BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 10 Feb 2010
ตอบ: 2597
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 14, 2025 17:01
*** แบงก์ชาติ ชี้เงินเฟ้อต่ำ 0.5% ***

UPDATE: กางจดหมายเปิดผนึก ‘แบงก์ชาติ’ ชี้แจงเงินเฟ้อต่ำกว่ากรอบเป้าหมาย

อ่านแบบยาว
Spoil
อ้างอิงจาก:
.
กางจดหมายเปิดผนึก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลงวันที่เมื่อ 29 กันยายน 2568 ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงการเคลื่อนไหวของอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 12 เดือนที่ผ่านมา และ 12 เดือนข้างหน้าต่ำกว่ากรอบล่างของกรอบเป้าหมายนโยบายการเงิน
.
ตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตกลงร่วมกัน เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567 กำหนดให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในช่วง 1–3% เป็นเป้าหมาย นโยบายการเงินสำหรับการดูแลเสถียรภาพราคาสำหรับระยะปานกลาง และเป็นเป้าหมายสำหรับปี 2568 โดยระบุให้ กนง. ชี้แจงเปิดเผยต่อสาธารณชน เมื่ออัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 12 เดือนที่ผ่านมาหรือประมาณการอัตราเงินเฟ้อ ทั่วไปเฉลี่ย 12 เดือนข้างหน้าเคลื่อนไหวออกนอกกรอบเป้าหมายนั้น
.
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2568 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของเดือนกรกฎาคม 2568 ที่เผยแพร่โดย กระทรวงพาณิชย์อยู่ที่ -0.7% ทำให้เฉลี่ย 12 เดือนที่ผ่านมา (สิงหาคม 2567 ถึง เดือนกรกฎาคม 2568) อยู่ที่ 0.5% ประกอบกับในรายงานนโยบายการเงินไตรมาสที่ 2 ปี 2568 กนง. ประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 12 เดือนข้างหน้า (เดือนสิงหาคม 2568 ถึงเดือนกรกฎาคม 2569) จะอยู่ต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมายนโยบายการเงินในปัจจุบัน ดังนั้น กนง. จึงขอเรียนชี้แจงใน ประเด็น ได้แก่
.
1. เงินเฟ้อ และนัยต่อเศรษฐกิจและเสถียรภาพด้านราคา
2. บทบาทของนโยบายการเงินในการดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงิน
3. แนวโน้มเงินเฟ้อในระยะข้างหน้า และระยะเวลาที่คาดว่าจะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมาย โดยมีรายละเอียด ดังนี้
.
เงินเฟ้อที่ต่ำ และนัยต่อเศรษฐกิจและเสถียรภาพราคา
.
กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 1-3% มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคา ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ผ่านการเป็นเป้าหมายในการดำเนิน นโยบายการเงินในระยะปานกลาง ดังนั้น เงินเฟ้อจึงยืนยันอ่อนนอกกรอบได้บ้างในระยะสั้น ตราบใด ที่เงินเฟ้อไม่ได้สร้างความเสี่ยงต่อเสถียรภาพด้านราคาและเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ ทั้งนี้ กนง. ประเมินว่าเงินเฟ้อในปัจจุบันยังไม่ได้มีความเสี่ยงดังกล่าว เนื่องจาก ปัจจัยต่างๆ ดังนี้
.
ปัจจัยแรก อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำกว่ากรอบเป้าหมายมาจากปัจจัยด้านอุปทาน
.
และไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 12 เดือนที่ผ่านมา ต่ำกว่ากรอบเป้าหมายจากปัจจัยด้าน อุปทานในหมวดพลังงานและอาหารสดเป็นสำคัญ โดยราคาพลังงานลดลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก จากค่าเฉลี่ย 12 เดือนก่อนหน้าที่ 85 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรล เป็นเฉลี่ยที่ 73 ดอลลาร์ สรอ. ต่อ บาร์เรล (เดือนสิงหาคม 2567 ถึงเดือนกรกฎาคม 2568) เนื่องจากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลก ประกอบกับมาตรการในการช่วยเหลือค่าครองชีพผ่านการลดค่าไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคา หมวดพลังงานหดตัวที่ 1.7% สำหรับหมวดอาหารสดขยายตัวในระดับต่ำที่ 0.6% โดยราคาผัก สดตามฤดูกาลผลิตที่เพิ่มขึ้นจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย ประกอบกับฐานที่สูงจากสถานการณ์ภัยแล้ง ในปีก่อน ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 12 เดือนที่ผ่านมาที่ 0.5% เป็นผลจากราคา พลังงานและอาหารสดที่ติดลบ 0.1% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังที่ 1.0%
