คนไทยคนนี้นับถือศาสนาอิสลามไปเที่ยวซินเจียง จะละหมาดแต่ตำรวจจีนไม่ให้ละหมาด แล้วห้ามถ่ายคลิปด้วย แต่รอดมาได้ก็บุญละ ไม่ถูกตำรวจจีนจับ จีนเล่นจริงด้วย คนนี้เลยลองไปถามคนในพื้นที่บอกว่า ห้ามถือศีลอดช่วงฤดูถือศีลของคนนับถือศาสนาอิสลาม ห้ามไว้หนวดเครา บังคับกินน้ำอาหารในช่วงเวลาถือศีลอด

จีนถือว่าให้เสรีนับถือศาสนานะ แต่ถูกจำกัดอย่างเข้มข้น รวมทั้งศาสนาพุทธ ถ้าเป็นชาวหุย(ฮั่นนับถืออิสลาม) ละหมาดวันศุกร์ได้ปกติ จีนนี้ปิดกั้นสื่อยิ่งกว่าอิสราเอลเยอะ แค่ให้เข้าประเทศยังไม่ให้เข้าเลยมั้ง ของปาเลสไตน์ดีที่มีทั่วโลกเห็นใจ ส่วนชาวยิวนี้เป็นชนเผ่าที่พระเจ้ารังเกียจของแท้ คนทั่วโลกก็รังเกียจ แม้แต่ชาวยิวด้วยกันเองยังรังเกียจ

ฝั่งจีนนี้ยังดีกว่าอิสราเอลตรงที่ ถ้ามึงสงบเสงี่ยม กูจะให้มึงอย่างดีเลย ถ้าไม่ดี แล้วถ้าไปเล่นประเด็นเรื่องแบ่งแยกดินแดน ก็เตรียมฉิบหายได้เลยคนในพื้นที่ เพียงแต่ชาวอุยกูร์ไร้การสนับสนุนภายนอกไร้อาวุธต่อต้าน ทำให้ยอมจำนนต่อจีนได้ดีกว่า เลยไม่ถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ รัสเซีย ด้วยมั้ง ชาวอุยกูร์ที่หนีอพยพมาไทยรอดมาได้ จะรู้ซึ่งจีนดีเลย จีนแก้ปัญหาให้คนในพื้นที่ยังไง อาจจะโหดกว่าอิสราเอลอีก ถ้าหนีไม่รอดก็ฉิบหาย

การประกอบพิธีศาสนาถ้ามันไม่เดือดร้อนใคร อยู่แค่ในพื้นที่ตัวเองแบบสงบไม่มีอะไรแอบแฝงก็ไม่ควรจะไปควบคุม ถ้าไม่สร้างความรำคาญให้แก่ผู้อื่น

พรรคคอมมิวนิสต์จีนก็ไม่ได้เสรีในการประกอบพิธีทางศาสนา 100% แต่ให้เสรีการนับถือศาสนาอะไรก็ได้ ก็ถือว่าจีนยังให้พื้นที่เหมือนกันกับประเทศเผด็จการสูงอย่างจีน ก็นับว่าให้มากแล้ว ยังมีมุมที่ดีกว่าอิสราเอลในหลายๆเรื่องด้วย ที่ไม่ได้โจมตีขีปนาวุธไปยังประเทศอื่นแบบอิสราเอล

สุดท้ายคนนี้เลยเลือกไป คีร์กีซสถาน ที่เป็นประเทศประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามแทน

ไม่เกี่ยวกับศาสนา แต่เป็นเรื่องการเมือง

มุสลิมหุยหน้าตี๋ๆ เคร่งกว่าพวกอุยกูร์อีก แต่พวกนี้ภักดีกับส่วนกลางเลยไม่มีปัญหา

ไม่เกี่ยวกับศาสนายังไงหรือครับในมุมมองท่าน อันนี้ห้ามละหมาดเลยนะ ห้ามเข้ามัสยิด ซึ่งก็มีประเด็นการเมืองด้วย

ส่วนพวกหุยหรือชาวฮั่นนับถือศาสนาอิสลาม ก็เคยมีประเด็นครับ ในเหตุการณ์ชาเดียน กลุ่มหุยก็ดันไม่พอใจผิดยุค ตอนนั้น เหมาเจ๋อตุง ยังไม่ตายแต่ป่วยหนักมากแล้ว การปฏิวัติวัฒนธรรมยังเข้มข้น ตอนนั้นเติ้ง เสี่ยวผิง ขึ้นมาแล้ว เติ้งเสี่ยวผิง ก็โหดมากๆแลเวนะ เหตุการณ์เทียนอันเหมิน ทั่วโลกก็รู้จักดี แต่ถ้าตอนนั้น เหมาเจ๋อตุง ไม่ป่วยหนัก กลุ่มหุยอาจจะโดนหนักกว่า ที่ เติ้งเสี่ยวผิง เล่นงานอีกครับ ลำพังแค่ เติ้งเสี่ยวผิง ก็เล่นเอาแทบไม่ได้เกิดแล้ว ถ้าไม่ยอมนี้จะบรรลัยกว่านี้อีก

