรู้ก่อนว่าระบบเราแพ้ติดกันกี่ไม้, win rate มีเท่าไหร่, Expected Value เท่าไหร่, Average RR เท่าไหร่ ถึงจะพอคำนวณได้ว่าเราควรวางความเสี่ยงเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม บางคนพอไม่ได้คำนวณก็กลายเป็น overtrade โดยไม่รู้ตัว ซึ่งระบบของแต่ละคนค่าต่างๆมันไม่มีทางเหมือนกันอยู่แล้วครับ มันเลยไม่สามารถจะบอกค่ากลางๆได้ โดยที่ไม่มีข้อมูล ซึ่งข้อมูลก็มาจากการจดบันทึกหรือทำ backtest

3. Mindset - ส่วนที่สำคัญที่สุด แล้วคนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยให้ความสำคัญด้วยครับ เพราะคิดว่ารู้แค่ 2 อย่างแรกก็พอแล้ว แต่จริงๆแล้วเทคนิคมันจบไปตั้งแต่กดเข้า order แล้วครับ หลังจากนั้นเป็นเรื่องของตัวเราเองล้วนๆ mindset ถึงสำคัญมากๆ จังหวะที่กราฟมันวิ่งผิดทางจากที่ประเมิณคุณกล้าที่จะ cut ทิ้งมั้ย หรือถ้าวิ่งถูกทางคุณกล้าที่จะถือให้ถึงเป้าตามแผนมั้ย ระหว่างทางถ้ามีจังหวะย่อแรงๆ ยังกล้าถือเพื่อเอากำไรตามแผนหรือโดดออกแล้วสุดท้ายกราฟวิ่งไปชน ​TP

ทั้งหมดนี่คือความเห็นส่วนตัวจากประสบการณ์ที่ปัจจุบันก็ทำอาชีพนี้อยู่

mindset คือสิ่งสุดท้าย ความรู้คือด่านแรกครับ

กลุ่มเทรด คอร์สเรียน หรือหัวแถวระดับแนวหน้าในไทย คอร์สสอนมีคนเรียนเกือบแสน

สุดท้ายรอดออกมา อยู่ในตลาดได้แค่ 10 20 คนเอง

วิชาเดียวกัน เรียนเล่มเดียวกัน คนสอนเดียวกัน

แต่ความรู้ก็สำคัญมากครับ ลำดับมันเป็นแบบนี้ ทุกอันคือ process ของการเชื่อมกันไปจนถึงความสำเร็จ

ความรู้ >> Money Management >> Mindset