คัดเลือกเอาแต่พรรคพวก แบบนี้คนนอกก็หมดสิทธิ์ อบรบสิครับ
มิน่าวงการบอลไทยถึงไม่ไปไหน ใครมีข้อเท็จจริง เด้งมาทีครับ เค้าเลือกคนที่เข้าอบรมจากสาเหตุอะไร

ถ้าจำไม่ผิดการจะเข้าไปเรียนพวกนี้คุณต้องเคยมีผลงานในด้านฟุตบอลมาก่อน เช่นเป็นนักบอล หรือเคยคุมทีมรร.อะไรงี้มาก่อนป่ะครับ

คนนอกที่คุณว่า หมายถึงคนที่ไม่เคยอยู่ในวงการมาก่อนเลยป่ะครับ

หลักคือ คนที่จะอบรมได้ต้องอยุ่ในวงการฟุตบอลมาก่อน
ถ้าไลเซนส์สูงขึ้นไปเรื่อยๆ ก็จะรีไควร์ ระยะเวลาที่คลุกคลีกับวงการบอลมากขึ้น จำเลขไม่ได้ แต่คุ้นๆว่าถ้าไต่มาถึงโปร ต้องมีเวลาทำงานด้านฟุตบอลไม่ตำกว่า15ปี ระดับต่ำกว่านั้นก้ลดหลั่นไป แต่ผมจำเลขแบบเป๊ะๆไม่ได้ เคยดูไว้ว่าจะไปเรียน แต่นั่นแหละ มันดูไม่เปิดกว้างเท่าไหร่ แต่เพื่อนผมก็โปรไปละ พี่ชายมันก็วิทยากรสมาคม มันก็โคชคุมข้างสนามT1ทุกวีค แต่ส่วนมากเอาชื่อไปแขวนเฉยๆแบบไทยๆ

ต้องหาเส้น ฝากโรงเรียนกีฬาสักที่ ของประเทศไทยไม่มีวันได้โค้ชเก่งๆครับยาก เรื่องนี้คุยละยาว

ว่าแล้ว ทำไมไทยไม่ได้ไปไหนในเวทีโลก แค่เรื่องสร้างโค้ชยังมีเส้นสาย ไม่แปลกใจโค้ชจะน้อย และเด็กจะน้อยตาม ///ญี่ปุ่นเขาได้ ไลเซ่นส์กันเยอะจนบอลมัธยมต้องมีกฏใช้โค้ชประมาณBไลเซนส์กันเลยทีเดียว แล้วบอลมัธยมเขาโคตรเข้มข้น เด็กขึ้นมาเล่นj1กันเยอะแยะ

กฎของ AFC ที่สมาคมใช้อยู่ น่าจะลอกกฏมาจากของยุโรป คือคนที่จะเป็นโค้ช อบรมโค้ชได้ ต้องเป็นคนมาจากวงการฟุตบอลไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

วิลเลี่ยม สติลล์ ที่เคยสร้างความฮือฮา จากโค้ชในเกม FM สู่การเป็นโค้ชจริง เป็นอดีตโค้ชของ แร็งส์ (ตอนนี้คุม เซาแธมป์ตัน) เคยคุมทีมพา แร็งส์ ไร้พ่าย 18 นัดติด สโมสรยอมจ่ายค่าปรับนัดละ 25,000 ยูโร เพื่อให้เขาคุมทีม เพราะไม่มีใบอนุญาติระดับ Pro License คนนี้ถ้าคนไม่รู้ ดูข่าวผ่านๆ ก็คิดว่า ขนาดคนนอกอย่างคนเล่นเกม FM ยังเป็นโค้ชได้เลยถ้าเก่งจริง แต่ไม่ใช่ แกเคยเป็นอดีตนักเตะดาวรุ่งมาก่อน แต่มันดันริ่ง เลยแขวนสตั๊ดตอนอายุ 18 ปี แล้วระหว่างนั้นแกทำงานในวงการฟุตบอลมาโดยตลอด ทำงานเป็นนักวิเคราะห์วิดีโอ ผู้ช่วยโค้ช และระหว่างนั้นก็อบรมมาเรื่อยๆ จนจบหลักสูตร A License แต่กฏของลีกเอิงตอนนั้นคือ เฮดโค้ชต้อง Pro License ก็เลยเป็นที่มาของข่าว โค้ช FM ที่สโมสรยอมจ่ายค่าปรับเพื่อให้คุมทีม