[RE: คิดว่าการปิดด่าน ไทย กัมพูชา ฝั่งไหนจะทนไม่ไหวขอเจรจาก่อนกัน (โหวต)]
byrd.tt พิมพ์ว่า:
ผมไม่รู้ว่าฝั่งเขมรจะกระทบขนาดไหน แต่ธุรกิจการ์เมนท์ไทย ปิดชายแดนนี่กระทบแน่ๆแล้วหนึ่งครับ หลายๆบริษัทในเราไปตั้งโรงงานอยู่ในนั้นเยอะมาก (เป็นซับของเราอีกที เพราะค่าแรงถูก) นี่ก็ได้ยินหลายคนบ่นละว่าเอาของออกยาก แล้วเดินทางไปตรวจ QC ก็ยากเพราะปัญหาชายแดน
คือภาพรวมจริงๆ เรากะเค้าก็พึ่งพากันเยอะนะครับ ไม่ใช่คนแต่ตามแนวชายแดน แต่ธุรกิจหลายๆตัวของเราก็พึ่งเค้า ผลกระทบมันมีอยู่แล้ว แค่จะมากจะน้อยเท่านั้น ก็ต้องรอดูครับว่าภาพศก.เราจะกดดันทหารได้มั้ย ถ้าไม่ได้ ผมว่าคนเสียจะเป็นเรามากกว่า เพราะนอกจากภาคการผลิตแล้ว นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ใช้เราเป็น hub ไปเที่ยวต่อก็ลำบาก อันนี้ก็มีผลกระทบต่อภาคท่องเที่ยวเหมือนกันครับ
ผมมองกลับกันนะ เรื่องภาคการผลิตเราไม่ได้พึ่งเค้าครับ เค้าต่างหากที่พึ่งเรา
เราสามารถดึงโรงงานกลับมาในไทยได้นะ แต่ไม่รู้เขมรมันจะให้ขนย้ายของออกมารึเปล่า
ค่าแรงถูกแต่ทุกวันนี้เขมรก็มีปัญหาเรื่องการประท้วงขึ้นค่าแรงอยู่เรื่อยๆเพราะข้าวของแพงขึ้น
เพราะต้องนำเข้ามาจากที่อื่น ค่าสาธนูประโภคก็ขึ้นสูงเช่นกัน ผมมองว่าถ้ารัฐบาลช่วยเหลือหน่อย
ดึงกลับมาตั้งโรงงานในประเทศจะส่งผมดีต่อเรามากกว่า ทั้งเรื่องการจ้างงานฯลฯ ด้วย
เรื่องชายแดนบอกเลยว่าปัญหานี้ไม่มีทางจบเพราะความเกลียดชังมันฝังรากแล้ว
ที่บอกว่าไม่มีทางจบเพราะเราไม่มีทางยอมรับ 1:200000 ของเขมรแน่ เขมรก็ไม่น่ารับ 1:50000 เหมือนกัน
ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมรับก็เจรจากันไม่ได้ ก็จะเกิดปัญหาพื้นที่พิพาทอีกเรื่อยๆไม่มีทางจบแน่นอน
ทั้งระยะสั้นและระยะยาวเราควรตัดเขมรออกไปได้เลย แล้วควรมองหาการลงทุนใหม่ๆ
ยังมีอีกหลายประเทศที่เราสามารถลงทุนต่อยอดได้ทำไมต้องไปง้อเขมรขนาดนั้น
หลายประเทศก็ไม่ได้มีชายแดนติดกันประเทศอื่นเค้ายังหาช่องทางในการลงทุนได้เลย
เรื่องการท่องเที่ยวนักท่องเที่ยวที่ไปเขมรส่วนมากก็คนไทย ข้อดีคือไม่ไปเขมรก็เงินไม่รั่วไหลออกนอกประเทศ
ยิ่งไปรั่วไหลในบ่อนนี่ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ ผมว่าตรงนี้เขมรเดือนร้อนแต่เป็นผลดีกับไทยมากกว่า