ไม่มีอะไรมากครับ ช่วงนี้กำลังเป็นกระแสขี้นมา ตัวผมเลยมานั่งคิดๆพวกดาราเซเลปเขาสต็อคของกันเต็มคลังกันขนาดนี้เลยหรอ สิ่งของที่ขายๆกันก็ไม่ใช่ปัจจัยพื้นฐานของมนุษย์ บางอย่างก็ซ้ำๆกัน ถ้าเขาสต็อคของกันขนาดนี้อยู่แล้ว แสดงว่าเขาขายได้ด้วยตัวเขาเองโดยปกติอยู่แล้ว ทำไมเขาต้องมาจ้างคนอื่นไลฟ์ขายเพื่อเอากำไรน้อยลงขนาดนั้น

ดาราบางคนขายไม่เก่งเท่าเจนนี่ครับ ฐานแฟนคลับที่ซื้อของก็น้อยกว่า ยอมได้กำไรน้อยดีกว่าสต๊อกของแล้วขายไม่ออกครับ

สตอรี่เจนนี่ ก็คนสู้ชีวิตครับ เหมือนไปไอด้อลของคนกลุ่มนี้

คนละเรื่องเลยครับ วงการ สำอางค์ นี้มีคนรับทำอยุ่ไม่กี่คนซ้ำๆ กัน ต้องทำมากจะกดราคาทุนได้ระดับนึง เค้าคำนวนมาให้แล้วแบบพี่ป๋อ ดันมีมากจนขายไม่ออก พอมาได้เจนี่ ที่ผ่านวงการนี้ขายให้ได้มันเลยดุเยอะ พวกนี้กอดไว้หมื่น ๆกล่องมันขายไม่ออกอนุ่แล้ว
ปล สำคัญคือลดจาก 500 เหบือ200นี้แระที่ขานออก เยอะ price +promotion สำคัญกว่าproduct ดาราขายของงงง

งานวงการบันเทิงน้อยลงมากขนาดนั้นทุกคนคงกลัวมั้งครับเลยแห่กันออกมาขายของไปทางออนไลน์หมด

ส่วนตัวผมน่ะถ้าขายก็ไม่ได้อะไรหรอกแต่กระแสล่าสุดผมบอกตรงๆว่าถ้ามันปั้มบอทปั้มยอดวิวกันได้ผ่านช่องทาง และคนฝากเอาไปขายก็น่าจะรู้ๆอยู่ผมว่าแบบนี้มันน่าเกลีนดไปหน่อย เหมือนเดียวนี้เอาเอนเกจไม่สนใจไรกันละแค้ไม่ได้ล้ำเส้นไปทางผิดกฎหมายแต่ในใจอ่ะมันน่าจะรู้ๆกันอยู่

ส่วนตัวผมไม่เชื่อว่ายอด 30-100 ในวันสองวันนั้นยอดจริงอ่ะเอางี้ดีกว่า

อย่าลืมว่าทุนดารามีน่ะครับถ้าปั้มเอาเอนเกจแบบตั้งให้คนไปกดซื้อๆแล้วยกเลิกหลังไลฟ์จบหลังโชว์ยอดแล้ว มันเป็นไปได้นะครับและคงมีสัดส่วนอยู่พอสมควร

ของเอามาลดราคาแบบล้างสต๊อก ต้องเช็ควันที่ผลิตให้ดี

เพราะบางตัวค้างสต๊อกมานานขายเต็มราคามันขายช้า

เค้าเลยอยากเอามาปล่อยถูกเอาแค่ทุนคืน กำไรช่างแม่ง

กำไรกล่องล่ะ 5 บาทก็คุ้มแล้ว ขายเป็นสิบ ๆ ล้านดีกว่านั่งกอดของไว้ ต่อไปก็เรื่องการส่งนี่แหละ ตามต่อได้เลยขายเยอะขนาดนี้ส่งไงไหว แล้วการขายแบบนี้ก็ทำลายระบบตัวแทนแน่นอน เพราะลดราคาเท่าเจ้าของขายเองไม่ได้

เห็นราคาลดขนาดนี้ไม่แปลกที่จะขายได้กระหน่ำขนาดนั้น ผมเคยอยุ่โรงงานผลิตเครื่องสำอางรายใหญ่ ตอนโควิตมีสวัสดิการให้ซื้อเครื่องสำอางราคาถูกมาก มาขายแทนการปรับโบนัสขึ้นเงินเดือน เดือนเดียวร้านผมติด 1 ใน 5 สินค้าขายดี ราคาแบบดั้มราคาชนร้านทั่วไป ยังได้กำไรชิ้นละ 20-30 บาท พวกลิปซองอะไรงี้

