กันงงมาแซะทำไมพร้อมชี้แจงเงินบริจาค
“กัน จอมพลัง” สงสัย มาแซะกันทำไม พร้อมแจงการรับบริจาคเงินเข้ามูลนิธิ มีเอกสารส่งสรรพากรทุกปี เผยมีเงินออกจากมูลนิธิไปกว่า 100 ล้านบาท ในการสนับสนุนภารกิจ ยันไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง วอนอย่าโยงตนเองกับบุคคลต่างๆ โอด รู้อยู่แล้ววันหนึ่งต้องโดนเล่นงาน
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 16 ต.ค.68 นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ"กัน จอมพลัง" ให้สัมภาษณ์ กรณีที่ สส.ไอซ์ รักชนก ศรีนอก สส.พรรคประชาชน มีการโพสต์ ตั้งข้อสงสัยเรื่องเงินบริจาคของมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ และถามถึงความสนิทสนมกับ คุณ ธรรมนัส พรมเผ่า จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อสังคมโซเชียลมีเดีย
นายกัณฐัศว์ กล่าวว่า ตอนนี้ตนยังไม่รู้เลยว่า เกิดอะไรขึ้นและอีกฝ่ายพูดถึงทำไม ตนก็ตั้งหน้าตั้งตาทำภารกิจอยู่ที่ชายแดน ไม่รู้ว่าสิ่งที่อีกฝ่ายไม่ชอบคืออะไร จากที่จับประเด็นได้คือ อีกฝ่ายอยากให้ช่วยเรื่องคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งตนก็ยินดีเนื่องจากว่าที่ผ่านมามีการทำงานร่วมกับตำรวจไซเบอร์เรื่องการผลักดันแก๊งคอลเซ็นเตอร์แบบนี้มานานแล้ว มีการสนับสนุนทุกกิจกรรมว่าจะต้องระวังแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างไรบ้าง
ส่วนที่อีกฝ่ายบอกว่าอยากให้คุณกันช่วยติดต่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีตนขอพูดจากใจ โดยไม่ต้องการจะกระแนะกระแหนว่า ตนเองไม่เคยติดต่อท่านเป็นการส่วนตัว ในฐานะของประชาชนมองว่านักการเมืองที่อยู่ในสภาติดต่อได้ง่ายกว่า ตนเอง จึงไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องมาฝากให้ตนเป็นคนติดต่อ
เรื่องที่มีการโพสต์เมื่อเช้า ยอมรับว่าเป็นการตัดพ้อ เนื่องจากเมื่อเช้า ตื่นมามีแบรนด์ที่ติดต่อให้ตนไปไลฟ์ เราสด 10 นาที เป็นเงิน 600,000 กว่าบาท ก็ถูกยกเลิกไป ซึ่งตนก็เข้าใจได้ เนื่องจาก เจ้าของแบรนด์หลายคนก็ไม่อยากให้มีกระแสข่าวที่ไม่ดีออกไป เนื่องจากว่าตัวเองก็เป็นประชาชนคนนึงยังต้องทำมาหากินและนำเงินมาเลี้ยงดูครอบครัวเช่นเดียวกัน และก็จะนำเงินบางส่วนไปสนับสนุนภารกิจชายแดน
ส่วนเรื่องเงินบริจาคของมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ ว่ามีเงินบริจาคทั้งหมดกี่บาทนั้น ถ้าจะให้นับรายจ่าย ในตอนนี้ก็มีเงินออกไปสนับสนุนภารกิจชายแดนมากกว่า 100 ล้านบาทแล้ว ซึ่งต้องย้อนกลับไปดูรายรับทั้งหมด ตั้งแต่เสร็จสิ้นภารกิจตึก สตง.ถล่มแล้ว มีรายรับเข้ามาเป็นจำนวนเงินกี่บาท ซึ่งถ้าหากมีการรวบรวมจำนวนเงินเรียบร้อยแล้วก็จะมีการแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
