ผมว่าไม่ยิ่งใหญ่เท่านี้อะ ไปอ่านประวัติแกโคตรติสเลยนะ ละไอ้ไอโฟน ตอนแรกแกก็ไม่อยากทำ จะดันแต่ไอพอด จนวิศวะทั้งทีมไปอ้อนวอน แกถึงยอมทำ

Jobs แค่เป็นคนที่หาคนและใช้คนเก่ง + มี taste ในการจิ้มเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้ไปต่อเฉยๆ

ประเด็นคือเสาหลักในเรื่องดีไซน์อย่างเซอร์ไอฟ์ก็ลาออกไปนานแล้ว (ตั้งแต่ไอโฟน 13 มั้ง?)

ส่วนตัวผมมองว่าแอปเปิ้ลถ้ายังอยู่ในมือของจ็อบส์ ไม่มีทางยิ่งใหญ่เท่าปัจจุบันนี้แน่ๆในแง่มูลค่าบริษัท รวมถึงจำนวนผู้ใช้ไอโฟนอาจจะไม่ได้เยอะขนาดนี้ก็ได้ ทั้งหมดทั้งมวลนี่เป็นเพราะทิมคุกกับทีมทั้งนั้น

อย่างเริ่มต้นก็ได้ ถ้าจ็อบส์ยังอยู่ คนคุมเรื่องซอฟต์แวร์จะยังเป็นสก๊อต ซึ่งโดนอัปเปหิไปเพราะความล้มเหลวของ Apple Maps ในช่วงแรก ถ้ายังอยู่ ผมมองว่า iOS ไม่มีทางได้มาถึงทุกวันนี้ เครดิตตรงนี้ยกให้เครก

คนที่คุมเรื่องดีไซน์จะเป็นเซอร์ไอฟ์ แต่แมคบุ้คก็จะเป็นสภาพแบบ Macbook 12 (ไอที่พอร์ต usb ตัวเดียวนั่นแหละ) เพราะแกเป็นคนแบบเดียวกับสก๊อต ไม่ยอมหักกับไอเดียตัวเอง ดีที่ว่า Macbook ตัวปกติตายไป แล้วกลับมาผลักดัน Macbook Air จนผลักดันชิป Apple Silicon มันเย็นเลยเอาพัดลมออกได้สำเร็จ

รวมถึงดีไซน์เรื่องจอใหญ่เนี่ย ผมมองว่ามันจะออกมาทรงแบบ Xperia ไปเลย คือแกจะยอมใช้จอ 21:9 เพื่อให้ยังสามารถใช้มือเดียวกดมือถือได้อยู่แบบสมัย iPhone 4/5 (ผลงานสุดท้ายของแกที่คุมคือ iPhone 5 นะครับ ไอที่ขยาย 4.7/5.5 นี่คือหลังงานที่แกเซ็นมาเป็นยุคทิมเซ็นแล้ว) แล้วก็คงสภาพแบบนั้นไปเรื่อยๆ

เรื่อง Breakthrough ผมว่าแกไม่ใช่เทพเจ้าอะ ไอ Apple Watch ผมเดาว่าคงมาไวกว่าไทม์ไลน์เรา ของเรามาพร้อมกับ iPhone 6/6+ แต่ของยุคจ๊อบส์น่าจะ iPhone 5 นู่นหรือ 4S เลยก็ได้ เพราะแกน่าจะไล่บี้ Garmin ในยุคนั้นแน่ๆ