ถ้าจะให้โหดจริงๆก็ต้องตำนานฮาซัน จากไม่มีอะไร No Name แกแม่งไลฟ์จนขายเม็ดมะม่วงโลละ 600 กว่าบาทได้ สร้างคฤหาส มีเรือตกหมึก มีซุปเปอร์คาร์

คนไทยเป็น FOMO แหละ (fear of missing out) กลัวตกกระแส กลัวพลาดอะไรไป

ที่น่ากังวลคือ บางคนไปซื้อโดยที่ไม่รู้ว่า ครีมนี้มันมีประโยชน์อะไร ก็เลยไปเม้นถาม และอินฟลูเจ้าของแบรนด์ตอบประมาณว่า ซื้อไปก่อนได้เลยค่า แล้วค่อยว่ากัน

แล้วก็ใช้เงินกันแบบเนี้ย สุดท้ายก็เจอปัญหาเงินขาด ชักหน้าไม่ถึงหลัง ออกมาฟูมฟายบนโซเชียล

เอาจริงๆ ดาราที่บอกลำบากๆ เนี่ย บ้านเค้าใหญ่โตกว่าคนที่คิดว่าจะไป "เอฟของช่วยเค้า" เยอะครับ ทั้งที่คนช่วยเอฟบางคนยังเช่าบ้านอยู่เลยด้วยซ้ำ

ถ้าสินค้ามันเป็นของจำเป็นต้องใช้จริงๆ ก็ซื้อครับ ไม่มีใครว่าอะไร แต่ถ้าของมันไม่ได้จำเป็น แค่ "อยากเป็นส่วนหนึ่งของกระแส" มันก็เรื่องของใครของมัน สุดท้ายแล้วกลายเป็นนิสัยติดตัว ซื้อแบบไม่คิด พอแก่ตัวลง ไม่มีรายได้ ก็กลายเป็นภาระสังคมอยู่ดี จะมาบอกว่าเรื่องของฉัน คนอื่นไม่เดือดร้อนนี่ ก็ไม่ได้ล่ะครับ

ลืมคิดมุมนี้ไปเลย การปั้มยอดโชว์ต่างๆ เหมือนดึงดูด Creator รายใหม่ๆ ให้เข้าสู่แพลตฟอร์มตัวเอง

โดยนโยบายต่างๆ ที่ตั้งไว้สำหรับควบคุมรายอื่นๆ อาจจะใช้ไม่ได้กับรายใหญ่ๆ

ส่วนการขายของจริงๆ ไม่เคยเข้าไปดูหาอ่านๆ ตอนแรกคิดว่าขายพวกสินค้าทั่วไปที่มีในซุปเปอร์ทั่วไป

แต่พอบอกมีขายครีม ขายเครื่องสำอาง เลยพอเข้าใจหละ ธรรมดาที่หัวแถวจะดูดีเพราะเค้าคือหัวแถว

แต่อีกนัยถ้ำคงมีเสือหลายตัวไม่ได้ คล้ายๆธุรกิจขายตรง ธุรกิจเครื่องสำอาง หรือการทำธุรกิจหรือเรื่องการงานทั่ๆไป ที่เราเห็นเสือ หัวแถวในธุรกิจ แต่มันเหมือน iceberg ที่มีคนที่ไม่ประสบความสำเร็จนอนล้มอยู่

คนไทยติดกระแสจริงแหละ เผลอๆพวกนั้นเขาเตี๊ยมกันหมดแล้ว

คนรวยก็พวกเดิมๆ คนอื่นก็เป็นเหยื่อการตลาดต่อไป

ผมผู้ที่ดูเเต่ไลฟ์ขายโมเดล ฟิกเกอร์อนิเมะ พ่อค้าทุกคนบ่นเหมือนกันคือทำไมไม่มาซื้อกูบ้าง

คิดเหมือนกัน แล้วเหนแต่ละเพจมารีวิววิธีการทำการตลาดงั้นงี้
เพื่อนในเฟสผม แชร์กันตรึม

ผมดูเอฟแค่น้ำยาปรับผ้านุ่มไปแค่180กว่าบาท ตอนไลโอมาอยากได้มากเป็นคนผมบางอยู่แล้วแต่เมียบอกพอก่อนเลยอด 555