ยืนยัน ได้ว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ ไม่เคยใช้ของมูลนิธิ เนื่องจากตนไม่ได้มีอำนาจในการอนุมัติเบิกจ่าย จึงเป็นเหตุผลที่ตนจะต้องมีการโพสต์ข้อความถามประชาชนอยู่ตลอดว่า เห็นด้วยหรือไม่ เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจ และขอย้ำว่าเงินส่วนนี้เป็นเงินคนละก้อนกับมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ ซึ่งมีการยืนยัน ส่งเอกสารไปยังกรมสรรพากรทุกปี สามารถตรวจสอบที่มาของเงินได้ทุกอย่าง พร้อมบอกด้วยว่ารู้อยู่แล้ววันหนึ่งต้องโดนเล่นงาน
กรณี ความขัดแย้งทางด้านการเมือง ถ้านักการเมืองจะไม่ชอบกัน หรือ มีปัญหากัน ก็วอนขออย่าดึงตนเข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะว่าเหตุการณ์เมื่อวานนี้ที่อีกฝ่ายแท็กหาตน ตนก็เชื่ออย่างจริงใจว่าต้องการความช่วยเหลือจริงๆแต่ภายหลังมาทราบจากคอมเม้นต์และหลายคนบอกว่า มันคือการปั่นและการแซะ ซึ่งย้ำเจตนาเลยว่า ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดแบบนั้น และพร้อมที่จะทำงานร่วมกับทุกฝ่าย
ส่วนเรื่องประเด็นที่ ตนรู้จักกับคุณธรรมนัส และก็เข้าใจว่าหลายคนไม่อาจจะไม่ชอบคุณธรรมนัส แต่ตนเองก็สงสัยว่า แล้วจำเป็นจะต้องไม่ชอบตนด้วยหรอ ทำไมถึงเกลียดผมไปด้วยโดยที่ผมไม่ได้ทำอะไรเลย เนื่องจากที่ผ่านมาตนเองก็ รู้จักนักการเมืองหลายคน บางคนสนิทกับคุณธรรมนัสมากกว่าตนเองด้วยซ้ำ เพราะตนเองทำงาน กับหลายหน่วยงาน ในการช่วยเหลือสังคม ซึ่งก็มีการประสานงานและพูดคุยกับนักการเมืองทุกฝ่าย พอรัฐบาลมีการเปลี่ยนผ่านชุดคณะทำงาน ก็มักจะได้เจอหลากหลายฝ่าย ทำให้รู้จักคนเยอะ แม้ว่าบางคนรู้จักกันตั้งแต่สมัยเป็นรัฐมนตรี ปัจจุบันไม่ได้มีตำแหน่งอะไรทางการ ก็ยังประสานงานพูดคุยให้กำลังใจกันเรื่อยๆ จึงไม่อยากให้เอามาเชื่อมโยงเกี่ยวกัน เพราะตนเองก็ยึดมั่นและพูดต่อหน้าสื่อมาโดยตลอด ว่าจะไม่เล่นการเมืองเด็ดขาด ในวันนี้ก็ยังยืนยันคำเดิม
สุดท้ายนี้ ตนเองเพิ่งจะมีโอกาสได้เจอหน้าครอบครัว ในรอบหลายเดือนที่อยู่แต่หน้างาน ชายแดน แทบไม่มีเวลาให้ครอบครัวเลย วันนี้ ก็ถือว่าได้รับกำลังใจจากคนในครอบครัว แม้ว่าจะถูกกระแสโจมตี แต่ในส่วนของการทำงาน ก็ยังคงดำเนินการต่อไป ยอมรับว่าตอนนี้รู้สึกเหนื่อย และหมดกำลังใจ หากพร้อมเมื่อไหร่ ก็จะกลับไปลงพื้นที่อีกครั้งด้วย
https://ch3plus.com/news/social/morning/449774