[RE: เริ่มมีคนได้รับโทรศัพท์จากธนาคาร ให้ปิดยอดหนี้ โดยลดให้ บางคนหลักหลายแสน]
ZLin พิมพ์ว่า:
imop28 พิมพ์ว่า:
จากที่่คลุกคลีในกลุ่มลูกหนี้บัตรเครดิตเป็นหลัก
กรณีขายหนี้ให้บริษัทบริหารสินทรัพย์แล้ว ลูกหนี้ที่พร้อมจะจ่ายจบหรือแฮร์คัท
ตั้งยอดเงินไว้แค่ 30-40% ของหนี้จริงทั้งนั้นนะครับ
อย่างสมมติผมเป็นหนี้แสนนึง เวลาต่อรองบริษัทพวกนี้ (หรือธนาคารทวงเองก็ตามแต่)
ก็จะออกตัวเลยว่า มีสี่หมื่น จ่ายก้อนเดียวจบ เอาไม่เอา ประมาณนี้ทั้งนั้นเลยครับ
หลายๆที่ก็ได้ แต่หลายๆที่ก็ไม่ได้ แล้วแต่เคส แล้วแต่ความได้เปรียบด้วยครับ เช่น เงินเดือนเกินสองหมื่นให้อายัดหรือไม่
มีทรัพย์สินให้สืบทรัพย์เพื่อยืดขายหรือไม่
คนที่เงินเดือนไม่ถึง ไม่มีชื่อในสินทรัพย์ใดๆ จะเรียกว่าสถานะได้เปรียบ
กลุ่มนี้จะต่อรองได้เยอะหน่อย เพราะคนทวงจะคิดว่าดีกว่าไมไ่ด้อะไรเลย เพราะฟ้องไปก็ไม่มีจ่ายอยู่ดี
ปกติเขาจะเช็คก่อนจะยื่นข้อเสนอ แฮร์คัทมาก่อนเลยเหรอครับ
เช็คไหมไม่แน่ใจครับ แต่น่าจะไม่เช็ค เพราะขั้นตอนการเช็คทรัพย์สินน่าจะหลังจากมีการฟ้องร้องเลย
แต่ถ้าฝั่งเจ้าหนี้ติดต่อมาเพื่อจะให้เราแฮร์คัทเอง ส่วนมาก ย้ำว่าส่วนมาก ก็ไม่ได้ลดให้เราเยอะตามที่ผมพิมพ์ไปนะครับ
ยกตัวอย่างของเคสผมเลย ผมเคยเป็นหนี้ไทยพาณิชย์ 90,000 บาท แล้วไทยพาณิชย์ขายต่อให้ JMT แต่ก็ไม่มีการฟ้องร้องอะไร
จนหมดอายุความ (บัตรเครดิต 2 ปี) ล่าสุดอยู่ดีๆ JMT ก็โทรมาเสนอแฮร์คัท ที่ 60,000 กว่าบาท
ซึ่งผมก็ทำเป็นสนใจข้อเสนอไป แต่ไม่คิดจะจ่ายซักบาท เพราะถ้ามันฟ้องมา ผมก็หาทนายยื่นเรื่องอายุความ
ก็เป็นอันจบ แยกย้าย
ซึ่งหลายๆธนาคาร หลายๆเจ้านี้ โทรมาเสนอแฮร์คัทแล้วเราไม่มีเงิน หรือยังสูงไปจากที่เราตั้งไว้ ก็ต่อรองได้ครับ
ให้พนักงานคนที่โทรมาเสนอเรา กลับไปหาข้อเสนอที่ดีกว่านั้น ยอดน้อยกว่านั้นมาให้ก็ได้
ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเขี้ยวของเจ้าหนี้ล่ะ ว่าจะลดให้มากน้อยแค่ไหน บางรายก็ลดให้เยอะมาก บางรายก็ไม่ลดเลยหรือลดน้อย
มันเป็นเคสๆไปจริงๆครับ ผมก็ไม่ทราบรายละเอียดของแต่ละสถาบันการเงิน ว่ามีการทำงานเชิงลึกแบบไหน