.
ในส่วนของอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน หดตัวอยู่ที่เฉลี่ย 0.9% ในช่วง 12 เดือน ที่ผ่านมา เป็นผลจากการที่ผู้ประกอบการส่งผ่านต้นทุนไปยังราคาได้ไม่มาก เนื่องจากราคาพลังงาน ที่เป็นต้นทุนหลักในการผลิตปรับลดลง นอกจากนี้ การที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานไม่เร่งขึ้น สวนทาง สะท้อนเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวช้าจากปัญหาเชิงโครงสร้างภาวะการผลิตที่เผชิญการแข่งขันที่ เข้มข้นขึ้นจากสินค้าราคาถูกจากต่างประเทศ รวมทั้งอภิปรายกับความสามารถในการแข่งขันของ ประเทศทั้งในแง่คุณภาพแรงงานและเทคโนโลยี ทำให้ผู้ประกอบการปรับขึ้นราคาได้ยาก
.
ดังนั้น อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำเป็นส่วนสะท้อนราคาที่ผ่านมาภายใต้การผลิต แต่ไม่ได้เป็นเหตุที่ทำให้ เศรษฐกิจขยายตัวช้า สอดคล้องกับผลสำรวจภาคธุรกิจจำนวน 571 ราย ในเดือนกรกฎาคม 2568 ที่พบว่าปัจจัยหลักที่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุนของภาคธุรกิจที่แท้จริง คือ อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำ แต่เป็นภาวะอิ่มตัว และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ และการแข่งขันที่อยู่ในระดับสูง
.
ปัจจัยที่ 2 เงินเฟ้อที่ต่ำไม่ได้สะท้อนถึงภาวะเงินฝืด และช่วยบรรเทาค่าครองชีพประชาชน
.
กนง. ให้ความสำคัญกับการติดตามพัฒนาการของเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด เพื่อ ไม่ให้เงินเฟ้อที่ต่ำกลายเป็นการเงินฝืด หรือที่เกิดจากต่อเนื่องยาวนานจนสร้างความเสี่ยง ให้กับเศรษฐกิจที่ผู้บริโภคจะชะลอการบริโภคสินค้าและบริการ เนื่องจากคาดว่าราคาจะลดลงอีกเป็นวงกว้าง
.
โดยปัจจุบันยังไม่มีสัญญาณความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเงินฝืด ซึ่งการขับเคลื่อนในภาพรวม แม้ชะลอลงบ้าง แต่ยังเติบโตได้ สะท้อนจากภาษีภาคเอกชนในไตรมาสที่ 1 และ 2 ปี 2568 ขยายตัวที่ 2.5% และ 2.1% นอกจากนี้ ราคาสินค้าและบริการราย 60% ของสินค้าในตะกร้า เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นหรือไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่ราคาสินค้าที่ปรับลดลงมีน้อยในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาส่วนใหญ่ เงินเฟ้อในหมวดพลังงานและอาหารสด ซึ่งจากปัจจัยด้านอุปทาน โดยอัตราเงินเฟ้อ ในระยะกลางยังอยู่กรอบเป้าหมาย โดยอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ใน 5 ปี ข้างหน้า ที่จากผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจของ Asia Pacific Consensus Economics ณ เดือนเมษายน 2568 และข้อมูลคาดการณ์ ณ เดือนมิถุนายน 2568 อยู่ที่ 1.6% อีกทั้งในแง่สัญญาเงินเฟ้อที่ นำไปสู่การปรับลดราคาจ้าง โดยค่าแรงงานในครึ่งแรกของปี 2568 ขยายตัวที่ 4.6%
.
แม้อัตราเงินเฟ้อโดยทั่วไปอยู่ในระดับต่ำ แต่ค่าครองชีพของประชาชนยังทรงตัวในระดับสูง ต่อเนื่อง จากราคาสินค้าเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นปี 2565 และไม่ได้ปรับลดลงมาก โดยราคาสินค้า รายการ อาทิ น้ำตาล น้ำมันพืช และน้ำดื่มบรรจุขวด อยู่ในระดับสูงกว่าช่วงก่อนเกิดโรคระบาด โดยมีรายการสินค้าที่สำคัญ เช่น ยารักษาโรค เครื่องนุ่งห่ม และเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ซึ่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งในบทบาทเงินเฟ้อพื้นฐาน และเงินเฟ้อ โดยรายได้เติบโตประกอบกับครัวเรือนที่ถูกกดดันจากภาระหนี้ และภาคธุรกิจเผชิญต้นทุน ที่อยู่ในระดับสูง อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำจึงมีส่วนช่วยบรรเทาค่าครองชีพของประชาชน และช่วยรักษา ขีดความสามารถในการแข่งขันราคาของภาคธุรกิจได้
.
บทบาทของนโยบายการเงินในการดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงิน
.
การดำเนินนโยบายการเงินต้องคำนึงถึงความเสี่ยงด้านต่าง ๆ ต่อเสถียรภาพ
.
เศรษฐกิจการเงิน ภายใต้กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อแบบยืดหยุ่น (Flexible Inflation Targeting: FIT) กนง. มุ่งดูแลเสถียรภาพด้านราคา ควบคู่ไปกับเสถียรภาพด้านการเงิน
.
โดยเสถียรภาพด้านราคาหมายถึงการดูแลอัตราเงินเฟ้อในระยะปานกลาง ให้อยู่ในระดับต่ำและไม่ผันผวน (low and stable) ผ่านการมีเป้าหมายเงินเฟ้อแบบช่วงที่ 1-3% ที่ทำหน้าที่เป็น “หลักยึด” ให้กับการดำเนินนโยบายของประชาชนและธุรกิจ ซึ่งมีสาระสำคัญ ว่า เงินเฟ้อในระยะปานกลางจะอยู่ในเป้าหมาย กนง. จะใช้อัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อ เป้าหมายด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจและเสถียรภาพของระบบการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อให้เงินเฟ้อเป้าหมายตลอดเวลา จนนำไปสู่ความเสี่ยง ต่อเศรษฐกิจและระบบการเงิน
.
กนง. ให้ความสำคัญกับความเสี่ยงด้านต่าง ๆ ต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงิน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว และพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 3 ครั้ง ในปี 2568 รวม 0.75% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมาอยู่ที่ 1.50% จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ขยายตัว ชะลอลงและมีความเสี่ยงด้านต่ำมากขึ้นเป็นสำคัญ โดยเฉพาะผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากนโยบาย การค้าโลก และภาวะการเงินที่ตึงตัวตามเงื่อนไขที่หดตัวต่อเนื่องจากความเสี่ยงด้านเครดิต โดยเฉพาะในกลุ่ม SMEs และครัวเรือนรายได้ต่ำ
.
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำกว่ากรอบเป้าหมายไม่ได้สร้างความเสี่ยง ต่อเสถียรภาพด้านราคา โดยอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ทรงตัวในระดับต่ำไม่ได้สะท้อนภาวะเงินฝืด และ ไม่ได้เป็นต้นเหตุให้เศรษฐกิจชะลอลง สำหรับความเสี่ยงด้านเสถียรภาพระบบการเงินโดยรวมปรับลดลง จากการปรับลดสัดส่วนหนี้ต่อรายได้ (debt deleveraging) ที่กำลังดำเนินไปอย่างต่อเนื่องสอดคล้องกับ วัฏจักรสินเชื่อ (credit cycle) ที่อยู่ในช่วงขาลง ดังนั้น กนง. จึงปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อให้ ภาวะการเงินผ่อนคลายสอดคล้องกับแนวโน้มและความเสี่ยงของเศรษฐกิจรวม ช่วยลดภาวะดอกเบี้ย ของภาคธุรกิจและครัวเรือนลงได้บ้าง
.
ทั้งนี้ เทียบกับแนวโน้มเศรษฐกิจ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ผ่านมาไม่ได้ช้าหรือ น้อยเกินไป (behind the curve) โดย กนง. ได้ประเมินสภาพเศรษฐกิจที่ขยายตัวชะลอลงไว้แล้ว ในการกำหนดนโยบาย และส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจที่อยู่นอกกรอบซึ่งเป็นความเสี่ยงที่ กนง. ประเมินไว้ ซึ่งช่วง ที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง กนง. จะดำเนินนโยบายการเงินที่อิงกับแนวโน้มเศรษฐกิจ (outlook dependent) โดยหากการเดินทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลงกว่าที่ประเมินไว้ กนง. ก็พร้อมจะปรับเปลี่ยน นโยบายให้เหมาะสม
.
อัตราดอกเบี้ยมีผลจำกัดในการดูแลเงินเฟ้อที่มาจากปัจจัยด้านอุปทาน
.
การผ่อนคลายนโยบายการเงินมากกว่าในปัจจุบันไม่ช่วยให้อัตราเงินเฟ้อกลับเข้าสู่ กรอบเป้าหมายได้เร็วขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำเป็นผลจากปัจจัย ด้านอุปทาน ซึ่งนโยบายการเงินไม่สามารถควบคุมได้โดยตรง นอกจากนี้ ภายใต้บริบทที่การชะลอตัวของ เศรษฐกิจมีต้นตอจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง การลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเดียวอาจกระตุ้นเศรษฐกิจได้ จำกัด โดยอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.50% ถือว่าอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ย นโยบายของไทยในอดีตและอัตราดอกเบี้ยนโยบายของต่างประเทศในปัจจุบัน