กิจกรรมทางศาสนา แต่โบราณถือว่าเป็นการรวมกลุ่มของคนที่ไปทางเดียวกันในสถานที่ปิด

ถ้ารัฐบาลขี้ระแวง ก็คิดไปได้ว่ากำลังวางแผนอะไรกันหรือไม่

สมัยก่อนญี่ปุ่นแบนศาสนาคริสต์ เพราะการรวมกลุ่มเป็นบ่อเกิดของการกบฏ

ผมเข้าใจว่าจีนน่าจะมาแนวนี้นะ ป้องกันการรวมกลุ่ม+พยายามกลืนวัฒนธรรมเดิมให้หมดไป ทำไปเรื่อยๆถ้าไม่หมดรุ่นนี้ ก็หมดในรุ่นหน้านี่แหล่ะ

พี่จีนมาถูกทางแล้วใช่ไหมท่าน

จีนไม่ได้ทำ cultural genocide คนอุยกูร์เพราะพวกเขาเป็นคนอิสลามครับ แต่ทำเพราะอุยกูร์คือชนชาติเติร์ก

พวกหุยในสายตาคนจีนก็คือคนจีนที่นับถือศาสนาอิสลามเฉยๆ ไม่ใช่คนอื่นไกลที่เข้ามาอยู่จีน พวกหุยปรับอิสลามให้เข้ากับบริบทจีนมาหลายศตวรรษแล้ว ไม่ว่าจะภาษา วัฒนธรรม แนวคิด ปรัชญา แทบทุกอย่างเป็นเหมือนจีนอื่นๆ รวมถึงการแต่งงานกับคนจีนศาสนาอื่นๆด้วย รวมถึงคนสำคัญในประวัติศาสตร์จีนจำนวนไม่น้อยก็นับถืออิสลาม เช่น นายพลเจิ้ง เหอ ที่ถูกยกให้เป็นนายพลเรือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน ปวศ จีน เป็นต้น หรือจะพวกคณะหม่าที่มีบทบาทสำคัญในสงครามกลางเมืองจีนที่นำโดยหม่า ปู้ฟาง

กลับกัน อุยกูร์ไม่ใช่จีนฮั่น เป็นชนชาติของตัวเอง มีวัฒนธรรม ภาษา มีอัตลักษณ์ที่แตกต่างจากจีนฮั่น และพวกอุยกูร์มีประวัติศาสตร์เป็นของตัวเองที่แยกจากจีนฮั่น เคยมี khanate เคยมีราชอาณาจักรเป็นของตัวเอง สมัยมองโกลก็เคยภักดีกับเจงกิสข่าน จนเจงกิสข่านยกลูกสาวให้แต่งงานด้วย นอกจากนั้นอุยกูร์ก็พยายามต่อต้านอิทธิพลของจีนมาทุกยุคทุกสมัย จนกระทั่งมาโดนปกครองโดยจีนในยุคราชวงศ์ชิง(จีนส่งทหารชาวหุยไปรบกับอุยกูร์ด้วย ซึ่งเป็นหนึ่งในประเด็นพิพาทของคนสองกลุ่มนี้จนถึงทุกวันนี้)

การที่จีนพยายามทำแบบที่ทำอยู่ในซินเจียงคือการกำจัดอัตลักษณ์ความเป็นอื่นออกไปให้หมดหรือเหลือน้อยที่สุด จะได้ปกครองง่าย ลดความเสีย่งต่อการแบ่งแยก หรือได้รับการแทรกแซงจากชาติศัตรู

นี้คือประเด็นการเมืองใช่ไหม ที่ผมไม่เข้าใจ ว่าทำไมไม่เกี่ยวกับศาสนา ผมไปคิดเรื่องประเด็นเชื้อชาติ มากกว่าการเมือง แต่ก็เป็นการเมืองได้ละ เพราะเป็นนโยบายคอมมิวนิสต์จีนที่ต้องการทำ กลืนเชื้อชาติ ทั้งๆที่พิมพ์ไปว่า จีนเสรีนับถือศาสนา

แต่ที่ผมสื่อไปทางจีน หรือแชะจีนประจำว่าเวลาใช้กำลังนี้มักจะเล่นไม้แข็งสุดๆ อาจจะไม่ได้ไปทางฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ แต่ความรุนแรงการปราบอุยกูร์ของจีน ผมเชื่อว่า ผู้บริสุทธิ์โดนเยอะกว่ากลุ่มเป้าหมายหลักด้วยละครับ แถมปิดสื่อ ปิดชายแดน ตัดช่องทางสื่อสารซะเข้ม แต่ถ้าไม่จบ ผมว่าจีนคงเล่นบทโหดไม่ต่างจากอิสราเอลละครับ แต่ถ้าหยุดก็คือจบ จะฆ่าชาวอุยกูร์ล้างเผ่าพันธุ์ หลายสิบล้านคนในยุคปัจจุบันเป็นไปไม่ได้หรอก แถมซินเจียงก็คือดินแดนของจีน ยังไงก็อธิปไตยของจีน

