อยากลองใช้ชีวิตแบบ minimal ดูครับ

ไปอ่านหนังสือ อะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป แล้วรู้สึกอินนิดหน่อย

ตอนนี้ขายรองเท้า เสื้อผ้า ที่ไม่ได้ใช้มาเกินกว่า 1 ปี ไปเยอะละ

เหลือ รองเท้าใช้จริงๆ 5 คู่ (ผ้าใบ 2 รองเท้าหนัง 2 รองเท้าแตะ 1)

เสื้อผ้า เน้นสีเรียบๆ เทา เบจ ดำ กางเกงก็ดำ กรม เทา

นาฬิกา เหลือ 2 เรือน พอ (ก่อนหน้านี้มี 4 จะเอาไปล้างเครื่องทีก็โดนค่าล้างไปเยอะอยู่)

สำคัญสุดๆ คือ พยายามจะงด social เพราะเข้าไปดูบางที ของที่ไม่คิดว่าจะอยากได้

ก็ดันอยากได้ขึ้นมา เพราะ เหมือนโดนยิงแอดต่างๆ อีกอย่างถ้าไม่เล่น social ก็ไม่ต้องถ่ายรูปอวดใคร

พอของน้อยลง การที่จะไปกังวลกับข้าวของต่างๆก็คงน้อยลงตามไปด้วย (มั้ง)

ท่านคิดว่าไงกันครับ มีใครใช้ชีวิตอย่าง minimalist บ้างมั้ย

ผมมีเงินเก็บแบบมินิมอล

ไม่ได้อินอะไร และไม่เคยอ่านหนังสือด้วย แต่จากความอิ่มตัวในชีวิต ก็เลยไม่มีอะไรมากมายนัก

เสื้อผ้าผมมีแค่กล่องพลาสติก(ที่ขายตามโลตัสน่ะ)เดียวรวมกัน ทั้งชุดทำงาน ชุดอยู่บ้าน รวมๆกันแล้วน่าจะราวๆซัก 10-15 ชุด มูลค่าไม่ต้องพูดถึง...ไม่มีแบรนด์เนมแพงๆ
เช่นเดียวกับส่วนประกอบอื่นๆ ไม่มีนาฬิกาหรือเครื่องประดับ รองเท้ามีแค่ 2 คู่คือรองเท้าแตะ กับรองเท้าหนังไว้ใส่เวลาสำคัญๆเช่นหาลูกค้า ไม่มีมือถือหรูๆ ไม่มีรถ ของอย่างเดียวที่ผมซื้อบ่อยคือหนังสือการ์ตูน แต่ก็แค่ราวๆ 1-2 เดือนต่อเล่ม ไม่กินกาแฟชง ไม่ค่อยเข้าร้านอาหารหรู แทบไม่ไปเดินห้าง ไม่ไปต่างประเทศ ไม่ชอบเที่ยวต่างจังหวัด
.
.
.
แลดูชีวิตเงียบเหงาดีมั๊ยครับ

ผมยังไปไม่ถึง Minimal ครับ ติดใช้ชีวิตแบบ animal อยู่ครับ

แสดงว่าท่าน มีความสุขกับการอ่านการ์ตูนตอนว่างๆ ใช่ป่ะครับ

Minimal ❌

Maimedaek ✔️

ตอบ จขม. ผมบริจาคของในบ้านไปเยอะให้ตามมูลนิธิ บ้านโล่งก็ดีครับ หาอะไรง่ายดี
หนังสือเมื่อก่อนก็ชอบซื้อตอนนี้ ไว้ใน ebook เป็นส่วนมาก ส่วน สำนักพิมพ์ที่เน้นขายรูปเล่ม
ก็ต้องซื้อเป็นเล่มต่อไป เช่นของ welearn ชุดผมมีแต่สีพื้น แต่เป็นผ้าที่ใส่สบาย

ชอบกินร้านอาหารข้างทางง่ายๆ ไม่ชอบไปที่คนเยอะ บุฟเฟ่ ร้านดีๆ นานๆที
steamming sub เหลือ 1-2 เจ้า เมื่อก่อนกดทุกเจ้า

Maimedaek คือ อะไรเหรอ ครับ

ผมก็ใช้ชีวิตยังงี้ทุกวัน ไม่ใช่เพราะอะไรหรอก ไม่มีตัง 555555555555555555555555555
มีผ้าใบสองคู่ แตะสองคู่ เสื้อผ้าทั่วไปตลาดนัด กางเกงก็สแลค มียีนแพงหน่อยตัว 900-1500
ขับมอไซอายุ 15 ปีแง้นไปวันๆ

ผมอาจจะไม่ได้ minimal แต่ผมไม่ตามกระแสดีกว่า

ผมมีความสุขกับการเป็นตัวของตัวเอง อย่างรองเท้าที่คนฮิตกันแบบ On NB Samba พวกนี้ผมไม่มีซักคู่ แต่ผมมี Stan Smith จะ 10 คู่ ที่ใส่มาตั้งแต่ประมาณ 10 ปีแล้ว และก็ยังซื้อแต่พวกนี้อยู่