.
ขณะที่การลดอัตราดอกเบี้ย ให้มากเกินระยะเวลาและขนาดนำไปสู่ภาระความเสี่ยงในระยะยาว เช่น ภาระหนี้ที่เกินตัว การสะสม และการลงทุนที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ควร ทิ้งท้ายด้วยความไม่แน่นอน ในระยะข้างหน้ายังอยู่ในระดับสูง การรักษาสมดุลทางในการดำเนินนโยบาย (policy buffer) จึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้นโยบายการเงินสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างทันท่วงที และมีประสิทธิภาพ
.
ในบริบทที่เศรษฐกิจเผชิญความท้าทาย การใช้อัตราดอกเบี้ยนโยบายควบคู่ไปกับ การใช้เครื่องมือเชิงนโยบายอื่น (integrated policy) มาช่วยตอบโจทย์อย่างตรงจุด จะช่วยให้ การดำเนินนโยบายการเงินมีประสิทธิภาพและลดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ กนง. เห็นว่าปัญหาหลัก ของเศรษฐกิจไทย คือ ปัญหาเชิงโครงสร้างที่ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันและทำให้ การเติบโตชะลอลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการที่ภาคธุรกิจมีความเสี่ยงด้านเครดิตสูงจะถูกกดดัน ที่รุนแรงขึ้น การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจึงมีส่วนบรรเทาภาระและสนับสนุนให้ภาคธุรกิจปรับตัวได้บ้าง ซึ่งควรดำเนินการควบคู่ไปกับมาตรการที่ช่วยแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างหรือปัญหาการเข้าถึงสินเชื่อของ SMEs อาทิ กลไกการค้ำประกันสินเชื่อ และการสนับสนุนให้ SMEs ปรับตัวและเพิ่มความสามารถ ในการแข่งขัน เพื่อให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้อย่างมีเสถียรภาพ
.
แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในระยะข้างหน้า และระยะเวลาที่คาดว่าจะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมาย
.
ในระยะข้างหน้า กนง. ประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะยังคงอยู่ในระดับต่ำ ภายใต้ ข้อสมมติที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะทรงตัวอยู่ในระดับต่ำไปอีกระยะ ตามการเพิ่มขึ้นของอุปทาน น้ำมันดิบ ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น และจะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมาย ได้ในช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2570 ตามราคาคาน้ำมันดิบที่ไม่ได้ลดลงต่อเนื่อง โดยเป็นผลจากอุปสงค์และอุปทาน ในตลาดน้ำมันที่สมดุลขึ้น ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มทรงตัวใกล้เคียง 1% ตลอดช่วง ปี 2568 ถึงปี 2570
.
กนง. จะติดตามพัฒนาการของเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด เพื่อดูแลให้อัตราเงินเฟ้อในระยะ ปานกลางไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป จนกระทบต่อเศรษฐกิจและภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมในการแข่งขัน และลงทุน โดยความเสี่ยงสำคัญได้แก่ (1) การชะลอตัวของเงินเฟ้อจากราคาสินค้าและบริการที่ปรับ ลดลงเป็นวงกว้าง จนทำให้อัตราเงินเฟ้อในระยะปานกลางไม่อยู่ในกรอบเป้าหมาย (2) แนวโน้มของ ราคาพลังงานโลกที่อาจเปลี่ยนแปลงตามความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์โลก และ (3) การปรับห่วงโซ่ การผลิตและผลกระทบของการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นตามภูมิเทคนิคการค้าโลกแก่ราคาสินค้า
.
ทั้งนี้ ตามที่ตกลงร่วมกันระหว่าง กนง. และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567 หากใน 6 เดือนข้างหน้า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 12 เดือนที่ผ่านมา หรือประมาณการ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 12 เดือนข้างหน้า ยังคงเคลื่อนไหวออกนอกกรอบเป้าหมาย กนง. จะมีจดหมาย เปิดผนึกถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอีกครั้ง เพื่อเป็นการสื่อสารและสร้างความเชื่อมั่นในการดูแล เสถียรภาพราคาให้แก่สาธารณชนเป็นการทั่วไป
.
อ้างอิง:  
 


