'แม่ทัพกุ้ง' พร้อมโฆษกกองทัพบก เฉลยแล้ว "ทหารมีไว้ทำไม?"
โอกาสนี้พลโทบุญสิน ได้เล่าประสบการณ์ที่ตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
ที่ทหารไทยต้องตรึงกำลังประจันหน้ากับฝ่ายตรงข้าม ท่ามกลางข้อจำกัดและแรงกดดันมหาศาล
พร้อมได้กล่าวสดุดีเหล่าทหารกล้าที่เสียสละเพื่อแผ่นดินไทย
แสดงความเสียใจต่อประชาชนผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ครั้งนี้
พร้อมประณามการกระทำของทหารกัมพูชา
ที่โจมตีเข้ามาด้วยอาวุธหนัก โดยไม่เลือกเป้าหมาย จนประชาชนชาวไทยเสียชีวิต
พร้อมเน้นย้ำกับเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมฟังบรรยายในวันนี้ด้วยว่า
ขอให้ยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของชาติ
มีความรักชาติความหวงแหนในผืนแผ่นดินไทยที่เรากำเนิด
จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และช่วยกันทำนุบำรุงศาสนา
ร่วมแรงร่วมใจสามัคคีกันเป็นพลัง
ให้ประเทศไทยก้าวผ่านความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบันอย่างมากมายไปให้ได้
ยอมรับว่า ทหารในยุคปัจจุบันถูกท้าทายด้วยหลายปัจจัย
ทั้งสภาพเศรษฐกิจและสถานการณ์ทางการเมือง
โดยเฉพาะคำถามที่ว่า “ทหารมีไว้ทำไม”
ซึ่งเชื่อว่าตอนนี้พี่น้องประชาชนน่าจะได้คำตอบที่ชัดเจนแล้วว่า “ทหารมีไว้ทำไม?”
และจากสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน ไทย – กัมพูชา ที่เกิดขึ้นนี้
ประชาชนทุกคนถือเป็นกำลังรบสำคัญของกองทัพไทย
เป็นสนามรบในด้านข้อมูลข่าวสารที่เกิดขึ้นตลอดเวลา
รวมไปถึงกำลังใจและแรงสนับสนุนทุกรูปแบบที่มีให้กับกองทัพเสมอมา
ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารทุกนายปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มความสามารถ
ด้านโฆษกกองทัพบกได้กล่าวถึงบทบาทการสื่อสารในฐานะโฆษกกองทัพบกว่า
ทำหน้าที่เชื่อมโยงข้อมูลจากแนวหน้าสู่สาธารณชน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความเข้าใจ
พร้อมย้ำว่า กองทัพพร้อมยืนเคียงข้างประชาชนในทุกสถานการณ์
โดยเฉพาะในสนามรบด้านข้อมูลข่าวสาร
ที่ทุกคนถือเป็นกำลังสำคัญไม่แพ้ทหารแนวหน้า
โดยทางแม่ทัพกุ้งได้กล่าวเสริมเรื่องนี้พร้อมได้เชิญชวนนักเรียน นักศึกษา และคนรุ่นใหม่ที่มีหัวใจรักชาติ
เข้าร่วมสมัครเป็นทหาร โดยชี้ว่า กำลังพลที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอ
เพราะการฝึกนายทหารที่แข็งแกร่งต้องใช้เวลานับปี
ปัจจุบันทหารไทย 1 นายต้องต่อสู้กับข้าศึกมากถึง 10 นาย
จึงจำเป็นต้องพัฒนาคุณภาพกำลังพลให้เข้มแข็งยิ่งกว่าเดิม
พร้อมฝากข้อคิดให้เยาวชนใช้สื่อโซเชียลอย่างสร้างสรรค์
ไม่หลงเชื่อในข่าวปลอม แต่ช่วยกันเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้อง
เพื่อเสริมพลังทางสังคมไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและสง่างาม
https://www.thaipost.net/hi-light/862276/