นาฬิกาผมก็ซื้อแต่ที่ผมชอบ (ผมมี YM แทนที่จะเป็น Sub/DJ เหมือนชาวบ้าน) หนังสือ ของใช้ เสื้อผ้า ฯลฯ ผมซื้อเยอะ ใช้เยอะ ทิ้งเยอะ แต่ผมรู้ว่านี่คือตัวเรา และผมก็ใช้ชีวิตแบบนี้มาตลอดเกือบๆ 10 ปีหลัง... ผมไม่ได้มี fb ด้วยซ้ำ ของที่มีคืออยากมี ไม่ได้อยากอวด มีเพราะชอบมากกว่า

ชีวิตที่ minimal สำหรับผมคือชีวิตที่เรียบง่าย มีความสุขกับตัวเองหรือความชอบของตัวเอง จะวัตถุนิยมหรือไม่ก็ช่าง แต่เรายังยึดโยงกับตัวเราไว้ได้ต่างหากคือใจความสำคัญ

พอเราไม่ได้สนใจกระแส มันก็ช้าลงได้เองครับ
ใจความสำคัญคือ หาตัวเองให้เจอก่อนครับ
แล้วพอเราเข้าใจตัวเรา เดี๋ยวมันจะค่อยๆทิ้งอื่นๆไปเอง

สำหรับผมคิดว่าแนวทางสมดุลคือดีที่สุด
(แค่มุมมองผม) ผมไม่อยากปิดกั้นตัวเอง
ห้ามทำแบบนั้นแบบนี้ แต่ก็มีขอบเขต
และเลือกสิ่งที่ดี ที่สำคัญเก็บไว้
อะไรที่ไม่ใช่ หรือ มันไม่ดีก็ตัดทิ้งไป

ผมใช้ชีวิตแบบ minimalist มานานแล้วครับ ผมจะมารีวิวให้ฟังแล้วใครเอามันดีไม่ดี

คือผมมาใช้ชีวิตแบบนี้เพราะวันหนึ่งผมรู้สึกไม่มีความสุขในชีวิต เพราะ เรามองคนอื่นมากไป

ลองมองใน Facebook ทุกวันนี้นะ มีแต่ อวด รายได้ อวดนั้น อวดนี้ ความสำเร็จ บลา ๆ เที่ยวนั้นเที่ยวนี้ไปหมด แล้วเอาก็เอาพวกนั้นเป็นที่ตั้งแล้วย้อนหาตัวเอง เหมือนตัวเองล้มเหลว พอเป็นแบบนั้นวันหนึ่งผมลองตัดสินใจ ok งั้นกูปิดทุกอย่างผม ลบทิ้งหมดเลย facebook ig ทุกอย่าง แทบจะตัดตัวเองออกจากโลกออนไลเลย

แล้วการใช้ชีวิตผมเอาหลักนี้มาคิด เวลาผมจะซื้ออะไร ถ้าไม่มีสิ่งนั้นแล้วผมจะตายไหม อย่าดัดจริต อย่างผมชอบวิ่งมาก เวลารองเท้าวิ่งออกใหม่ ผมจะแบบ เอาดีไหมวะ พอเลือกใช้ชีวิตแบบนี้ ผมถามตัวเองเลย ไม่มีแล้วมึงก็ไม่เห็นตาย คู่เก่ามึคงก็ยังมีอยู่ วิ่งให้พังก่อนค่อยซื้อแล้วกัน พอมันเอาตรรกะนี้มาคิดบ่อย ๆ สมองมันจะทำโดยอัตโนมัติเองไปเรื่อย ๆ เสื้อผ้าก็จะซื้อน้อยลง โฟกัสกับตัวเอง

พอคุณใช้ชีวืตแบบนี้ไปสักพักมันจะเหมือนโลกของคุณถูกปิดโดยไม่รู้ตัว มีความสุขกับตัวเองล้วน ๆ ทำอะไรง่าย ๆ ไม่วัตถุนิยม ผมใช้ชีวิตแบบนี้ประมาณปีกว่า ตอนเริ่มใช้ชีวิตผมมีเงินเก็บ 7000 ผ่านไปปีกว่า ผมมีเกือบ 500K ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันมาจากไหน และ ก็ไม่รู้ว่าจะมีไว้ทำไมด้วย บางเดือนผมหาเงินได้ 40K ผมใช้เดือนนั้น 4-5 K ก็มี มันเหมือนผมหลุดไปแล้วว่า เงิน ไม่สามารถซื้อความสุขให้ได้แล้ว