ย้อนอดีตญี่ปุ่นในเหตุการณ์หนานจิง ใช้ชาวจีนเป็นตัวทดลองโรคต่างๆ ข่มขืนผู้หญิงจีนจนเป็นแผลในใจสำหรับคนที่รอด ถ้าผู้หญิงท้องก็ผ่าท้องทั้งเป็นควักทารก เด็กเล็กก็โดนกระทำป่าเถื่อน แม้ไม่ได้ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวฮั่นตามเจตนาแบบฮิตเลอร์ แต่ใครจะฆ่าไหว ชาวฮั่นหลายร้อยล้านคนตอนนั้นกับประเทศกว้างใหญ่มากๆอย่างจีน ผมว่าโหดเหี้ยมกว่าอิสราเอลทำในปัจจุบันหลายร้อยเท่าอะ

หลักๆมันคือเรื่องความมั่นคงนั่นแหละครับ ไม่ใช่เรื่องชาตินิยมบริสุทธิ์แบบแนวคิดของนาซีหรือพวกชาตินิยมคนขาว

เหนืออื่นใดในจีนคือเรื่องความมั่นคง ผมเคยฟังจากที่ไหนสักที่นี่แหละจำไม่ได้ แต่เป็นนักวิชาการเชื้อสายจีน ประมาณว่าพรรคคอมจีนเขาเรียนรู้จากอดีตของจีนที่เกิดการรบกลางเมืองตลอดทุกยุคทุกสมัยจากคนกลุ่มต่างๆ ดังนั้นนับตั้งแต่หลุดพ้น century of humiliation มาได้ จีนจึงมีปรัชญาหนึ่งที่พรรคคอมยึดมั่นคือการทำให้จีนเป็นอันหนึ่งอันเดียวตลอดเวลา อะไรที่ส่อแววจะเป็นปัญหาระยะยาวก็จะจัดการให้สามารถควบคุมอยู่ในกำมือให้ได้

ส่วนในอุยกรณ์อย่างที่ผมเกริ่นไปข้างบน การกระทำของจีนมันเป็น cultural genocide มากกว่าจะเป็น genocide เต็มรูปแบบที่เรากำลังเห็นอยู่ใน Gaza ครับ มันเป็นความพยายามกลืนชาติของจีนต่ออุยกูร์ พยายามทำลายลบล้างอัตลักษณ์วัฒนธรรม ปรับเปลี่ยนแนวคิดทางการเมือง ผนวกรวมให้กลายเป็นหนึ่งเดียวกับจีนฮั่น ถ้านึกไม่ออกให้นึกถึงวิธีการที่ไทยใช้กลืนล้านนาอ่ะครับ เพียงแต่ปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย

ทุกวันนี้จีนเหมือนจะควบคุมสถานการณ์ในซินเจียงได้มากๆแล้ว จากเดิมที่ใช้วิธีจับขังค่าย ทางการจีนก็ปรับนโยบายมาเน้นที่การมอนิเตอร์เข้มข้นสุดๆ บวกกับการทำลายเจตจำนงค์การรักษาอัตลักษณ์ของชาวอุยกูร์ผ่านวิธีต่างๆ เช่น การจำกัดการละหมาดวันศุกร์อย่างที่ท่านยกมา

ด้วยเหตุผลที่ว่าไป ผมเลยไม่เชื่อว่าจีนจะเริ่มทำการฆ่าคนแบบเปิดเผยแบบที่เกิดใน Gaza หรือที่อื่นๆ (จริงๆไม่ควรเอาไปเทียบจีนกับอิสราเอล สเกลและความโหดร้ายต่างกันฟ้ากับดิน) เพราะจีนวางกลไลเครื่องมือควบคุมได้แล้ว ที่เหลือคือการปล่อยเวลาให้กระบวนการกลืนชาติออกผล ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่สำเร็จได้ภายใน 5 ปี 10 ปี แต่อาจจะต้องใช้เวลาหลายสิบหรือแม้แต่หลายร้อยปีด้วยซ้ำครับ ดังนั้นเราก็คงจะได้อ่านข่าวเหตุการณ์ในซินเจียงแบบนี้ไปเรื่อยๆอีกนาน

สุดท้าย จีนไม่ได้ให้เสรีภาพในการนับถือศาสนาแบบที่เรามีในไทยหรือประเทศเสรีอื่นๆ จีนอาจจะให้นับถืออิสลามหรืออื่นๆได้ แต่หลักธรรมคำสอนแนวคิดของศาสนาต้องผ่านการกรองการปรับจากพรรคคอมก่อนครับ ถึงจะปล่อยให้เอาไปเผยแพร่ได้ครับ