ผมไม่อยากให้คนมองว่ายุคจ๊อบส์มันจะมีนวัตกรรมอะไรมหาศาลแบบนั้นทุกปีอะ ยุคจ๊อบส์เนี่ยพูดกันตามตรงคือเป็นยุคที่รีบผลักดันของมากๆ แต่ผู้ใช้คือกลายเป็นหนูทดลองประจำ เน้นงานดีไซน์จ๋าๆแบบไม่สนเรื่องงานวิศวกรรม ผลคือของหลายชิ้นระยะยาว (ไม่เกิน 4-5 ปีด้วยซ้ำ) อยู่ไม่ทนเท่าไหร่เลย (ไม่นับเรื่องแบตเสื่อม)
อย่าง Mac Cube G4 ก็พังเพราะไม่มีระบบระบายอากาศ ยุคนั้นใช้ชิป PowerPC ยังร้อนอยู่ก็เลยเป็นเตาปิ้งชิป
อย่าง Macbook Titanium อันนั้นก็บานพับแตกกันเป็นเรื่องประจำตัว เพราะแกรั้นจะเอาบานพับให้เล็กที่สุด
อย่าง iMac ทานตะวัน อันนั้นแกรั้นจะให้ได้ช่อง CD แบบดูดเหมือนรถไม่ใช่แบบถาด ผลคือไอแบบดูดพังไวกว่าแบบถาดอีก

หรือไอโฟนก็ได้ในยุคของแกงี้
iPhone 2G ก็เจอปัญหาการใช้งาน ช่องหูฟังต้องเป็นแบบหัวแคบ สุดท้ายมาแก้งานใน iPhone 3G
iPhone 3GS เจอปัญหาพลาสติกด้านหลังกรอบแตก เคลมกันเป็นว่าเล่นเลยมั้ง
iPhone 4 ก็เจอเรื่องสัญญาณถ้าจับไม่ถูกต้อง มาแก้เอาใน iPhone 4S เชื่อมเสาเหล็กไป
iPhone 5 เจอปัญหาเรื่องสีถลอกง่ายเกินไป มาแก้เอาใน iPhone 5s (แก Approve อันสุดท้ายคือ IP5)

หลายคนบอกงานยุคทิมมันน่าเบื่อ ประเด็นคือ นวัตกรรมมันไม่ใช่สิ่งที่อยู่ดีๆหาได้ในอากาศอะครับ
กว่าจะมี iPod อันนั้นก็เพราะเครื่องเล่นเพลงแม่งห่วยแตกแกก็เลยมาปรับปรุงในแบบของแอปเปิ้ล
กว่าจะมี iPhone อันนั้นก็เพราะแกเบื่อโทรศัพท์สมาร์ทโฟนแป้นพิมพ์ยาวๆในยุคนั้น
กว่าจะมี iPad อันนี้ก็เพราะโปรเจคตอนแรกของ iPhone คือการทำแท็บเล็ต แต่แกเก็บไว้ก่อนเพราะยุคนั้นโทรศัพท์มือถือกินยอด iPod แรงมากๆ
กว่าจะมี Apple Watch ก็เพราะไปเห็นพวก Wearable ในตลาดตอนนั้นมีแต่ของกิ๊กก๊อกเต็มไปหมด กามินก็แพงหูดับแต่ซอฟต์แวร์ยังดูเก่าๆและไม่ User Friendly ขนาดนั้น

อ่านๆดู Jobs โดนเนิร์ฟ ขนาดนี้เลยรึ 55555+

เนิร์ฟกันเกินไป๊

เรื่องจ๊อบส์ไม่ชอบจอใหญ่นี่พอเถอะ แกแค่ขายของที่ทำมาในตอนนั้น และตลาดเวลานั้นก็ยังไม่ได้ต้องการจอที่มันใหญ่ที่จะไปเพิ่มต้นทุนของที่ทำ ถ้าแกเป็นคนชอบจอเล็กคงไม่ได้เห็น Macbook Pro 17 นิ้ว iPod ที่จอใหญ่ขึ้นตลอด iMac ก็จอใหญ่ขึ้นตลอด มันแค่ evo ไปตามสภาวะตลาด