สรุปแบบสั้น จุ๊ดจู๋

ตอนนี้ “เงินเฟ้อไทย” ต่ำกว่ากรอบเป้าหมาย 1–3% เหลือเฉลี่ยแค่ 0.5%
เพราะราคาน้ำมัน–อาหารลดลง ไม่ใช่เศรษฐกิจฝืด

➡️ แปลว่า “ของแพงขึ้นนิดเดียว”
อำนาจซื้อของเงินแทบไม่ลด แต่สะท้อนว่าเศรษฐกิจโตช้า

ธปท. มองว่ายังไม่อันตราย และคาดว่าเงินเฟ้อจะกลับเข้าสู่กรอบได้ในปี 2570



แบงค์ชาติ โคตรสุดเลยครับ
ควบคุมเงินเฟ้อได้ดีมาก ยกนิ้วให้เลยครับ
ปล่อยให้ราคาทองที่ขึ้นเอา ขึ้นเอา มันหลอกแม่งเม่าเข้าซื้อต่อไป

แก้ไขล่าสุดโดย Aiyaham เมื่อ Tue Oct 14, 2025 17:04, ทั้งหมด 4 ครั้ง
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Mar 2019
ตอบ: 591
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 14, 2025 17:03
[RE: *** แบงก์ชาติ ชี้เงินเฟ้อต่ำ 0.5% ***]
ธปท.แบงค์เดียวจะควบคุมราคาทองคำยังไงหรอครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 10 Feb 2010
ตอบ: 2597
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 14, 2025 17:05
[RE: *** แบงก์ชาติ ชี้เงินเฟ้อต่ำ 0.5% ***]
Musicmaniac พิมพ์ว่า:
ธปท.แบงค์เดียวจะควบคุมราคาทองคำยังไงหรอครับ  


ราคาทองคำที่เพิ่มขึ้น สะท้อนPurchasing powerที่ลดลง ได้ดีระดับหนึง
แก้ไขล่าสุดโดย Aiyaham เมื่อ Tue Oct 14, 2025 17:06, ทั้งหมด 1 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งบุนเดสลีกา
Status: อิอิ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Mar 2020
ตอบ: 14497
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 14, 2025 17:05
*** แบงก์ชาติ ชี้เงินเฟ้อต่ำ 0.5% ***
เกี่ยวไรกับทอง งง
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 10 Feb 2010
ตอบ: 2597
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 14, 2025 17:08
[RE: *** แบงก์ชาติ ชี้เงินเฟ้อต่ำ 0.5% ***]
zinman พิมพ์ว่า:
เกี่ยวไรกับทอง งง  


ในทางเศรษฐศาสตร์ เมื่อมูลค่าเงินจริงลดลงจากเงินเฟ้อ
ความต้องการทองคำก็มักเพิ่มสูงขึ้น
เพราะนอกจากจะมีคุณค่าเชิงการลงทุนแล้ว
ทองคำยังเป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคง ดังนั้น
ที่หลายคนสงสัยว่าทองราคาขึ้นเพราะอะไร
ส่วนหนึ่งก็คือแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่กระตุ้นให้ผู้คนหันมาถือครองทองคำมากขึ้น
ราคาทองจึงปรับตัวสูงขึ้นตามความต้องการ