จนวันหนึ่งผมไปเจอแฟนนั้นละ ก็เหมือนคนทั่วไป เขาก็ ขอเฟส ขอ IG ผมบอกไม่มี เขาจะไม่คุยกับผมเลย บอกพี่มีเมียแล้วหลบเมียใช่ไหม ผมบอกไม่ใช่ผมถึงอธิบายให้เขาฟัง

แล้วพอเราเป็นแบบนี้พอไปใช้ชีวิตกับคนอื่นมันหงุดหงิดมาก พอคุณเป็นพวก Minimal] ใช้ของน้อย ๆ แล้วไปเจอคนที่มี ใช้แนวคิดตรรกะของมันต้องมี คุณจะหงุดหงิดมาก ๆ อย่างแฟนผมอยากได้อะไรก็ซื้อ ไม่จำเป็นก็ซื้อ มีแล้วก็ซื้อ ทุกวันนี้ก็ยังทะเลาะกับเรื่องพวกนี้อยู่เลย

คือไอ้แนวคิด Minimal] เนี่ยในมุมมองผมนะ มันเหมาะกับการอยู่คนเดียวนั้นละ ลองมาแฟน แตก ทุกคนอะ

ผมก็คล้ายๆท่านเลย บางทีไถ FB IG แล้วก็เกิดความรู้สึกไม่ค่อยมีความสุข ทำไมต้องมาดูอะไรแบบนี้

พยายามจะลบแอพทิ้งหลายครั้งละ รู้สึกหงุดหงิดตัวเอง พอว่างๆ หน่อย ก็จะไปไถแอพพวกนี้ตลอด

นั้นละท่านถ้าเรายังมีอยู่มันจะทำให้เห็น บางอย่างไม่จำเป็นพอเราเห็นแล้วเราก็อยากได้ กลายเป็นจำเป็นขึ้นมาทันที อย่างผมมี Facebook ไว้ตอนนี้เพื่อใช้เวลาต้องทำธุระจริง ๆ แบบ จองนั้นจองนี้ให้แฟนไว้เที่ยว ไว้คุยกับที่พักนั้นนี่ นี่เข้าไปเล่น เจอแต่ ads โฆษณา รายได้ใน Tiktok ได้เดือนละ แสน 7 8 หมื่นบ้าง ขายของได้เดือนละ 400K - 500K บ้าง พอเข้าไปเห็นก็เฮ้อออ หรือ กูควรลองทำบ้างดีวะ รู้สึกเหนื่อยขึ้นมาเลย 55555+

ผมเป็นคนชอบอ่าน"หนังสือ"ครับ ถืออ่านได้ทุกประเภทที่เป็นหนังสือเล่ม และก็อ่านซ้ำๆอยู่แบบนั้น
ซึ่งพวกนิยายผมไม่ค่อยอยากออกไปหาเล่มใหม่ๆอ่านล่ะ ก็จะมีพวกการ์ตูนบางเรื่อง 2-3 เรื่องที่ยังซื้อเล่มใหม่ แล้วด้วยความ สว.ผมไม่ถนัดอ่านพวก e-Book ทั้งหลาย เลยไม่ได้เสียเงินไปกับพวกนี้ด้วยครับ

บางทีอาจจะไม่ใช่ Minimal แต่เป็นพวกตกยุคไปแล้วมากกว่าครับ ฮาาาาาาาา

ทำไมมินิมอลของท่านมันดูไปในเรื่องแต่งตัว มีคุมโทนสีเสื้อผ้าด้วย ออกแนวมูจิอะ
ผมว่ามินิมอลมันน่าจะฟีลคล้ายๆพอเพียงมั้ย ตัดทอนความรกในชีวิตออกเหลือแต่แก่นของมัน
แบบว่ารองเท้าก็ไม่จำเป็นต้องมีคู่เดียวใส่ทุกงาน ก็มีหลายคู่ตามฟังก์ชั่นใช้งาน แตะหนึ่งคู่ ผ้าใบใส่ลำลองหนึ่งคู่ หนังใส่ทางการหนึ่งคู่ รองเท้ากีฬาหนึ่งคู่ แต่จะไม่มีรองเท้าที่ซื้อมาแล้วไม่ได้ใส่
เสื้อผ้าจะสีอะไรก็ได้มั้ง อันนี้เป็นเรื่องของรสนิยมบุคคล แต่จะไม่มีตัวที่ซื้อมาเพราะแค่คนฮิตกัน

ส่วนตัวผมรู้สึกว่าคนเราน่ะ มันมีเรื่องที่ตัวเองยอมฟุ่มเฟือยอยู่แหละก็คนอะนะไม่ใช่พระอรหันต์ กิเลสมันก็ยังมีแหละ เพียงแค่เลือกฟุ่มเฟือยกับสิ่งที่เรารักจริงๆ ไม่ใช่ฟุ่มเฟือยกับทุกอย่างในชีวิต ไม่ต้องมีของมันต้องมีทุกอย่างก็ได้ไรงี้