สตีฟ จ๊อบส์มีความสามารถอย่างหนึ่งคือเป็น visionary ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีใครที่มองขาดได้อย่างแก คนที่สามารถออกผลิตภัณฑ์แล้วเปลี่ยนอุตสาหกรรมได้ ทำสำเร็จได้หลายครั้งหลายรอบ แปลว่าไม่ได้ฟลุ๊คไม่ใช่โชคช่วย ในยุคของแกเวลา Apple เปิดตัวอะไรมันถึงได้มีความว้าวซ่าอยู่ตลอดเวลา

ความต่างของ Apple ในมือสตีฟ จ๊อบส์คือ Apple จะเป็นบริษัทที่ทำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ก่อนใครอยู่เสมอ เรื่องนี้จ๊อบส์อธิบายว่าอุตสาหกรรมต่างๆ มีช่วง Sunrise - Sunset แกแค่ต้องหาสิ่งที่เป็น Sunrise แล้วเข้าไปทำก่อน แล้วความที่มองขาดก็จะหาจุดที่คนต้องการได้ตลอด

ส่วน Apple ในมือทิม คุก คือไม่ขอทำก่อน รอชาวบ้านทำแล้วค่อยทำออกมา และด้วยความที่ขาด vision อย่างสตีฟ จ๊อบส์ พอออกโปรดักค์ใหม่มาก็จะมีความงงๆ ว่าคนจะเอาไปทำอะไร ต้องงมหาทางเรียนรู้ปรับอยู่อีกหลายเจนจนกว่าจะเจอทางชัดเจน ตัวอย่างคือ Apple Watch กับ Vision Pro ซึ่ง Apple Watch ต้องรอถึง Series 4 ล่ะมั้งกว่าจะจับได้ว่าต้องเน้นเรื่องสุขภาพ ส่วน Vision Pro ปัจจุบันยังหาทางไปไม่เจอ ผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างเดียวของทิม คุกที่ออกมาแล้วคนไม่งงคือ Airpods ซึ่งก็เป็นผลิตภัณฑ์ในแนวทิม คุก คือเอาของเก่ามาทำใหม่ให้ดีกว่าเดิมแค่นั้น

ส่วนเรื่องอื่นๆ เช่น พวกพยายามเอาทุกอย่างมาทำเอง นี่คือสันดานจ๊อบส์ที่วางไว้เป็นดีเอ็นเอของ Apple เลยก็ว่าได้

ทิม คุก เก่งและมีฝีมือในการบริหารให้ Apple ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง แต่เกือบทั้งหมดมาจากรากฐานวิธีคิดที่จ๊อบส์วางไว้ให้กับ Apple และทิม คุกก็ยังไม่สามารถจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เปลี่ยนอุตสาหกรรมโลกที่เคยมีมาอย่างที่จ๊อบส์ทำได้สักครั้ง

ทุกวันนี้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ Apple ผมกลับเห็นเงาของความกลัวและไม่กล้าที่จะทำอะไรใหม่ๆ จนสุดท้ายก็เดินกลับไปหาผลิตภัณฑ์ในรูปแบบของสตีฟ จ๊อบส์เกือบทุกอย่าง เช่น Macbook Pro/Air ทรงเดียวกับ Powerbook ไอโฟนตั้งแต่ 12 ขึ้นมาก็กลับไปใช้ทรงของ iPhone 4 หรือตัวล่าสุดอย่าง iPhone 17pro ก็กลับไปใช้วิธี unibody แบบเดียวกับ Macbook ที่ออกมาเกือบจะยี่สิบปีแล้ว

ไม่มีสตีฟ จ๊อบส์ ก็ไม่มี Apple และก็อาจจะไม่มีทิม คุก ยอดนักบริหารองค์กร

และ Apple ยุคที่สตีฟ จ๊อบส์เป็นผู้นำ มีทิม คุกช่วยบริหาร Operation มีโจนาธาน ไอฟ์ทำงานดีไซน์ภายใต้ทิศทางที่จ๊อบส์วางไว้ให้ เป็นโลกที่น่าตื่นเต้นกว่าตอนนี้มากครับ