อารมณ์ แบงค์ชาติบอกประชาชนว่าเงินเฟ้อต่ำ
แต่ราคาทองคำบอกประชาชนว่าเงินเฟ้อสูง
แก้ไขล่าสุดโดย Aiyaham เมื่อ Tue Oct 14, 2025 17:11, ทั้งหมด 2 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Mar 2023
ตอบ: 1322
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 14, 2025 17:27
[RE: *** แบงก์ชาติ ชี้เงินเฟ้อต่ำ 0.5% ***]
จะลดอัตราดอกเบี้ยอีกมั้ยแบบนี้ อยากให้บาทสัก 35
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 8475
ที่อยู่: บนเขาหิมาลัย
โพสเมื่อ: Tue Oct 14, 2025 17:59
[RE: *** แบงก์ชาติ ชี้เงินเฟ้อต่ำ 0.5% ***]
ทองคำมันสูงจากตลาดโลก แบงค์ชาติจะไปควบคุมยังไง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 31 Jul 2009
ตอบ: 3726
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 14, 2025 18:27
[RE]*** แบงก์ชาติ ชี้เงินเฟ้อต่ำ 0.5% ***
ราคาทอง ไม่เกี่ยวกับ ธปท

ทอง มันคือราคาตลาดโลก แล้วมาคูณเงินบาท
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักบอลถ้วย ก.
Status: จิ้งจกเสพความเหงา
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 Feb 2021
ตอบ: 13448
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 14, 2025 18:57
[RE: *** แบงก์ชาติ ชี้เงินเฟ้อต่ำ 0.5% ***]
zinman พิมพ์ว่า:
เกี่ยวไรกับทอง งง  

ในมุมมองของ การรักษามูลค่า (Store of Value) ของสินทรัพย์
ราคาทองคำที่เพิ่มสูงขึ้น มักเป็นภาพสะท้อนของ ความไม่ไว้วางใจในสกุลเงิน (Fiat Currency) และเป็นตัวบ่งชี้ว่าอำนาจซื้อของเงินตรากำลังถูกกัดกร่อน
ทองคำถูกจัดเป็น สินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven Asset) ที่มีคุณสมบัติต่อต้านภาวะเงินเฟ้อ (Anti-Inflation) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้อำนาจซื้อลดลง

ถ้า Purchasing Power ของเงินลดลง (เช่น เกิดภาวะเงินเฟ้อ) เงิน 1 บาทจะซื้อทองคำได้น้อยลง

ในทางกลับกัน ราคาทองคำที่เพิ่มขึ้น จึงเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า "ทองคำ 1 หน่วย" ต้องแลกด้วย "จำนวนเงินที่มากขึ้น" เพื่อคงมูลค่าเท่าเดิม ซึ่งหมายความว่ามูลค่าของเงินได้ลดลงไปแล้ว

ดังนั้น การเฝ้าดูราคาทองคำ จึงเป็นวิธีหนึ่งที่นักลงทุนใช้ประเมินความเสี่ยงและวัดระดับความเชื่อมั่นในเสถียรภาพของค่าเงินและเศรษฐกิจโลกได้ดีในระดับหนึ่งครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลไทยพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 31 Oct 2009
ตอบ: 1547
ที่อยู่: เบื้องหลัง
โพสเมื่อ: Tue Oct 14, 2025 19:34
[RE]*** แบงก์ชาติ ชี้เงินเฟ้อต่ำ 0.5% ***
ตัวเลขเงินเฟ้อตามทฤษฎี ก็ตามนั้น แต่เงินเฟ้อของจริงปีนึงน่าจะเกือบ10% มูลค่าของเงินในมือปชช ก็ลดลงไปเรื่อยๆตามสภาพจริง

เรื่องทองก็ถูกต้องแล้วตามนั้น มูลค่าเงินในมือลดลง ต้องใช้เงินเยอะขึ้นถึงซื้อทองได้ ราคาตลาดโลกก็ขึ้นเพราะเมกาพิมพ์เงินมหาศาลเนี่ยแหละ เงินบาทไทยดูเหมือนแข็งเมื่อเทียบกับ USD แต่จริงๆแล้วมูลค่าลดลงเรื่อยๆแต่ช้ากว่า USD แค่นั้น เพราะเค้าพิมพ์เยอะมากกว่าเราเยอะ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel