ทุกโขเชี่ยล...ตอนนี้ประเด็นอัมโมริม แฟนบอลต่างพูดถึงมาก ผมคิดๆแล้วคล้ายๆพี่เจ๋ง เรียนเก่งแต่ทำงานที่ลำบากไม่เป็น

ซึ่งหากยกตัวอย่างง่ายๆนี้ มีนก็มองได้ง่ายๆนะ ที่ว่าที่เรียนเก่ง แต่พอได้งานยากๆ เก่งแค่ไหนก็ตายแน่นอนหากไม่ปรับตัวให้ได้

จะด้วยอายุ 39-40 ด้วยไหม ก็อาจจะมีส่วน ความมั่นใจอะไรต่างๆที่ตัวเองเคยทำได้ ... ก็ต้องคิดอยู่แล้วว่า มันต้องได้ แต่พอมันไม่ได้...ก็ต้องย้อนกลับมาดูว่า ควรแก้ตรงไหน?

ซึ่งแน่นอนว่า คนเก่งอย่างอัมโมริม ก็ต้องใช้เวลานะคือมันยากอยู่ไม่ใช่น้อย

เราๆอาจคิดเอามันส์...เปลี่ยนระบบสิ คนอื่นยังทำได้ แต่ถามจริงๆครับ ชีวิตจริงการทำงานการที่จะเปลี่ยนอะไรๆได้เลย มันต้องมีคนมีประสบการณ์ที่เพียงพอ แต่อัมโมริมเขาเก่งในแบบฉบับหลัง 3 ประตูเหนียว กลางแน่น ตัวรุกคล่องและหน้าคม

และในชุดสต๊าฟ ก็เก่งในระบบนี้ทั้งหมด หากจะเปลี่ยน กลายเป็นว่า โหมดทั้งหมด ต้องยกโขยงใหม่... มันจะคุ้มเหรอ หากสุดท้าย มันก็ยัง ใน มาที่เดิม ที่เตะ 31 นัดมี 31 คะแนนอะไรแบบนี้

เซอร์ จิม เขาก็รู้ดีว่า หากอยากให้แมนยูเริ่มใหม่หมด เขาก๋ต้องยอมแลกด้วยเรื่องแบบนี้อยู่แล้วเพราะมันจะยั่งยืนกว่า หากอัมโมริมทำได้

แต่ตะมีแค่แฟนบอลนี่แหล่ะ ดูเหมือนจะรอไม่ได้เพราะมัวแต่มองลิเวอร์พูลว่าเหนือกว่าทุกอย่าง ลองไม่ใช่ลิเวอร์พูลสิหรือลิเวอร์พูลก็ตกต่ำเหมือนกัน แต่เป็นแมนซิตี้หรืออาร์เซนอลครองลีค ผมเขื่อว่าแฟนแมนยูยอมรัยได้กับอัมโมริมแน่นอน

แต่พอลิเวอร์พูล ขึ้นหิ้งนานแค่นั้นแหล่ะ ดูแต่ละข่าวระดับตำนานแมนยูออกมาตำหนิสโมสรหรืออัมโมริมสิ มันก็เกินไปนะผมว่า

*** วกไปเรื่อง อัมโมริม เรียนเก่งแต่แค่ทำงานยากไม่เป็น คนเก่งๆ ยังไงผมก็มองว่า เขาก็น่าจะหาทางออกได้ครับแค่อาจจะใช้เวลา.. ดูนัดล่าสุดสุดสิ การโต้กลับแบบนั้นมันสวยงามมากๆเลยนะครับสำหรับฟัตบอล แต่แค่มันไม่เข้า!!!

คำพูดมากมายความหมาย...เซฟริม

ผมว่าอโมริมไม่ได้เหมือนคนเรียนเก่ง อาจจะเก่งที่โรงเรียนบนดอย แต่ลงมาในเมืองเรียนสู้คนอื่นไม่ได้
ผมยังไม่รู้สึกถึงแววความเก่งเลยซักนิด โค้ชเก่งๆ จะสามารถปรับแผนปรับระบบการเล่นไปตามนักเตะที่ตัวเองมีอยู่ได้ อย่างเช่น อลอนโซ่ที่ใช้แผนหลัง 3 ที่เลเวอร์มาตลอด แต่พอมามาริดแล้วลองแผนหลัง 3 ไม่เวิร์คตอนนี้ก็เปลี่ยนมาเล่นหลัง 4 หรือสล็อตนี่เปลี่ยนระบบการเล่นตลอด ปีนี้กับปีที่แล้วก็ไม่เหมือนกันเพราะปรับไปตามนักเตะที่เปลี่ยนไป โค้ชเก่งๆ ทุกคนที่ผมเห็น สามารถปรับเปลี่ยนระบบการเล่นไปตามนักเตะที่มี เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ระหว่างเกมที่เปลี่ยนไปได้ตลอด แต่อโมริมไม่มีแบบนั้น หรือมีก็น้อยมาก

ผมแฟนผมนยูคนนึง

ผมคิดว่าถ้าที่ยกตัวอย่างมาว่า (ถ้าลิเวอร์พูลตกต่ำอยู่เช่นเดียวกัน)
ผมคิดว่าก็ยังอยากให้เปลี่ยนโค้ชอยู่ดี จากผล จากรูปเกม จากทรงบอล จากเบื่อหลัง3(ส่วนตัว) จากลูกรัก(ส่วนตัว) ครับ

ให้เป็นดร.หรือศ. แต่สอนหนังสือให้เด็กไม่รู้เรื่อง ในแง่การเรียน จบแค่ป.ตรีอาจมีประโยชน์มากกว่า

ตลก เอาการเปลี่ยนระบบไปเทียบการทำงานในชีวิตจริง ทำย๊ากกกยากกก
โอย คุณพี่ เปลี่ยนฟอเมชั่นก็แค่เหมือนเปลี่ยนจากนั่งรถเมล์ เป็นนั่งรถไฟ นั่งรถไฟเป็นนั่งวินแค่นั้นแหละ ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนขนาดนั้น
ทรัพยากร ที่ทำงานไม่เหมาะจะใช้รถเมล์ ก็ลองเดินทางวิธีอื่นไปสิ ไปทำงานสายทุกวัน ยังนั้นนั่งรถเมล์สายเดิม เวลาเดิม แล้วหวังว่าวันนึงมันจะเข้างานทัน นี่ตรรกะไม่ใช่แล้ว

ปล. แฟนหงส์ช๊อบชอบบ ความเห็นเซฟริมแบบนี้

ห่วงว่าเพื่อนรักจะพลาดไล่ของดีไป

ต้องช่วยกันเซฟครับ คนเราต้องให้โอกาส

เออ ให้มันคุมจนตกชั้น ค่อยเปลี่ยน

ถ้าเรียนเก่ง ทำไมไม่เรียแผนหลัง4มาด้วย

คุณเคยได้ยินสุภาษิตนี้มั้ยครับ

ผมไม่กลัวคนที่เตะได้เป็น1000ท่า ผมกลัวคนที่เตะท่าเดียวเป็น1000ครั้ง

นั่นแหละริม

ปล.เซฟริม

จริงครับ เอาเป็น 1000 ท่ากับคนเดียว ไม่สู้เอาท่าเดียวกับ 1000 คน

มีปีนึงที่ไบรตันฟอร์มดี บางนัดก็เล่นหลัง 4 บางนัดก็หลัง 3 มันไม่ได้เปลี่ยนยากขนาดนั่น